บทที่ 2
“มีออกรับแทน กูละเบื่อพวกปากไม่ตรงกับใจ” เอ่ยจบสารัชก็เดินไปหยิบขวดเหล้าที่บ่มมาเป็นอย่างดีขึ้นมาถือไว้แล้วรินใส่แก้วสองใบ ก่อนจะส่งใบหนึ่งมาให้พสุธาที่ยังคงนั่งหน้าเครียดเหมือนคนคิดไม่ตก
สารัชดื่มเหล้าในแก้วใบสวยหมดแล้ว ในขณะที่พสุธายังคงถือไว้ก่อนจะจิบไปแค่สองสามอึกก็วางแก้วลง ชายหนุ่มเหลือบไปมองโทรศัพท์มือถือที่บังเอิญเด้งข้อความไลน์ของกรรวีขึ้นมาพอดี
“จะไม่อ่านหน่อยเหรอ”
“ไว้ก่อน” พสุธาเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยต่อ
“กูว่าจะขายบ้านวะ” คำพูดของพสุธาทำให้คนที่กำลังนั่งดื่มเหล้าเพลินๆ อย่างสารัชสำลัก นั่นเพราะไม่คิดว่าจะได้ยินประโยคแบบนี้
“มึงว่าอะไรนะ”
“กูบอกว่าจะขายบ้าน”
“ขายแล้วมึงจะไปอยู่ไหน”
“คอนโด” คนถูกถามเอ่ยตอบด้วยโทนเสียงต่ำๆ คล้ายกำลังชั่งใจอยู่
“อ้อ...ลืมไปมึงซื้อคอนโดไว้แล้ว”
“อืม...อีกสองสามอาทิตย์ก็ย้ายเข้าอยู่ได้”
“กูขอฟังเหตุผลมึงหน่อยว่าทำไมถึงจะขายบ้าน ไหนเคยบอกว่ายังไงก็ไม่ขายเด็ดขาด”
“ก็ตอนนี้กูไม่ค่อยได้อยู่ อีกอย่างบ้านก็โทรมมากด้วย กูมาอยู่คอนโดสะดวกกว่า” พสุธาให้เหตุผลหลายข้อ แต่เหมือนคนฟังจะไม่เชื่อ
“เหตุผลฟังขึ้นแต่ทำไมกูไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่วะ”
“แล้วแต่มึงแล้วกัน เบื่อจะพูดแล้ว” เอ่ยจบก็ยื่นมือไปคว้าแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม คราวนี้มากหน่อยเพราะเหล้าหายไปครึ่งค่อนแก้ว
“มึงนี่ก็แปลก มีผู้หญิงสาวๆ สวยๆ มาชอบกลับไม่ชอบ งั้นกูขอจีบแล้วกัน ขาวหมวยสวยอวบอิ่มแบบมิลค์นี่สเปคกูเลย”
“ไม่” เสียงห้วนๆ ของพสุธาเอ่ยปฏิเสธแทบจะทันที
“ไอ้เหี้ย หวงก้างนี่หว่า”
“ปล่อยมิลค์ให้ไปเจอคนที่ดีกว่ากูกับมึงเถอะ” เอ่ยจบพสุธาก็ส่งเหล้าเข้าปาก คิ้วหนาได้รูปขมวดเข้าหากันยามถูกเหล้าบาดคอ
“อืม...แล้วเสาร์นี้มึงจะไปงานเลี้ยงรุ่นไหม” สารัชเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะรู้ว่าคุยเรื่องนี้ไปก็คงไม่ได้คำตอบอยู่ดี ที่ต้องถามเพราะตั้งแต่เลิกรากับคนรักเก่า พสุธาไม่เคยไปร่วมงานเลี้ยงรุ่นเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“คงไม่ไป”
“แต่กูว่ามึงควรไป”
“ทำไมมึงถึงคิดว่ากูควรไป ขอฟังเหตุผลหน่อย” พสุธาเอ่ยถาม เพราะสองสามปีมานี้สารัชรบเร้าให้เขาไปงานเลี้ยงรุ่นทุกปี
“ไปเจอเพื่อนเก่าบ้าง”
“ก็เจอกันตลอด ไม่เห็นต้องเจาะจงไปงานเลี้ยงรุ่นให้วุ่นวาย” เมื่อถูกต้อนมากๆ เข้า สารัชก็เลิกชักแม่น้ำทั้งห้า แล้วบอกวัตถุประสงค์ที่แฝงไว้ออกไป
“ไปเจอแต้วก็ได้อะ” คำพูดของสารัชทำให้พสุธาชะงักไปนิดหน่อย แต่อะไรที่มันเป็นอดีตไปแล้วสำหรับเขาก็คืออดีต เพราะตั้งแต่เลิกราเขากับอัญญาก็แทบไม่ได้ติดต่อกันเลย
“กูไม่เห็นมีความจำเป็นต้องทำแบบนั้น”
“จากใจกูเลยนะมึง กูอยากให้มึงกับแต้วรีเทิร์นกัน เพราะตอนนี้มึงก็โสดแต้วก็โสด สาเหตุที่พวกมึงสองคนเลิกกันในตอนนั้นเพราะไม่มีเวลาให้อีกฝ่าย แต่ตอนนี้กูว่า...”
“เรื่องงานเลี้ยงรุ่น เดี๋ยวกูให้คำตอบมึงอีกที” พสุธาเอ่ยตัดบท
“โอเคๆ” สารัชเอ่ยรับแล้วกลับไปนั่งดื่มเหล้าต่อ พสุธากับอัญญาคือเพื่อนกลุ่มเดียวกัน การที่พวกเขารักและเลิกรากันเขาล้วนอยู่ในเหตุการณ์ทั้งสิ้น
ในขณะที่พสุธาก็นั่งจิบเหล้าอยู่เงียบๆ รสชาติของเหล้าที่กำลังบาดคอจนนิ่วหน้าทำให้เขารับรู้ได้ถึงปัจจุบัน เขากับอัญญาคบหากันมาตั้งแต่สมัยเรียน ความรักของเราทั้งคู่สวยงามถึงขั้นวางแผนเรื่องแต่งงานไว้ แต่สุดท้ายก็ต้องเลิกรา
เพราะเหตุนั้นทำให้เขาทำงานหามรุ่งหามค่ำ ใช้ชีวิตไปวันๆ เหมือนคนไร้จุดหมายไปพักใหญ่ และคนที่ทำให้เขาได้สติคือกรรวี แต่เขากลับไม่กล้าที่จะรับรักจากเธอ ไม่กล้าจริงๆ
เมื่อแยกย้ายกันเข้านอน พสุธาจึงใช้จังหวะนั้นเปิดข้อความกรรวีส่งมาหาทางไลน์ เธอแค่ถามว่าตอนนี้อากาศที่ออสเตรเลียเป็นอย่างไรบ้าง เขากินข้าวแล้วหรือยัง
ประโยคคำถามสองประโยคสั้นๆ และสติ๊กเกอร์หนึ่งตัวกลับทำให้หัวใจเขาหนักอึ้ง เพราะรู้สึกผิดที่เอาแต่หลบหน้าเธอรวมถึงไม่ยอมรับความรู้สึกที่อีกฝ่ายมีให้
‘อากาศที่นี่กำลังดี อากินข้าวแล้วครับ’
นั่นคือข้อความที่เขาส่งกลับไปหากรรวี
“รีบไปไหนแต่เช้าลูก”
“จะไปรดน้ำต้นไม้ที่บ้านอาดินก่อนค่ะพ่อ” เสียงของกรรวีดังตอบกลับมา ในขณะที่เจ้าตัวรีบเดินกึ่งวิ่งไปยังบ้านหลังข้างๆ
เช้าวันนี้เธอรู้สึกมีความสุขเป็นพิเศษ เพราะตื่นมาแล้วได้รับข้อความตอบกลับจากพสุธานั่นเอง ต่อให้วันนี้รถจะติดแสนสาหัสหรืองานจะหนักหน่วงแค่ไหน ก็ไม่มีผลอะไรกับเธอทั้งนั้น
“อ๋อ...ไปเถอะ แล้วอย่าลืมกลับมากินข้าวก่อนไปทำงานนะ พ่อเตรียมไว้ให้แล้ว” สาครตะโกนตามหลัง ก่อนจะได้ยินเสียงของกรรวีตอบแว่วกลับมา
“ค่ะพ่อ พ่อก็ไปทำงานดีๆ นะคะ ไว้เจอกันตอนเย็น” เสียงลอยมาตามลม ในขณะที่คนตอบกำลังยืนถือสายยางเพื่อรดน้ำต้นไม้ให้พสุธาอยู่ เธอมีกุญแจสำรองที่เจ้าบ้านให้มาเมื่อนานแล้ว
หลังจากรดน้ำให้จนชุ่ม กรรวีที่อยู่ในชุดทำงานแบบเรียบๆ เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกระโปรงสีน้ำเงินเอวสูง เผยช่วงขาเรียวสวยก็ใช้เวลาที่มีน้อยนิด เดินดูรอบๆ บ้านของชายหนุ่มเพื่อสำรวจความเรียบร้อย
“กลับมาเร็วๆ นะคะอาดิน ดอกพยับหมอกจะเหี่ยวแล้ว” ดอกไม้สีฟ้าครามชูช่อสวยเมื่อได้รับน้ำสม่ำเสมอรอเจ้าบ้านกลับมาเชยชม ก่อนจะถ่ายรูปเก็บไว้และหวังว่าจะมีโอกาสได้ส่งหาเจ้าของมัน
เมื่อเดินดูจนรอบแล้วกรรวีก็กลับเข้าบ้านตัวเอง ซึ่งต้นไม้รอบๆ บ้านเธอล้วนเหมือนกับของบ้านพสุธา เพียงแค่ไม่สวยเท่า เพราะเธอชอบไปรดน้ำต้นไม้ในบ้านของชายหนุ่มมากกว่าบ้านของตัวเอง
จากนั้นก็ตรงไปนั่งกินข้าวเช้าที่พ่อเตรียมไว้ให้ ส่วนพ่อตอนนี้ได้ออกไปทำงานแล้ว โดยพ่อของเธอเป็นหนึ่งในผู้บริหารของบริษัทต่างชาติแห่งหนึ่ง ซึ่งพ่อทำงานที่นั่นมาตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ถือว่าเป็นคนเก่าคนแก่
กรรวีเลี่ยงที่จะเข้าไปทำงานบริษัทเดียวกับพ่อ เพราะไม่อยากให้ใครมองว่าเธอเป็นเด็กเส้น ด้วยเหตุผลนั้นเธอจึงเลือกเข้าทำงานอีกแห่งที่มีชื่อเสียงเรื่องผลิตยา แต่ใจจริงอยากไปทำงานบริษัทเดียวกับพสุธามาก แต่ไม่มีตำแหน่งไหนว่างเลย
