บท
ตั้งค่า

บทที่ 4

เสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นเหมือนระฆังช่วยชีวิตพสุธา ชายหนุ่มขอตัวไปรับสาย ในขณะที่กรรวีก็จำต้องกลับมาบ้านเช่นกัน ก่อนจะโทรศัพท์ไปเมาท์กับดารัณถึงเรื่องนี้พร้อมเตรียมมื้อเย็นรอผู้เป็นพ่อไปด้วย

คืนนั้นเธอมานั่งเท้าคางอยู่บนโซฟาตัวยาวริมหน้าต่างเพื่อมองไปบ้านของพสุธา เพียงแค่นี้ก็สร้างความสุขให้เธอได้อย่างมากมาย แม้จะไม่ได้คุยกันแต่แค่รู้ว่าเขาอยู่ใกล้ๆ ก็พอ

“เมื่อไหร่อาดินจะขอมิลค์แต่งงานหรือคะ” ถามไปเธอก็เขินอายเสียเอง เพราะหากวันนั้นมาถึงจริงๆ เธอจะเขินจนทำตัวไม่ถูกหรือจะยื่นมือซ้ายออกไปให้เขาสวมแหวนเพชรตรงนิ้วนางกันนะ

แล้วถ้าถึงตอนนั้นเธอก็วาดฝันถึงงานแต่งงานไว้แล้วว่าจะจัดที่ไหน รูปแบบเป็นยังไง เล็กๆ อบอุ่นๆ ในสวนเน้นสีขาวสีเขียว มินิมอลน่ารักๆ

ชุดแต่งงานเธอก็เลือกแบบไว้แล้วด้วย ร้านเช่าชุดก็ยังเคยแวะไปดูมาแล้วว่าอยู่ตรงไหน ถ้าเข้าไปลองชุดได้เธอจะทำอย่างไม่ลังเล ของชำร่วยก็เลือกไว้แล้ว การ์ดแต่งงานอีก ทุกอย่างมีพร้อมรอเพียงเจ้าบ่าวเท่านั้นเอง

แต่ขณะที่กำลังนั่งฝันหวานอยู่นั้น จู่ๆ เธอก็เห็นพสุธาออกไปจากบ้าน โดยชายหนุ่มสวมชุดสบายๆ แม้จะเห็นแต่ไกลและอยู่ท่ามกลางความมืด เธอก็ยังรู้ว่าเขาหล่อ

“ดึกขนาดนี้แล้ว อาดินจะไปไหนนะ” กรรวีเอ่ยกับตัวเอง เธอคว้าโทรศัพท์มือถือมาถือไว้เพื่อจะกดโทรออกไปยังเบอร์ของพสุธา แต่จู่ๆ ก็เปลี่ยนความคิด

“ถ้าตามจี้ตามถาม อาดินจะรำคาญเราหรือเปล่า ไม่ได้ๆ ให้อาดินรำคาญไม่ได้เด็ดขาด” เอ่ยจบก็ส่ายหน้าแรงๆ เพื่อไล่ความคิด เพราะแม้อยากจะรู้ว่าพสุธาออกไปไหน ไปทำอะไรกับใคร แต่เธอก็ควรเคารพความเป็นส่วนตัวของชายหนุ่ม ไม่อย่างนั้นชีวิตรักก็คงไม่ยืดยาว

“ว่าที่เมียหลวงใจต้องนิ่ง หากอาดินทำผิด เราต้องรับคำขอโทษเป็นเงินสดเท่านั้น”

จุดหมายปลายทางของพสุธาคือร้านอาหารแห่งหนึ่ง โดยหนึ่งในกลุ่มเพื่อนที่นัดสังสรรค์กันมีสารัชร่วมอยู่ ด้วย ความที่ดื่มเหล้าไปหลายแก้วคืนนั้นเขาจึงนอนที่คอนโดมิเนียมแทน ในขณะที่กรรวีก็รอชายหนุ่มกระทั่งเผลอหลับไปแบบไม่รู้ตัว มาสะดุ้งอีกทีก็ตอนได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก

“อาดินหายไปทั้งคืนเลยเหรอ” กรรวีงัวเงียถามตัวเอง ก่อนจะตั้งสติแล้วลุกไปอาบน้ำเพราะวันนี้เธอยังต้องไปทำงาน แต่ตลอดทั้งเช้าก็เอาแต่ชะเง้อมองหาชายหนุ่มข้างบ้านจนเกือบไปทำงานสาย

วันนั้นทั้งวันกรรวีแทบไม่มีสมาธิทำงาน เพราะอยากรู้ว่าเมื่อคืนพสุธาไปนอนที่ไหนหรือตอนนี้เขาทำอะไรอยู่ เธอจึงหยิบโทรศัพท์มาถือไว้แล้วกดส่งข้อความไลน์ออกไปหาเขาแทน

‘เมื่อเช้า อาดินออกจากบ้านกี่โมงคะ พอดีมิลค์ตื่นมาแล้วไม่เจอรถอาดิน’

ขณะรอให้อีกฝ่ายเปิดอ่านข้อความ กรรวีก็นั่งใจเต้นอย่างไม่เป็นจังหวะตามเคย ยิ่งขึ้นว่าอ่านแล้วเธอก็แทบตะโกน

‘เมื่อคืนอาไม่ได้นอนที่บ้านครับ พอดีออกมากินข้าวกับเพื่อนแล้วดื่มมากไปหน่อย เลยมานอนคอนโดโมแทน’

โมหรือสารัชคือเพื่อนสนิทของพสุธา ซึ่งก่อนหน้านี้กรรวีเคยเจอเขามาที่บ้านชายหนุ่มหลายครั้ง แต่ก็ไม่ค่อยได้คุย เจอกันทีไรก็ส่งยิ้มทักทายเท่านั้นเอง

‘ดีแล้วค่ะ เมาไม่ขับ’

‘อามีประชุม แค่นี้ก่อนนะครับ’

‘ค่ะ อาดินสู้ๆ’

นอกจากข้อความที่ส่งไปให้แล้ว กรรวียังส่งสติ๊กเกอร์ที่มีเสียงคำว่าสู้ๆ ไปให้ชายหนุ่มอีก หวังว่าเขาจะมีกำลังใจทำงานทั้งวัน ส่วนเธอแค่เขาอ่านไลน์ก็ดีใจมากแล้ว

กรรวีไม่ได้หวังให้พสุธาตอบไลน์เธอทุกวันหรือทุกครั้งที่เธอส่งหา แค่เห็นว่าเขาเปิดอ่านมันเธอก็ดีใจจนอยากตะโกนให้คนทั้งโลกได้ยิน ตอนนี้เธอเหมือนผู้หญิงคลั่งรักไปเสียแล้ว เพราะมองอะไรก็สวยงามเป็นสีชมพูและเป็นหน้าพสุธาไปหมด

ในขณะที่กรรวีกำลังคลั่งรัก อีกฝ่ายที่รู้ตัวเองดีว่าหลงรักเด็กสาวข้างบ้านมานานก็เริ่มตีตัวออกห่าง เพราะคิดว่าเขานั้นไม่เหมาะสมกับเธอ หวังว่านี่จะเป็นความคิดที่ดี หลังเลิกงานชายหนุ่มก็กลับมาที่บ้านเพื่อเอาชุดสูท เพราะพรุ่งนี้ตั้งใจว่าจะไปงานเลี้ยงรุ่น

จังหวะที่เขาขับรถออกไปก็สวนกับรถของกรรวีที่กำลังเลี้ยวเข้าบ้านมา เธอเอี้ยวตัวมองรถของชายหนุ่มจนคอแทบเคล็ด อยากกจะโทรไปถามว่าไปหนก็ไม่กล้า จึงได้แต่ขับรถเข้าบ้าน พอลงจากรถมาก็ได้ยินเสียงพ่อที่ตอนนี้กลับจากที่ทำงานแล้วเอ่ยถามขึ้น

“ทำไมหน้าหงอยขนาดนั้นลูก”

“หนูรู้สึกว่าพักนี้อาดินทำตัวห่างเหิน” กรรวีทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างเศร้าๆ ตอนเธอเป็นเด็กพสุธาให้ความสนิทกว่านี้มาก แต่ทำไมพอเธอโตขึ้นเขาถึงทำตัวห่างเหิน

“ดินงานยุ่งหรือเปล่า” สาครเอ่ยบอก ไม่อยากพูดอะไรให้ลูกสาวสะเทือนใจ เพราะเขาก็ดูออกว่าพสุธาตั้งใจทิ้งระยะห่างกับลูกสาวเขา และเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ที่กรรวีเริ่มโตเป็นสาว

“ยุ่งจริงหรือตั้งใจให้ยุ่งก็ไม่รู้”

“นี่มิลค์”

“ค่ะพ่อ” กรรวีเอ่ยรับแล้วเงยหน้าขึ้นมองพ่อ

“จนถึงตอนนี้ลูกก็ยังรักดินไม่เปลี่ยนเหรอ”

“ค่ะ” น้ำเสียงหนักแน่นของกรรวีเอ่ยรับ ใจหนึ่งของสาครก็รู้สึกดีใจที่ได้ยินแบบนี้แต่ทว่าอีกใจก็กังวล เพราะหากรักครั้งนี้ไม่สมหวังกรรวีก็คงเจ็บไม่น้อย

“แล้วถ้าวันหนึ่งดินเขามีคนรักหรือแต่งงานขึ้นมา ลูกจะทำยังไง”

“หนูคงอิจฉาผู้หญิงคนนั้นมากๆ แต่ถึงอาดินจะไม่รักหนู หนูก็จะยังรักอาดิน รักตลอดไป” น้ำเสียงของกรรวีสั่นเครือเล็กๆ ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้

เธอเคยคิดและเคยถึงขนาดซ้อมรับมือกับความเจ็บปวดมาแล้ว แต่สุดท้ายก็ปัดทิ้งแล้วเลือกที่จะเก็บเพียงภาพดีๆ ไว้เท่านั้น

“เผื่อใจไว้บ้างก็ดีนะลูก ของแบบนี้เราไปฝืนใจใครเขาไม่ได้หรอก”

“หนูรู้ค่ะ แต่ก่อนที่วันนั้นจะมาถึง หนูขอสู้ให้สุดแรงสักตั้งก่อนนะคะพ่อ เผื่ออาดินจะใจอ่อนมองเห็นความรักที่หนูมีให้บ้าง”

“พ่อเอาใจช่วย แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ลูกก็ต้องรักตัวเองให้มากๆ เข้าใจไหม”

“ค่ะ” กรรวีส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อ แล้วโผเข้าไปกอดอย่างขอบคุณที่พ่อนั้นอยู่เคียงข้างเธอเสมอ พ่อที่เป็นทั้งพ่อและแม่เป็นซุปเปอร์ฮีโร่ของเธอ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel