บท
ตั้งค่า

Chapter 7 คนชรากับเด็กช่างยนต์

ฉันนอนกลิ้งเกลืออยู่ในห้องของตัวเองบ้าง ลงไปนั่งหงอยๆกับเต้าหู้ที่หลังบ้านบ้าง ฉันอยากจะไม่คิดอะไรเลย อยากจะลืมๆมันไปให้หมด

ฉันก็เลยตัดสินใจจะไปที่อื่นเพราะคิดว่าถ้าอยู่คนเดียวแบบนี้ คิดมากไม่จบแน่ๆ ฉันก็เลยให้อาหารเต้าหู้และออกจากบ้านไป

สวบ~

ฉันเดินไปเรื่อยๆ เดินผ่านสนามเด็กเล่นนั่น เดินไปยังสวนสาธารณะ ไปหยุดนั่งพักผ่อนสมองสักพักก็ไปต่อ ขึ้นรถเมล์ไปแบบไม่มีจุดหมายปลายทาง...

จนสุดท้ายขาฉันมาหยุดที่บ้านหลังหนึ่ง มันเป็นบ้านพักคนชรา และสายตาฉันก็เห็นผู้หญิงแก่ๆคนหนึ่งเดินดุ่มๆออกมาจากรั้วบ้าน ไม่รู้จะไปไหน แต่ยายคนนั้นกำลังเดินไปทางถนนและฉันเห็นว่ามีรถขับมาไกลๆ

หมับ~

ฉันสาวเท้าวิ่งเข้าไปคว้าแขนยายไว้ก่อนที่จะก้าวไปที่ถนน ยายชะงักและหันมามองฉัน

"ไปไม่ได้นะจ๊ะยาย กลับเข้าบ้านนะ"

ฉันพูดกับยาย ยายคนนั้นมองฉันและเริ่มน้ำตาคลอ

"อีหนู อีหนูมารับยายใช่มั้ย ให้ยายกลับไปอยู่บ้านด้วยนะ ยายเหงาลูก ยายคิดถึงหลานนะอีหนู"

ยายพูดพร้อมเสียงสะอื้น ฉันชะงักนิดหน่อย ดูแล้วยายน่าจะโดนลูกหลานพามาอยู่ที่นี่แน่ๆ

น่าสงสารจัง ถ้าฉันมีญาติผู้ใหญ่อายุประมาณนี้ฉันจะรักและดูแลท่านอย่างดีเลย แต่ฉันไม่มีไง...

"ยายจ๋า ข้างในมีเพื่อนยายเยอะแยะเลยนะ"

"ไม่เอา ยายจะไปอยู่กับอีหนู อย่าทิ้งยายนะลูกนะ"

ยายเริ่มอ้อนวอนฉัน ดูแล้วยายคงหลงๆลืมๆแน่ ฉันก็ไม่รู้จะทำยังไงได้แต่รั้งแขนยายไว้ จนมีคนในบ้านวิ่งออกมา

"ว้าย ยายแจ่ม ออกมาได้ยังไงคะเนี่ย"

ผู้หญิงที่ใส่ชุดสีขาวคล้ายๆพยาบาลพูดขึ้นพร้อมกับเข้ามาจับแขนยายที่น้ำตานองหน้า

"ยายจะกลับไปกับอีหนู หลานยายมารับแล้ว"

ยายกอดแขนฉันไว้ ฉันก็ไม่รู้จะทำยังไงเลยได้แต่ยืนกอดยาย

"น้องเค้าไม่ใช่หลานยายนะจ๊ะ"

"ใช่ นี่ไง ยายจำหน้าหลานยายได้ ฮือ"

ยายสะอื้นพลางลูบหน้าลูบตาฉันเหมือนว่าเห็นหน้าฉันเหมือนหน้าหลานของยาย ฉันน้ำตาคลอแต่ก็เงยหน้าไล่น้ำตาออกไป

"ยายแจ่ม..."

"เดี๋ยวหนูขอพายายเข้าไปเองนะคะ"

ฉันหันไปบอกพี่คนนั้นที่น่าจะเป็นผู้ดูแลคุณตาคุณยายที่นี่ พี่คนนั้นพยักหน้าก่อนจะเดินนำเข้าไปก่อน

"ยายจ๋า ตรงนี้ร้อนมากเลย เราเข้าไปนั่งเล่นด้านในก่อนนะคะ"

"ไม่เอา ยายจะกลับ"

"เรากลับตอนนี้ไม่ได้น๊า ไม่มีรถมารับเราเลย รอรถมารับก่อนนะจ๊ะยาย"

ฉันเกลี่ยกล่อมยาย ยายมองหน้าฉัน ฉันใช้นิ้วปาดน้ำตาบนใบหน้ายายให้

"จะพายายกลับบ้านแน่นะ อย่าทิ้งยายไว้ที่นี่นะลูก"

"จ่ะ...ไม่ทิ้งจ่ะ"

พอฉันรับปาก ยายก็ยอมเดินตามฉันเข้ามาในบ้าน แต่ยายเกาะฉันแน่นเลย เหมือนกลัวว่าฉันจะหนีหายไปอีก พี่ผู้ดูแลคนนั้นเข้ามากระซิบกับฉันว่า ยายหลงๆลืมๆแบบนี้ ชอบคิดว่าผู้หญิงวัยรุ่นแบบฉันเป็นหลานเพราะหลายยายที่เคยพาแกมาก็อายุประมาณนี้ พี่เค้าบอกว่าพอกล่อมให้ยายหลับ ตื่นมายายก็จะลืมไปเอง แต่พอนึกขึ้นมาได้ยายก็ชอบจะหนีอยู่เรื่อย

ฉันสงสารยายนะ สงสารมาก ก็เลยอยู่เล่นกับยายและคนชราที่นี่จนเพลิน อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันลืมเรื่องของฉันไปได้ชั่วขณะ

1 ชั่วโมงต่อมา...

หลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว ตอนนี้ก็จะมีกิจกรรมนันทนาการให้กับตายายที่นี่ พี่ผู้ดูแลมาตามพวกเราและบอกว่ามีเด็กนักศึกษาที่เคยมาเล่นดนตรีให้ฟังมาหาอีกแล้ว พี่เค้าบอกว่าพวกนี้มาแต่ไม่บ่อยนัก

ฉันเดินพายายไปที่ห้องนันทนาการ ได้ยินเสียงกีตาร์และเสียงกลองเบาๆ เหมือนเป็นการซ้อมเสียงและทำนอง ได้ยินการพูดคุยและหัวเราะของเหล่าตายายที่เดินนำมาก่อนแล้ว

ฉันกับยายแจ่มกำลังจะเข้าไปในห้องนี้ หูฉันได้ยินเสียงที่เริ่มมีการร้องเพลงและเล่นดนตรีดังขึ้น

'ฉันแพ้ทางคนอย่างเธอ

มันเอาแต่เพ้อไม่กินไม่นอน

อยากบอกคุณยายสักครั้ง

โปรดเถอะนะขอวอน หยุดน่ารักได้มั้ย ใจผมกำลังละลาย โอ้โววว'

เมื่อก้าวเข้ามาด้านใน ฉันกวาดสายตามองและต้องชะงักเมื่อเห็นว่าคนที่กำลังทำการแสดงให้เหล่าคุณลุง คุณตา คุณย่า คุณยายดูนั่นเป็นใคร

"ไม่อยากเชื่อ..."

เสียงกลองคนที่ตีคือพี่เทล...

ส่วนเสียงกีต้าร์และร้องเพลงคือพี่เรย์...

หนักกว่านั้น คนที่ยืนยิ้มและหัวเราะอยู่ข้างๆนั่นและมีปฏิกิริยาทางบวก คือไอ้พี่เกียร์...

พี่เกียร์ที่ต่อหน้าฉันทำหน้าดุเหมือนฉันไปฆ่าเมียเขาตาย ปากปีจอและกวนส้นเท้า

และพวกคนชราทุกคนก็ดูสนุกสนานกับเด็กช่างยนต์พวกนี้ด้วย!

"นั่นๆ ไอ้หนูหลานยาย"

"ห้ะ ยายๆ เดี๋ยวค่ะ"

ฉันรั้งแขนยายแจ่มไว้เพราะยายจะพุ่งเข้าไปหาไอ้พี่หมาบ้าเกียร์ แถมยังบอกว่าเขาเป็นหลายยายอีก ยายมีหลานกี่คนกันแน่เนี่ย><

"ไอ้หนู ไอ้หนูหลายยายยย"

ย๊ายยย อย่าเรียกเขาาา!

ขวับ~

แต่ไม่ทันอ่ะ ฉันห้ามยายไม่ทันเพราะพอยายตะโกน นายนั่นก็หันมาทันที เขามองยายและยิ้มให้ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นหน้าฉันและรอยยิ้มก็หายใบจากใบหน้าเขา

"ไอ้หนู"

ยายก็ยังไม่จบ ยายวิ่งเข้าไปหาเขาและกอดไว้แน่น เท่านั้นไม่พอ มืออีกข้างของยายก็ดึงฉันไปด้วย

"ไอ้หนูของยาย"

ยายพุ่งเข้าไปกอดเขาไว้ด้วยสองมือ รวมถึงมือที่ยังจับมือฉันไม่ปล่อยด้วย มันก็เลยทำให้ฉันเก้ๆกังๆแล้วก็ชุลมุนอยู่กับเขาและยาย จนนายนั่นต้องขยับตัว

"ไอ้หนูเอารถมารับยายใช่มั้ย อีหนูบอกว่ารอรถมารับ"

"อ้อ..."

พี่เกียร์เหลือบมองหน้าฉันก่อนจะหันไปยิ้มเบาๆกับยาย

"ครับยาย"

โกหก นายไม่ได้มารับยายสักหน่อย หลอกคนแก่!

"ดีจังเลย ยายจะได้กลับไปอยู่กับหลาน หลานสาวและก็หลายชาย"

ตุ้บ~

"โอ้ย!"

ยายตบไหล่เราสองคน และอยู่ดีๆอีตานั่นก็ร้องขึ้นมาจนยายชะงัก

อ้อ ยายไปตบโดนไหล่ข้างซ้ายของเขาที่เป็นแผลนี่นา สงสัยจะระบมมาถึงไหล่เลยมั้งนั่น

"ไอ้หนูเป็นอะไรลูก ร้องซะยายตกใจ"

"เปล่าครับยาย"

เขายิ้มแห้งๆให้ยาย ฉันมองเขาพลางกรอกตาไปมาจนได้ยินเสียงพี่เรย์ที่เพิ่งร้องเพลงจบพูดขึ้น

"พี่ๆครับ"

พี่? ไหนใครในที่นี้คือพี่ อายุย่างเจ็ดสิบ บางคนก็เลยกันหมดแล้วนะนั่น

"วันนี้พวกผมไม่ได้มากันแค่นี้นะ เรามีนักร้องสาวมาด้วย"

พี่เรย์หันมายักคิ้วหลิ่วตาให้ฉัน อย่านะ อย่าเชียวนะพี่เรย์!

"ขอเชิญนักร้องสาวของเราขึ้นมาให้ความสนุกกับพี่ชายพี่สาวสักหนึ่งบทเพลงครับ ปรบมือให้น้องของขวัญหน่อยคร้าบบบ"

"พี่เรย์!"

ฉันจิกตาใส่เขาและส่ายหัวรัวๆ พี่เรย์ยิ้มกว้างพลางยุให้พวกตายายปรบมือกดดันฉันเข้าไปอีก

"มาเลยครับน้องขวัญ พี่ๆเค้ารอสนุกอยู่นะ"

เฮ~

ก็ดูคนแกพวกนี้จะสนุกและมีความสุขกันจริงๆนั้นแหละ แต่เห้ย ฉันไม่ได้ตั้งใจจะมาแบบนี้เลยนะ ไม่ได้ตั้งใจจะมาทำอะไรแบบนี้เว้ย

"น้องคงเขิน ปรบมือเพิ่มพลังความกล้าให้น้องหน่อยครับ"

นั่นแหละ เสียงปรบมือดังกระหึ่มมาก และยายแจ่มเหมือนจะมีความสุขที่สุด ยายดึงแขนฉันเลยจ้า ดึงให้เดินไปด้านหน้าที่พวกพี่เรย์ พี่เทลกับเพื่อนอีกสองสามคนที่ยืนอยู่ ไม่พอนะ ยายใช้มืออีกข้างดึงไอ้พี่เกียร์ไปด้วย

สวบ~

จนแล้วจนรอด ฉัน ยายแจ่มและพี่เกียร์ก็มายืนอยู่ด้านหน้าและมีพวกพี่ๆยืนมองด้วยความครึ้มอกครึ้มใจ

"เพื่อนไอ้หนูๆ วันนี้ยายดีใจมากที่หลานทั้งสองของยายมารับ ยายขอร้องเพลงได้มั้ยลูก"

"อ้อ ฮ่าๆ ได้เลยครับยาย"

"หล่อแล้วก็ใจดีจังเลยลูกเอ้ย"

"ใครๆก็พูดแบบนั้นครับยาย"

พี่เรย์พูดและยักคิ้ว

"ยายจะร้องเพลงอะไรครับ"

พี่เทลเอ่ยถามขึ้น ยายยิ้มกว้างพลางมองหน้าฉันสลับกับพี่เกียร์ที่ยืนประกบยายอยู่

"เพลงนี้นะ ยายจำได้ เป็นเพลงที่ตาของหลานๆชอบร้องให้ยายฟังทุกวัน แต่ตาจากยายไปแล้ว ไม่มีใครร้องให้ยายฟังเลย"

คำพูดของยายทำความรู้สึกฉันตื้นขึ้นมาเหมือนกันนะ ทั้งๆที่ยายเป็นคนที่หลงๆลืมๆแล้วแท้ๆ แต่ยายกลับจำเพลงที่สามีของยายร้องให้ฟังได้ ยายคงรักตามากๆเลยแหละ

ยายมองหน้าฉันกับพี่เกียร์พร้อมกับมือเหี่ยวย่นของยายที่ลูบแผ่นหลังของเราสองคนพร้อมกัน

"เพลงอะไรครับยาย ผมจะเล่นได้มั้ยเนี่ย ฮ่ะๆ"

พี่เรย์พูดกลั้วหัวเราะและยายพูดขึ้น

"นางฟ้าจำแลงลูก สุนทราภรณ์ด้วยนะ"

"ยากแล้ว"

พี่เรย์พึมพำพลางทำหน้าเหล่อหลา คือไม่รู้จักไง รุ่นนี้ไม่มีใครเคยฟังหรอกมั้ง

"เมื่อก่อนนะ ตอนสมัยยังสาว ยายเคยประกวดนางงาม และตาก็ชอบเอาเพลงนี้มาร้องให้ยายฟัง ตาบอกว่ายายเป็นนางงามของตาเสมอ^^"

ยายดูมีความสุขจังเวลาพูดถึงตา ผู้ชายที่ยายคงจะไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต

"คุ้นๆนะ เพลงประกวดนางงาม เหมือนเคยฟัง"

พี่เรย์พึมพำ แต่ยังไม่ทันได้เล่นอะไรหรอก พี่ผู้ดูแลก็เอาวิทยุมาเปิด มันเป็นทำนองสุทราภรณ์แบบที่ยายบอก และเมื่อทำนองขึ้น พวกตายายที่นั่งอยู่ก็เริ่มโยกตัวไปมา

เหมือนมันเป็นเพลงรุ่นของพวกท่าน เป็นเพลงที่พวกท่านเคยฟังและมันเนิ่นนานมาแล้ว เหมือนพวกท่านมีความสุขที่ได้ฟังอีก

รวมถึงยายแจ่มที่ยืนยิ้มและโยกไปมาช้าๆตามจังหวะเพลงด้วย

และไม่ใช่แค่ยายแจ่มคนเดียวที่ร้องเพลงนี้ ตายายทุกคนก็เริ่มร้องคลอๆไปกับเสียงดนตรีที่ฉันฟัง ฉันก็ว่ามันเพราะดีนะ บางทีอาจจะเพราะกว่าเพลงสมัยนี้บางจังหวะก็ได้

ยายแจ่มร้องเพลงไป ลูบหลังฉันกับพี่เกียร์ไป น้ำตาก็คลอไปด้วย ฉันหันไปมองคนอื่นๆก็เห็นว่าทำหน้างงๆนิดหน่อยแต่ก็ยังมีอาการซึ้งๆตามพวกท่านไปเหมือนกัน

"..."

มีแต่คนบางคนนี้แหละที่ยืนหน้าตึงไม่พูดไม่จา!

"แปลกนะคะ ยายลืมแทบทุกอย่างแต่ยายกลับจำเพลงนี้ได้"

และพี่ผู้ดูแลก็มายืนข้างฉันเมื่อไหร่ไม่รู้ เธอพูดขึ้น ฉันหันไปมองเธอ

"ค่ะ"

"เป็นแผ่นเพลงของยายเค้าแหละค่ะ ยายเค้าเอาติดตัวมาด้วย แต่มันมีแค่ทำนอง ยายเคยพูดว่า ตาจะเป็นคนร้องเพลงประกอบกับทำนองเอง แต่ตาไม่อยู่แล้ว ยายก็มักจะเปิดและร้องเองบ่อยๆ"

"ยายคงคิดถึงตามากเลยนะคะ"

ถ้าวันหนึ่ง...ฉันมีคนรักที่จะรักมากและไม่มีวันลืมเขาได้แบบยาย ถ้าฉันแก่ตัวไปฉันก็คงจะเหมือนยาย เพราะในชีวิตฉัน ไม่มีใครให้จำมากมายนักหรอก...

ถ้ามีเขาคนนั้น ฉันก็คงจะจำไปจนกว่าความทรงจำจะถูกลบหายไปจากชีวิตและโลกใบนี้...

14.35 น.

หลังจากส่งตายายเข้านอนกันหมดแล้ว ฉันกับพี่เกียร์ก็เดินออกมาจากห้องของยายแจ่มพร้อมกันอย่างเงียบเชียบ ไม่ใช่อะไรหรอก ยายท่านไม่ยอมให้เราสองคนไปไหน กว่าจะกล่อมให้หลับได้ก็นานเหมือนกัน

ตึก~

ฉันเดินตามและมองแผ่นหลังของเขาไปเรื่อยๆ วันนี้เขาก็ยังใส่ยูนิฟอร์มของโรงเรียนเหมือนเดิม คือช็อปสีน้ำเงินตัวนอกไม่ติดกระดุมและเสื้อยืดสีดำด้านใน กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ

กึก~

"อ๊ะ!"

"ซี้ด!"

ฉันชะงักแต่ก็ไม่ทันเพราะหน้าฉันไปชนกับแผ่นหลังเขาเข้าและอาจจะไปเฉียดแผลเขาเข้าให้ เขาถึงได้ส่งเสียงออกมาพร้อมกับหันมามองหน้าฉัน

ฉันก็มองหน้าเขาแต่ไม่ได้ขอโทษ เขาหันกลับไปและหยิบมือถือที่มันส่งเสียงเตือนเมื่อกี้ขึ้นมาดู

ฉันเห็นว่าเขาอ่านไลน์นะ แต่ไม่รู้ว่าใครส่งมา

"ไอ้พวกเวร!"

จากนั้นก็สบถด่า ฉันมองแผ่นหลังของเขาและเขาก็เดินต่อโดยไม่พูดอะไร

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel