บท
ตั้งค่า

บทที่ 3

“สายแล้ว สายแล้ว” กรรวีบ่นกับตัวเอง ก่อนจะคว้ากระเป๋าสะพายขึ้นมาถือไว้ตามด้วยกุญแจบ้านและกุญแจรถ หลังจากจัดการล็อคบ้านเรียบร้อยก็ขับรถอีโก้คาร์คันเล็กสีสดใสออกไปทำงาน รถคันนี้เป็นของขวัญจากพ่อที่ซื้อให้ในวันที่เธอสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ เห็นครั้งแรกเธอก็กรี๊ดจนเสียงแหบ เพราะสีของมันถูกใจมากแถมขนาดก็ยังกะทัดรัดเหมาะกับเธอ

จังหวะที่เธอกำลังเลี้ยวรถออกไปจากหน้าหมู่บ้านก็เป็นจังหวะเดียวกับที่พสุธาเลี้ยวรถสวนเข้าไป ชายหนุ่มกลับมาเอาของและมาในจังหวะที่คิดว่ากรรวีไม่อยู่บ้าน ส่วนเธอเหมือนจะเห็นรถของชายหนุ่มผ่านหางตาไปแวบๆ แต่ก็ต้องขับรถออกถนนใหญ่ไปเสียก่อน

“ใช่รถอาดินหรือเปล่า” กรรวีเอ่ยถามตัวเอง แม้จะอยากกลับรถไปดูให้แน่ใจแต่ก็ทำแบบที่ใจคิดไม่ได้ เธอหยุดคิดเรื่องนี้ไว้ก่อน แล้วขับรถมุ่งหน้าไปยังบริษัทที่ทำงานที่ตอนนี้เธอเริ่มงานที่นั่นได้หนึ่งเดือนแล้ว

แม้ในใจจะมีพสุธาอยู่เต็มทุกห้อง

แม้จะอยากใช้ฆ้อนทุบหัวแล้วลากเขากลับเข้าบ้าน

แม้จะอยากให้เขาเอ่ยปากขอแต่งงานหรืออะไรก็ตามที่ทำให้เธอกับเขาได้อยู่ด้วยกัน

แต่ความเป็นจริง จนถึงตอนนี้เธอก็ยังใจสั่นทุกครั้งที่อยู่ใกล้ชายหนุ่มหรือว่าเธอจะรักเขามากจนเกินไป ยิ่งตอนนี้เธอเรียนจบแล้วด้วยก็ยิ่งอยากให้เขามาคุกเข่าขอแต่งงานเร็วๆ ถ้าช้าเธอนี่แหละจะเป็นฝ่ายขอเขาแต่งงานเอง คอยดู

คิดเรื่องพสุธาอยู่เพลินๆ เสียงโทรศัพท์มือถือของ กรรวีก็ดังขึ้น และคนที่โทรเข้ามาก็ไม่ใช่ใครอื่น

“ว่าไงแก”

“อยู่ไหน” ดารัณเอ่ยถาม แต่ก็พอจะเดาคำตอบได้

“กำลังไปทำงาน แกอะ”

“อยู่ที่ทำงานแล้ว”

“อิจฉาคนมีออฟฟิศใกล้รถไฟฟ้า” กรรวีแกล้งพูดออกไป

“อย่ามาอิจฉาเลย เพราะการเดินทางบนรถไฟฟ้าในชั่วโมงเร่งด่วนมันสาหัสมากแกเอ๊ย เบียดเข้าไปสิ เบียดจนฉันจะได้เสียกับคนข้างๆ อยู่แล้ว” คำพูดของดารัณทำให้คนฟังหัวเราะออกมา

“พูดซะเห็นภาพ แบบนี้คงไม่ซื้อรถแล้วสิ”

“ก็อยากได้ แต่ขี้เกียจหาที่จอดอีกนั่นแหละ ที่สำคัญคอนโดฉันก็อยู่ติดรถไฟฟ้า ซื้อรถมาก็คงไม่ค่อยได้ใช้หรอก” ดารัณอธิบาย เธอเก็บเงินดาวน์รถไปลงหุ้นน่าจะได้กำไรมากกว่า

“ก็จริง เออ...ตะกี้ตอนขับรถออกมาจากหน้าหมู่บ้าน ฉันเหมือนเห็นรถอาดินเลี้ยวสวนเข้าไป”

“แกตาฝาดไปเปล่า”

“ไม่ฝาด ฉันมั่นใจว่าเห็นจริงๆ” กรรวีเชื่อในเซ้นต์ของตัวเอง พอรู้ว่าชายหนุ่มกลับมาแล้วแบบนี้ หัวใจของเธอก็เต้นไม่เป็นจังหวะเสียแล้ว

“เดี๋ยวเย็นนี้แกก็รู้เองแหละ ตอนนี้ตั้งใจขับรถไป พักเที่ยงค่อยเมาท์”

“โอเค งั้นแค่นี้ก่อนนะ” เอ่ยรับเสร็จกรรวีก็วางสายไป เธอขับรถไปอีกราวๆ ครึ่งชั่วโมงก็ถึงที่ทำงาน ซึ่งอยู่แถบชานเมือง พอมาถึงก็มีงานให้ทำทันที กว่าจะมีเวลาได้คุยกับดารัณอีกทีก็เกือบเที่ยงจริงๆ

เพราะวันนี้มีพลังพิเศษเติมใจมาตั้งแต่เช้า กรรวีจึงสดใสตลอดทั้งวันและเมื่อกลับมาถึงบ้านแล้วเห็นว่ารถของพสุธาจอดอยู่ในบ้านชายหนุ่ม เธอรีบจอดรถแล้วเดินจ้ำไปหาเขาทันที

ส่วนเจ้าบ้านที่วันนี้ตัดสินใจมาบ้านเพื่อเก็บของใช้ส่วนตัวบ้างอย่างสำหรับนำไปใช้ที่คอนโดมิเนียมเห็นเธอเข้า จึงเดินออกมาทักเพราะเก็บตัวอยู่ในบ้านเงียบๆ ไปก็คงไม่มีประโยชน์อะไร

“สวัสดีครับมิลค์”

“สวัสดีค่ะอาดิน อาดินกลับมานานแล้วหรือคะ”

“เมื่อเช้านี้เองครับ”

“ว่าแล้วไม่มีผิด เพราะเมื่อเช้ามิลค์เหมือนเห็นรถ อาดินขับผ่านตาไป” กรรวียิ้มกว้างออกมา ตอนไม่เจอหน้าเธอคิดถึงพสุธาเหลือเกิน แต่พอได้เจอหน้ากันจริงๆ ความคิดถึงที่มีก็ยิ่งมีมากขึ้นไปอีก

“ครับ”

“แล้วตอนที่อาดินตอบข้อความมิลค์คืออยู่ไทยแล้วใช่ไหม”

“ครับ”

“อาดินกินข้าวหรือยังคะ” น้ำเสียงสดใสเอ่ยถาม ซึ่งความสดใสนี้ก็อันตรายจนพสุธาต้องรีบออกให้ห่าง เพราะหากปล่อยไว้มันจะยิ่งยาก

“เรียบร้อยแล้วครับ”

“ว้า! นึกว่ายังไม่ได้กิน มิลค์จะได้ชวนไปกินด้วยกันที่บ้าน” เพราะรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ ทำให้กรรวีสามารถเข้านอกออกในบ้านของพสุธาได้ตลอดเวลา ในขณะที่ชายหนุ่มก็สามารถทำเช่นนั้นได้เพราะเขาเองก็มีกุญแจสำรองบ้านของกรรวีเช่นเดียวกัน

ก่อนนี้เขาก็แวะไปบ่อย แต่เมื่อกรรวีเริ่มโตเขาก็เริ่มหาข้ออ้างที่จะไม่ไปมากขึ้น ในขณะที่ตอนเด็กๆ กรรวีก็ชอบมาวิ่งเล่นที่บ้านเขา เพราะเมื่อก่อนมีบ่อปลาคร์าฟให้เธอได้แวะมานั่งเล่นและให้อาหารมัน แต่ตอนนี้เหลือแค่บ่อเพราะบรรดาปลาคร์าฟชิงตายไปหมดแล้ว

เธอโตเขาก็ยิ่งทำตัวเหินห่าง ในขณะที่เธอก็ยังคงเข้าใกล้เขาอย่างสม่ำเสมอ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่จู่ๆ กรรวีก็โผล่เข้ามาในบ้าน ซึ่งตอนนั้นเขาพึ่งอาบน้ำเสร็จแต่ยังแต่งตัวไม่เรียบร้อยก็ลงมาหยิบเอกสารที่ลืมไว้ในห้องรับแขก เธอจึงเห็นเขาเข้าพอดี

จำได้ว่าตอนนั้นเธอกรี๊ดออกมาอย่างตกใจ แต่กลับยืนจ้องเขาตาไม่กะพริบ พอตั้งสติได้ก็วิ่งกลับบ้านไปอย่างรวดเร็ว เธอหายหน้าไปสองสามวันก็กลับมายิ้มสดใสให้เขาเหมือนเดิม

“ไว้โอกาสหน้านะครับ”

“ค่ะ...อาดินเห็นดอกพยับหมอกหรือยังคะ มันกำลังบานสวยเชียว”

“เห็นแล้ว ขอบคุณนะครับที่เข้ามารดน้ำต้นไม้ให้”

“ค่ะ” น้ำเสียงที่ยังคงสดใสเอ่ยรับ ก่อนที่จะเงียบไปครู่หนึ่งราวกับกำลังใช้ความคิด ก่อนที่กรรวีจะเอ่ยออกมา

“วันหยุดนี้อาดินว่างไหมคะ”

“อามีนัดแล้วครับ”

“เหรอคะ อดไปเลย” กรรวีคอตก เธอพยายามขอนัดพสุธาเพื่อจะไปทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยกันกับชายหนุ่ม จะได้เรียนรู้ว่าเธอกับเขาชอบอะไร แต่ก็กินแห้วอีกตามเคย เพราะหลายปีมานี้ชายหนุ่มไม่เคยตอบรับนัด ทีตอนเด็กๆ เธอชวนไปไหนเขาก็ไปด้วยตลอด คิดแล้วใจก็ห่อเหี่ยวแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังไม่หยุดรักเขา

“ไม่เป็นไรค่ะ ไว้โอกาสหน้าก็ได้” เอ่ยจบกรรวีก็เงยหน้าขึ้นแล้วส่งยิ้มกว้างให้พสุธา ทั้งๆ ที่เมื่อครู่เธอยังดูเศร้าอยู่ ซึ่งรอยยิ้มสดใสที่เห็นตรงหน้าก็ทำให้หัวใจของคนได้รับกระตุกเพราะความหวั่นไหว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel