Chapter 4 ยิ้มเจ้าเล่ห์
บรื้น~
"..."
ฉันแอบเหล่มองพี่คิณที่กำลังขับรถไปด้วยความเงียบ พี่คิณขับรถยนต์ยี่ห้อหนึ่งสีขาวด้วย ดูยังไงก็ไม่เข้ากับเพื่อนๆเขาสักนิดเดียว ไม่รู้ว่าคบกันได้ยังไง
แต่ตอนนี้เรื่องนั้นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือรอยเล็บบนต้นคอพี่คิณเนี่ย ฉันอยากจะถามเหลือเกินว่าเขาได้มันมาจากไหน ใช่จากฉันหรือเปล่า...
โอ้ย ทำไมใจเต้นแรงแบบนี้ ภาพพร่าเบลอมันยังตามหลอกหลอนฉัน ฉันพอจำได้ว่าฉันก็ทั้งจิก ทั้งขยำ ทั้งข่วน ทำทุกอย่างเพื่อระบายความรู้สึกออกมาอ่ะ
แล้วคือเรื่องมันผ่านมาแค่วันเดียว แล้วฉันก็มาเห็นรอยเล็บนี่ ก่อนหน้านั้นฉันก็ไม่ได้สังเกตว่าเขามีหรือเปล่าด้วย
"มีอะไรจะถามหรือเปล่า?"
แต่เหมือนพี่คิณจะรู้ตัว เขาหันมาถามฉันก่อนจะมองตรงไปที่ถนนด้านหน้าต่อ
"อ้อ..."
จะให้ฉันถามว่ายังไงล่ะ จะให้เริ่มยังไง?
"ถามได้นะ พี่ไม่ดุเหมือนไอ้เกียร์"
พี่คิณพูดกลั้วหัวเราะ ฉันเองก็ต้องยิ้มแหะๆออกไป ถึงเขาจะบอกว่าถามได้ แต่ฉันก็ไม่กล้า มันใช่เรื่องน่าถามหรือเปล่าล่ะ --
"ว่าไง?"
เขาเหลือบมามองฉันอีก คือต้องการคำถามจากฉันจริงๆเหรอ
"คือ จริงๆแล้วก็อยากถามว่า..."
"ว่า?"
"พี่...กับพวกพี่เรย์คบกันได้ยังไงคะ ดูไม่เข้ากันเลย"
สุดท้ายก็เปลี่ยนคำถามออกไป พี่คิณหัวเราะออกมา
"พวกพี่คบกันตั้งแต่ขึ้นมอต้นแล้ว พอขึ้นมอปลายก็แยกย้าย พี่เรียนโรงเรียนเดิมจนจบก็มาต่อมหาลัย ส่วนพวกนั้นไปต่อสายอาชีพตั้งแต่ปวช.แล้ว มีไอ้เรย์ตอนแรกมันก็เรียนมอปลายกันพี่ แต่เหมือนมันจะไม่ชอบ มันบอกเรียนไม่ไหว ไม่ใช่ทางมัน ก็เลยตามไปเรียนกับไอ้เกียร์ แต่เพื่อนกันอ่ะ ต่อให้เรียนคนละที่ หรือไม่ค่อยได้เจอกัน ถ้าเป็นเพื่อนจริงๆยังไงก็ตัดกันไม่ขาดหรอก"
"นั่นสินะ"
"จริงๆพี่ก็อยากเรียนกับพวกมันนะ แต่..."
"แต่เรียนมหาลัยก็ดีนะคะ เนอะ"
ฉันรู้ว่าเขาคงไม่อยากพูดเหตุผลเพราะเขาเงียบไปพักนึงฉันก็เลยพูดแทรกขึ้นมาก่อน
"แล้วของขวัญล่ะ รู้จักกับพีทตอนไหน"
"ก็...รู้จักกันตอนมอสองค่ะ"
ฉันพูดออกไปเท่านี้ ไม่อยากเล่าความเป็นมาในเรื่องเพื่อนของฉันเพราะไม่อยากคิดถึง เอาเท่าที่มีอยู่ทุกวันนี้ก็พอแล้วล่ะ
"..."
"..."
พอฉันพูดจบ ทุกอย่างก็เงียบอีกครั้ง เหมือนพวกเราไม่รู้จะพูดอะไรกัน ก็นะ คนไม่ได้สนิทกันเท่าไหร่นี่นา
"ว่าแต่...วันนั้น นึกยังไงถึงไปวันเกิดเกียร์มันได้ล่ะ"
และพี่คิณก็เริ่มทำลายความเงียบอีกครั้งด้วยการชวนฉันคุย
"อ๋อ ก็...เบื่อๆ แล้วพีทมันมาชวนไปงานวันเกิดรุ่นพี่ ก็เลยไป คิดว่าจะสนุกค่ะ"
"ฮ่ะๆ ไม่สนุกเลยสิ"
"ก็...พี่เค้าก็ดูไม่ค่อยชอบขวัญเท่าไหร่"
"มันก็แบบนี้แหละ หน้าตาไม่รับแขก จริงๆถ้ามันยิ้ม ถ้ามันอารมณ์ดีมันจะดูดีมากนะ"
"พี่คิณ ชมเพื่อนตัวเองไม่ขนลุกเหรอ"
"ก็นิดๆ ฮ่ะๆๆ"
ฉันก็หัวเราะแหะๆกับท่าทางขนลุกของพี่คิณไปด้วย จากนั้นพี่คิณก็พูดต่อ
"วันนั้นเมามากเลยสิ"
"คะ?"
"พี่เห็นเราสลบไปก่อนใครเพื่อนเลย"
"อา...น่าอายจัง"
"ไม่ต้องอายหรอก ก็เมาสลบกันหมดนั่นแหละ"
"พี่ก็สลบเหรอคะ?"
"อื้ม ก็นะ แต่ก็มีตื่นบ้างแหละ ตอนที่..."
พี่คิณเงียบเสียงลงในจังหวะที่รถติดไฟแดงพอดี ฉันหันไปมองเขาอย่างลุ้นระทึก
"ถ้าพี่พูด ขวัญจะไม่ตบพี่นะ"
"อะ อะไรอ่ะ"
โอ้ย นี่ก็ลุ้นนะเฮ้ย "ก็พี่สลึมสลือตื่นขึ้นมาตอนที่..."
"..."
"ตอนที่ขวัญนอนกอดพี่อยู่อ่ะ ไม่รู้เรามานอนรวมกันได้ยังไง แต่พี่ก็ลุกไม่ไหวอ่ะ ก็เลยยอมให้ขวัญกอด"
พี่คิณหันมายิ้มให้ฉัน ส่วนฉันอ้าปากค้างเพราะกำลังทบทวนคำพูดเขา
'ตื่นมาตอนที่ฉันนอนกอดเขา'
ฉันนอนกอดเขาด้วยเหรอเนี่ย
"แล้วรอยข่วนนี่..."
จู่ๆฉันก็โพล่งขึ้นและชี้มือไปที่รอยข่วนที่ต้นคอเขาอย่างต้องการคำตอบ พี่คิณลูบต้นคอตัวเองทันที
"อ้าว มีรอยข่วนด้วยเหรอ ถึงว่าแสบๆ"
เขายังไม่รู้ตัวเลยเหรอ ว่าตัวเองโดนข่วนมา!
"พี่ไปโดนอะไรมาอ่ะ"
"อ๋อ คง..."
พี่คิณเงียบเสียงไปและกรอกตาเหมือนกำลังคิด
"คง...เมื่อเช้ามั้ง พี่เล่นกับแมวที่คณะอ่ะ สงสัยโดนมันข่วนเอา"
แมวข่วน...
"ไม่ต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้น พี่แค่โดนแมวข่วน ฮ่ะๆ"
พี่คิณหัวเราะ ทำให้ฉันกระพริบตาถี่ๆและเริ่มได้สติ ผู้ชายคนนั้น...ตัดพี่คิณออกไปงั้นเหรอ
จริงๆ ถ้าให้ฉันเลือก คนที่ฉันอยากตัดออกไปคนแรกคือไอ้พี่เกียร์เพื่อนเขามากกว่าด้วยซ้ำ!
"บ้านขวัญไปทางไหนนะ เลี้ยวซ้ายหรือขวา"
"ขะ ขวาค่ะ"
ฉันบอกเขาในจังหวะที่ไฟเขียวพอดี พี่คิณเลี้ยวรถตามที่ฉันบอก
ไม่นานก็ขับรถมาส่งถึงหน้าบ้านฉัน...
"เลี้ยงหมาด้วยเหรอ"
พี่คิณถามเพราะพอฉันลงจากรถและเขาก็เดินตามลงมา เต้าหู้หมาแสนรักของฉันพอเห็นว่าเจ้าของกลับมาแล่วมันก็วิ่งกระดิกหางมาอย่างแสนรู้ทันที
"ค่ะ ชื่อเต้าหู้"
ฉันพูดพลางเปิดรั้วให้เต้าหู้วิ่งออกมา มันวิ่งมาหาฉันและแสดงความดีอกดีใจ ก่อนจะวิ่งไปหาพี่คิณและดมเขาตามสัญชาติญาณ
พี่คิณลูบหัวมันและนั่งลงพร้อมกับแบมือไปตรงหน้ามัน
"ทักทายกันหน่อย"
ฟึ่บ~
พอพี่คิณพูดแบบนั้น เต้าหู้มันก็รู้งานไง มันยกขาหน้าข้างหนึ่งมาวางไว้บนมือพี่คิณเหมือนเป็นการทำความเคารพ พี่คิณลูบหัวมันและหัวเราะชอบใจ
"เก่งมาก"
"พี่คิณ รู้ได้ไงว่ามันทำได้"
ฉันถาม พี่คิณเงยหน้ามาตอบ
"ไม่รู้หรอก ลองดูเฉยๆ ท่าทางมันจะฉลาด"
"อ้อ"
พี่คิณดูเป็นคนรักสัตว์เนอะ ทั้งหมา ทั้งแมว ดูใจดี ไม่น่ามีเพื่อนแบบพี่เกียร์--'
แต่ก็อย่างว่าแหละ เพื่อนกัน ไม่จำเป็นต้องนิสัยเหมือนกันไปซะหมด แค่คบกันได้เพราะรักเพื่อนเหมือนกันก็พอแล้ว
"พี่คิณชอบสัตว์เหรอคะ พี่เรียนอะไรอ่ะ"
"สัตวแพทย์"
"จริงเหรอคะ"
โอ้ย พี่คิณ เอาจริงๆ รูปหล่อ พ่อก็น่าจะรวย แถมเรียนสัตวแพทย์ด้วย ไม่มีสาวมาติดก็บ้าแล้ว
แนะนำให้ครีมมันรู้จักแทนไอ้บ้าพีทได้มั้ยเล่า
"จริงสิครับ"
พี่คิณเผลอพูดเพราะกับฉัน ยิ่งพูดเพราะยิ่งดูดีไปใหญ่ เขาลูบหัวเต้าหู้อีกครั้งพลางลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
"แล้วเราเรียนอะไรล่ะ"
"เรียนคหกรรมค่ะ"
"จริงเหรอ"
สีหน้าพี่คิณคือไม่เชื่อมากกว่าสีหน้าฉันตอนรู้ว่าพี่คิณเรียนสัตวแพทย์อีก ก็นะ...
"ค่ะ ดูไม่เข้าเนอะ"
"ไม่หรอก ว่าแต่คุ้กกี้นั่นทำเองเหรอ"
"เปล่าค่ะ เพื่อนทำแล้วฝากมาให้พีท"
"เป็นแม่สื่อให้เขาว่างั้น"
เออ แต่อยู่ดีๆฉันกับพี่คิณก็คุยกันมากขึ้นซะงั้นอ่ะ ฉันไม่ได้ตอบพี่คิณแต่ยิ้มให้เขาไป
"ไว้วันหลังทำให้พี่กินมั้งสิ"
"ห้ะ?"
"อยากชิมฝีมือเราอ่ะ ได้มั้ย"
พี่คิณยิ้มให้ฉันพร้อมกับก้าวเข้ามายืนใกล้ๆ ฉันมองหน้าเขาอย่างงงๆ
"มันก็...ไม่ได้อร่อยมาก"
"ลองก่อนสิ ชิมแล้วถึงจะรู้ว่าอร่อยหรือเปล่า..."
"..."
"จริงมั้ย^^"
เขากระตุกยิ้มเว้ย มันไม่ใช่ยิ้มแบบที่เขาเคยยิ้มแต่มันเป็นรอยยิ้มที่แสดงถึงความเจ้าเล่ห์ออกมา
อย่าบอกนะว่าฉันมองเขาผิดไป...
