Chapter 5 ใจเต้นแรง
หลายวันต่อมา...
ฉันก็ขึ้นรถเมล์มาเรียนตามปกติ เมื่อรถเมล์จอดฉันก็กำลังก้าวลงจากรถ
ปึ้ก~
แต่ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ท่าทางรีบร้อน เธอวิ่งลงมาจากรถเมล์และชนฉันจากด้านหลังจนเซไป ฉันเกือบจะหน้าทิ่มอยู่แล้วแต่พอตั้งหลักได้ก็หันไปกะว่าจะโวยใส่
"ขอโทษนะคะ พอดีพี่รีบจริงๆ"
แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับเอ่ยขอโทษฉันออกมา ท่าทางกับคำพูดเธอดูรีบร้อนจริงๆฉันก็เลยได้แต่พยักหน้าและจากคำที่จะต่อว่าก็เปลี่ยนเป็นคำว่า'ไม่เป็นไร'แทน?
พอฉันบอกว่าไม่เป็นไรเธอก็วิ่งไปทันที ส่วนคนอื่นๆก็ลงรถตามๆกันมา
สวบ~
ฉันก็เดินออกจากป้ายรถเมล์ จากตรงนี้ต้องเดินไปอีกสักระยะหนึ่งจะถึงวิทยาลัยของฉัน ถ้าฉันไม่รีบหรือขี้เกียจฉันก็จะเดิน แต่ถ้าวันไหนไม่อยากเดินฉันก็ใช้บริการพี่วินมอเตอร์ไซค์เอา
ฉันเดินไปเรื่อยๆพร้อมกับเสียบหูฟังเพื่อฟังเพลงในมือถือ ตัดขาดตัวเองจากโลกภายนอกซะ
"เห้ย หาที่หลบเร็ว เด็กช่างตีกันอีกแล้ว"
สวบ~
"นังหนู อย่าเพิ่งเดินไป หลบก่อน"
"..."
"เห้ย..."
ตุ้บ~
กึก~
"อ๊ะ!"
ฉันชะงักเพราะกำลังเดินฟังเพลงเพลินๆจนไม่ได้สนใจเสียงอะไรรอบด้าน แต่อยู่ดีๆก็มีอะไรบางอย่างลอยมาตกลงตรงหน้าฉัน
ระ รองเท้า!
รองเท้าใครไม่รู้ ฉันหันขวับกลับไปมองทันทีและฉันก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งกำลังตะลุมบอนกันอยู่ เป็นเด็กช่างที่ใส่ชุดช็อปสีเทาหลายคน...
"เห้ย หลบดิวะ!"
ฉันสะดุ้งอีกเพราะได้ยินเสียงคนในวงล้อมนั่นดังออกมาพร้อมกับเสียงปะทะกัน
ผลั่วะ~
พลั่ก~
"ยืนเอ๋อทำอะไรวะ!"
และเสียงนั้นก็ตะโกนมาอีก ฉันไม่รู้หรอกว่าเสียงใครแต่พอคุ้นหูยังไงไม่รู้ คนๆนั้นโดนรุมจากคนอีกเกือบสิบจนมองไม่เห็นเขา แต่คำพูดเขาทำให้ฉันพอฉุกคิดขึ้นมาได้ ว่าฉันก็ไม่ควรมายืนเอ๋ออยู่ตรงนี้
หลบก็หลบ...
หลบตรงไหนวะเนี่ย!
ฉันมองซ้ายมองขวาหาที่หลบ แต่อยู่ดีๆก็มีผู้ชายคนหนึ่งกระเด็นออกมาจากวงล้อม เขากระเด็นมาชนฉันจนล้มลงกับพื้น
ตุ้บ~
โอ้ย เจ็บ!
"เกะกะชิบหาย!"
ผู้ชายช็อปเทาที่ชนฉันแถมยังหงายท้องมาทับตัวฉัน เขาเด้งตัวลุกขึ้นและหันมาต่อว่าฉันก่อนจะพุ่งกลับเข้าไปในวงล้อมอย่างไม่ไยดีอะไรฉันเลย
พลั่ก~
ปึ้ก~
เออ ตีกันให้ตาย อยู่ไปก็รกโลก!
"เห้ย อยู่นั่น!"
ฉันสะดุ้งอีกเมื่อหันไปเห็นคนอีกกลุ่มหนึ่ง ฉันจำได้ว่าคนพวกนั้นเป็นพวกช่างยนต์เพราะใส่ชุดช็อปสีน้ำเงิน และหนึ่งในนั้นที่ฉันเห็นมีไอ้พีทกับพี่เรย์ด้วย
"ลุยเลย!"
แต่พวกนั้นคงไม่ทันสังเกตว่าอีคนที่นั่งจุมปุ๊กด้วยความจุกและเจ็บอยู่บนพื้นเนี่ยเป็นฉัน สายตาพวกนั้นมองการทะเลาะวิวาทของพวกกลุ่มนั้นอย่างวาวโรจน์ พอพวกนั้นเห็นว่าพวกช็อปเทากำลังรุมตีใครบางคนอยู่ก็พุ่งทยานเข้าไปร่วมวงทันที และทางที่พวกนั้นวิ่งมามันต้องผ่านฉันที่นั่งอยู่ด้วย ฉันพยายามจะลุกหนีแล้วนะ แต่ทุกอย่างมันรวดเร็วมาก ผู้ชายกลุ่มนั้นวิ่งมาด้วยความเร็วจนฉันหลบไม่ทัน ได้แต่หมอบลงกับพื้นและส่งเสียงกรีดร้องอย่างตกใจ
"กรี้ดดด"
ฉันโดนเหยียบแน่ๆเลย!
ตุ้บ~
แต่จนแล้วจนรอด คนพวกนั้นก็กระโดดข้ามตัวฉันที่นอนหมอบอยู่บนพื้นไป เสียงตะลุมบอนดังขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้รุนแรงกว่าเดิมเพราะจำนวนคนที่มากขึ้น ใจฉันเต้นกระหน่ำด้วยความกลัวและตกใจ ฉันเคยเห็นเรื่องแบบนี้แต่ในทีวี และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เจอสถานการณ์จังๆ เรียลมากด้วย!
"เห้ย หลบ บอกให้หลบ!"
เสียงคนๆเดิมดังออกมาจากวงล้อมทำให้ฉันได้สติและคิดได้ว่าฉันไม่ควรมานั่งเอ๋อให้โดนลูกหลงซ้ำสองอีก ฉันควรจะหาที่หลบภัยเดี๋ยวนี้
ฉันกำลังยันตัวลุกขึ้น...
ฟลุ่บ~
แต่มีใครคนหนึ่งถลาเข้ามาหาฉัน ร่างทั้งร่างของฉันถูกรวบไว้ในอ้อมแขนของเขา หัวของฉันถูกกดให้ซุกอยู่กับแผ่นอกกว้างพร้อมกับเสียงอะไรบางอย่างที่ทำให้ฉันสะดุ้งเฮือก
เพล้ง~
ฉันตกใจและเผลอกำอกเสื้อของคนที่อยู่ตรงหน้า เสียงที่เหมือนอะไรแตกทำให้คนที่กอดฉันอยู่สะดุ้งเช่นกัน
ฉันได้กลิ่นบุหรี่ผสมกับ...คาวเลือด!
"เธอแม่ง สงสัยอยากตาย!"
และเขาก็ยังไม่วายที่จะก่นด่าฉัน
"ตำรวจมา ตำรวจมาแล้ว"
เสียงของใครแถวนี้ตะโกนขึ้น ฉันที่ยังถูกกดให้ซุกหน้าอยู่กับแผ่นอกกว้างพยายามดันหน้าออกจากตัวเขา
"ไอ้เกียร์ ตำรวจ"
เสียงของพี่เรย์ฉันจำได้ และไม่นานร่างของผู้ชายคนนั้นก็ถูกดึงให้ยืนขึ้นอย่างรวดเร็ว ฉันเงยหน้ามองตามก็เห็นว่าเป็นไอ้พี่เกียร์ที่หลุบตาลงมองฉัน
"อ้าว ขวัญ..."
พี่เรย์หลุบตาลงมามองฉันบ้าง แต่ยังไม่ทันได้ทักอะไรกันมาก พีทก็พุ่งเข้ามาดึงฉันให้ลุกขึ้น
"เห้ย ขวัญลุก"
พรึ่บ~
ฉันถูกพีทดึงขึ้นมา พวกเด็กช่างที่ตีกันอยู่ตอนนี้แตกฮือกันไปคนละทิศละทาง พี่เรย์มองหน้าฉันและพยักหน้าให้วิ่งตามพวกเขาไป
พี่เรย์ดึงพี่เกียร์วิ่งไปแล้ว...
"ไปเร็ว ตำรวจมา"
เสียงรถไซเรนของตำรวจดังขึ้นพร้อมกับที่แขนฉันถูกพีทดึงให้วิ่งตามพวกเขาไป ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องวิ่งไปกับพวกเขาด้วย แต่ฉันที่ทั้งตกใจ งง และอึ้ง ความรู้สึกมันปะปนกันไปหมดจนฉันเบลอและคิดอะไรไม่ทันเลย
กว่าจะรู้ตัว ฉันก็โดนลากซ้อนมอเตอร์ไซค์พีทมาที่บ้านหลังเดิมอีกแล้ว บ้านของพี่เกียร์นั่นแหละ
พวกเขาขับรถเข้ามาในบ้าน ก็เพิ่งรู้ว่าประตูบ้านเขาเปิดอัตโนมัติได้ด้วยนะ แค่คนที่เปิดคือเจ้าของบ้านอ่ะ ไม่รู้ว่าเขากดรีโมทหรืออะไรเหมือนกัน
สวบ~
พอเดินเข้ามาในบ้าน ฉันกวาดสายตามองทุกคนที่มีสภาพไม่ต่างกันเท่าไหร่ พวกเขามีแผลจากการปะทะกัน และพอมองดีๆ ตรงนี้มีทั้งพีท พี่เรย์ พี่เทล กัสและคนอื่นๆที่ฉันจำหน้าได้แต่จำชื่อไม่ค่อยได้ พวกเด็กช่างยนต์ทั้งนั้นเลย พวกนี้ทิ้งตัวลงนั่งแบบเหนื่อยหน่ายและเละเทะเต็มห้องรับแขกเขาไปหมด
ส่วนไอ้พี่เกียร์เดินดุ่มๆเข้าห้องไปแล้ว...
"อ่ะ ไปเปลี่ยน"
อยู่ดีๆพีทก็ถอดเสื้อช็อปของเขามาส่งให้ฉัน เขาใส่เสื้อยืดด้านในสีขาวอยู่ ฉันรับมาถือพร้อมกับก้มมองเสื้อนักศึกษาของตัวเองที่ตอนนี้เปื้อนเลือดเป็นจุดๆ
ซึ่งมันไม่ใช่เลือดฉัน!
"แล้วเดี๋ยวเอาเสื้อมา จะเอาไปแช่ให้"
"ฉันว่า..."
"รีบไปเปลี่ยนเถอะขวัญ เดี๋ยวเสื้อซักไม่ออก"
พี่เรย์พูดฉันก็เลยจำใจเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำ ห้องน้ำที่ทำให้ฉันเผลอคิดภาพเก่าๆขึ้นมาอีกแล้ว--'
ไม่ได้ หยุดคิดซะ!
ฉันสะบัดหัวตัวเองแรงๆ มองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกที่ตอนนี้ใส่เสื้อช็อปของพีทอยู่ เสื้อมันตัวใหญ่กว่าฉันพอสมควรนะ ตอนอยู่บนตัวพีทมันพอดี แต่พอมาอยู่บนตัวฉันก็ดูหลวมไปเลย
สวบ~
ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำ เห็นคนพวกนั้นกำลังผลัดกันทำแผลอยู่ มีเสียงร้อยโอดโอยออกมาเป็นระยะ มันก็ทำให้ฉันนึกหมั่นไส้ อีตอนไปตีกับเขาไม่กลัวเจ็บ พอทำแผลล่ะสำออยกันไปหมด!
"ขวัญ มานี่"
ฉันถอนหายใจและเดินเข้าไปหาพีทที่กำลังถือสำลีชุบยาอยู่ และส่งเสื้อของตัวเองที่ถอดออกให้มัน ตอนแรกคิดว่าพีทจะให้ทำแผลให้ นึกในใจแล้วนะว่าจะทำให้หนักมือที่สุด แต่มันกลับยื่นกล่องปฐมพยาบาลอีกกล่องมาให้ฉัน
"อะไร?"
"เอาไปทำแผลให้พี่เกียร์"
"ห้ะ?"
"พี่เกียร์โดนขวดฟาดนะ เพราะช่วยเธอ"
เจอคำพูดนี้ไปฉันก็ปฏิเสธไม่ออก ไอ้พีทมันรู้จักนิสัยฉันพอสมควร และมันรู้ว่าต้องพูดยังไงฉันถึงจะไม่หาข้อต่อรองกับมัน
"ไปทำแผลให้มันหน่อยเถอะน้องขวัญ ป่านนี้เลือดหมดตัวแล้วมั้ง"
พี่เรย์เงยหน้ามาบอกฉัน
"ถ้าจะขนาดนั้นก็น่าจะส่งโรงพยาบาลได้แล้วล่ะ"
"ไอ้เวรนี่มันดื้อ มันไม่ไปหรอกโรงบาลอ่ะ"
งั้นก็ให้เลือดไหลหมดตัวตายเลยดีมั้ย?
ฉันก็ได้แต่คิดในใจ เกาหัวตัวเองและรับกล่องนั้นมาจากมือพีทอย่างช่วยไม่ได้
"จริงๆพี่ก็อยากจะทำให้มันนะ แต่พี่ทนเห็นเลือดมากๆไม่ได้ มันจะวูบเอา ไม่ตั้งใจจะใช้น้องนะ"
พี่เรย์รีบพูดแก้ต่างให้ตัวเอง แต่ฉันไม่เชื่อหรอกว่าคนที่พร้อมมีเรื่องแบบพวกนี้จะกลัวเลือด ไม่งั้นไม่มีชีวิตรอดมาถึงทุกวันนี้หรอกมั้ง
ฉันพ่นลมหายใจอีกรอบก่อนจะถือกล่องปฐมพยาบาลเดินไปที่หน้าประตูห้องที่พี่เรย์ชี้มือบอกว่าเพื่อนเขาอยู่ในนั้น
แกร๊ก~
ฉันหมุนลูกบิดเปิดเข้าไปช้าๆ พอเข้ามาก็เห็นเขานั่งหันหลังอยู่บนเก้าอี้ก เขายังใส่เสื้อยืดอยู่แต่ถอดช็อปออกไปแล้ว และเสื้อตรงช่วงสะบักหลังด้านซ้ายของเขาฉีกขาดเป็นแนวยาว มีเลือดซึมด้วย
สวบ~
ฉันก้าวเข้าไปยืนด้านหลังและเขาเอี้ยวตัวมามองหน้าฉัน
"ใครอนุญาต?"
เขาถามพลางหันหน้าหนี ฉันกรอกตาก่อนจะตอบเขา
"จะทำแผลให้"
"ไม่ต้องยุ่ง"
"ก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำแต่ไม่อยากติดค้าง ไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณใคร"
ฉันพูดและเขาเงียบไป พอเขาเงียบฉันก็ค่อยๆวางมือลงบนเสื้อยืดของเขาพอเห็นว่าเขาไม่ได้สะดีดสะดิ้งฉันก็พูดขึ้นอีก
"ฉีกเสื้อเลยนะ"
เพราะรู้ว่าเขาคงยกแขนถอดเสื้อไม่ไหวหรอก ไม่งั้นเขาคงถอดไปแล้ว ฉันก็เลยใช้นิ้วเกี่ยวเสื้อตรงที่ขาดของเขาออกมาให้ห่างจากแผลเขาและค่อยๆฉีกเสื้อเขาออก
แคว่ก~
"..."
แคว่ก~
ฉันออกแรงฉีกเสื้อเขาจนขาดหมด จากนั้นก็ดึงเสื้อออกจากตัวเขา นายนี่อยู่ดีๆก็นั่งนิ่งเป็นตุ๊กตาให้ฉันทำอะไรได้อย่างง่ายดาย พอบนตัวเขาไม่มีเสื้อ ฉันก็เห็นแผ่นหลังที่มีรอยสักของเขาและรอยสักชื่อเล่นภาษาอังกฤษของเขาตรงแนวไหล่ด้านหลังข้างขวา คำว่า'Gear' ฉันล่ะสายตาจากรูปร่างของเขาไม่ได้เลย ><
อ่า...ใจเต้นแรงทำไมเนี่ย?
"จริงๆน่าจะไปโรงพยาบาลนะ...คะ"
เออ ยังไงเขาก็รุ่นพี่น่ะนะ แถมยังช่วยฉันด้วย ฉันสะบัดความคิดและความรู้สึกแปลกประหลาดของตัวเองออกไปก่อนจะโฟกัสไปที่แผลของเขา แผลที่โดนแก้วบาดเป็นแนวยาว มันมีเลือดไหลออกมาจากปากแผล ฉันไม่รู้ว่าแผลขนาดนี้ต้องเย็บหรือเปล่า แถมข้างๆแผลใหญ่ของเขาก็ยังมีแผลจากการโดนเศษแก้วเล็กๆทิ่มแทงอยู่หลายจุด
ถ้าเขาไม่บังฉันเอาไว้ แผลพวกนี้ก็คงมาอยู่บนตัวฉันทั้งหมดสินะ...
