บท
ตั้งค่า

คุณตาหลง 4/5

บทที่ 2 คุณตาหลง

ใจดีขนาดนี้นางฟ้าชัดๆ นางฟ้าสมชื่อ ในโลกนี้จะมีใครงามทั้งกายทั้งใจได้เท่าเธออีกไหมนะ

นึกไปแล้วเมราก็เจ็บใจตัวเองนัก ไม่รู้ว่าไปได้กรรมพันธุ์ขี้สงสารนี้มาจากไหน แต่มันเด่นชัดที่สุดก็ตอนที่เธอยอมพาคุณตาหลงขึ้นรถแล้วขับกลับไปที่ร้านชาลาลานี่แหละ ไม่ต่างจากการหาเหาใส่หัวเลย ก็ปวีณ์เพิ่งไล่ตะเพิดเธอเมื่อตอนบ่าย ไปขอพบเขาอีกรอบคงจะเป็นเรื่องน่ายินดีนักหรอกนะ

แต่คงดีกว่าปล่อยให้คุณตาหลงไปตามทาง ถ้าคนแก่เป็นอะไรไปเธอคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต

หลังจากตกลงกับพงศกรและฉุยฉายแล้วว่าจะแยกย้ายกันเพราะคนขาหักมีนัดตัดเฝือก แฟนหนุ่มก็ต้องพาไป ทั้งสองสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าหากถูกนักแสดงหนุ่มปฏิเสธ ก็จะไปช่วยเธอติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยกันจนกว่าจะส่งคุณตาหลงกลับบ้านได้สำเร็จ ซึ่งนั่นอาจจะไม่ใช่บ้านของ เปา ปวีณ์ เลยก็ได้

แววตาเปล่งประกายความหวังของคนแก่ ถ้าผิดหวังขึ้นมา คงน่าสงสารจับใจ

ทั้งที่รู้อยู่อย่างนั้นแต่เมราก็จำใจขับรถมาถึงร้านชาลาลา หวังว่าจะมาเจอผู้จัดการร้านให้ช่วยติดต่อหาปวีณ์ เพราะเธอไม่มีเบอร์ส่วนตัว จะขอพบดาราก็แบบนี้ บางทีก็เรื่องมากจนน่าหมั่นไส้ แต่ก็ต้องเข้าใจว่ามีคนบางกลุ่มไม่ค่อยเกรงใจความเป็นส่วนตัวของเหล่าคนดังเหมือนกัน เรื่องใจเขาใจเรานี้ เมราก็เข้าใจ

“กิมจ๊อ”

เพียงแค่เธอจอดรถที่ลานหน้าเก๋งจีนของร้านชาลาลาในยามค่ำ คุณตาหลงก็พูดขึ้นมาจนเมราเป็นงง แล้วคนแก่ก็ไม่ทิ้งเวลาให้เธอสงสัย เปิดประตูลงจากรถไปด้วยตัวเอง เดินดุ่มเข้าไปหาต้นส้มจี๊ดที่ปลูกอยู่เป็นแถวเป็นแนวในกระถางซึ่งดัดแปลงมาจากบ่อซีเมนต์

กลิ่นดอกส้มจี๊ดหอมสดชื่นแม้จะอยู่ในยามโพล้เพล้ ผสมมากับกลิ่นไอดิน แสงแดดอ่อนๆ ไล้ไปบนผลส้มสีสด ส่องผ่านหยดน้ำที่เกาะตามใบ บอกว่าต้นไม้นับสิบๆ ต้นพวกนี้ ผ่านการดูแล รดน้ำพรวนดินมาเป็นอย่างดี

คุณตาหลงเดินตรงไป สายตาทอดมองต้นส้มจี๊ดอย่างอ่อนโยน ราวกับทะนุถนอมพืชพรรณเหล่านี้มานานทั้งที่ไม่ใช่คนปลูก และนี่คงเป็นครั้งแรกด้วยซ้ำที่ได้มาเยือนร้านชาลาลา แต่สายตาของผู้สูงวัยกลับเต็มไปด้วยความห่วงหาและผูกพัน

“ลื้อมานี่”

จู่ๆ ผู้สูงวัยก็ปลดเป้สัมภาระออกจากหลัง ทิ้งมันลงไปกับพื้นหญ้า แล้วกวักมือเรียกเธอ เมราจึงเดินเข้าไปหาด้วยความงุนงง เห็นก็แต่สายตาอารีที่ท่านมองมา พอเธอเข้าไปหา คุณตาหลงก็เด็ดเอาส้มจี๊ดพวงหนึ่งส่งให้เธอเองกับมือ

“กิมจ๊อมีพลังเย็น ช่วยหล่อลื่นปอด ลื้อเอาไปกินสิ”

“ขอบคุณค่ะ”

“ตอนเด็กๆ อาเปาอีชอบกิน คงจะปลูกไว้กินเอง โตแล้วยังเหมือนเด็กๆ อยู่เลยนะ”

ได้ยินคนแก่ครวญขึ้นมา จากที่ยิ้มหวานอยู่เมราก็ชะงัก ใจชักอยากรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างปู่กับหลาน ทำไมถึงไม่ได้อยู่ด้วยกัน

อีกอย่างเธอจำได้แม่นว่าปวีณ์โมโหแค่ไหนเมื่อถามถึงร้านเหลาหลงของผู้เป็นปู่

“ใครอยู่ตรงนั้น ออกมานะ!”

ยังไม่ทันได้คำตอบใด เมราสะดุ้งโหยงขึ้นมาทันทีเพราะจำได้ดีทีเดียวว่าเสียงใครมาตะคอก ก็คนที่ไล่ตะเพิดเธอออกจากร้านนี้เมื่อตอนบ่ายนั่นแหละ

แล้วการที่กลับมายืนในสวนส้มจี๊ดแห่งนี้อีกหน ปวีณ์จะกินหัวเธอไหม

“อาเปา!”

เธอยังคิดไม่ออกเลยสักนิด คนที่อยู่ข้างกันก็ก้าวพรวด ดูมีเรี่ยวแรงขึ้นมาราวกับกินยาเพิ่มกำลังช้างสารเข้าไป ก้าวฉับๆ อย่างลืมแก่ เข้าไปสวมกอดปวีณ์ไว้แน่น ก็คงเพราะที่เคยบอกเธอไว้ว่านักแสดงหนุ่มเป็นหลานชาย

ไม่มีใครตอบเธอ เมราเห็นเพียงภาพที่ดำเนินไปอยู่ตรงหน้า คุณตาหลงน้ำตาร่วงไหลแล้วกอดคนหนุ่มเอาไว้แน่น ทว่าเธออ่านสีหน้าของปวีณ์แล้วใจไม่ดีเอาเสียเลย เขาดูจะอึ้งจนลืมหายใจไปแล้วด้วยซ้ำ แต่ไร้แววดีใจ ไม่มีสักนิดเดียวเลย

ตะกร้าส้มจี๊ดในมือของคนตัวใหญ่ถึงกับร่วงลงพื้น เมื่อชายชราเข้าสวมกอดแล้วร้องห่มร้องไห้ ปล่อยน้ำตาไหลลงบนบ่าตั้งของคนหนุ่ม ปวีณ์เอาแต่เงียบ แววตาเต็มไปด้วยความสับสนอย่างที่เมราไม่รู้เลยว่าเขาเป็นอะไรไป

“อากง… มาได้ยังไงครับ”

“อั๊วคิดถึงลื้อ”

ชายชรากอดหลานชายเอาไว้แน่น ร่ำไห้อย่างไม่อายใคร กอดปวีณ์ไว้เหมือนรอคอยอ้อมกอดจากหลานชายที่โหยหา ทว่าคนหนุ่มกลับไม่ยอมโอบรัดคุณตาหลงเอาไว้เลย

“กลับบ้านเถอะครับ ผมจะไปส่ง”

“อาเปา…”

หลานชายบอกอย่างนั้น คนแก่ก็น้ำตาไหลพรากแล้วเงยหน้ามองคนตัวสูงกว่า เธอเองก็อึ้งเหมือนกัน นี่เจอกันไม่ถึงสองนาทีจะให้กลับแล้วหรือ ปวีณ์ไล่คนนั้นคนนี้จนกลายเป็นกิจวัตรไปแล้วหรือเปล่า แม้กระทั่งกับปู่ของตัวเองก็ยังทำได้อย่างเฉยชา

“กลับเถอะครับ”

“อั๊วไม่ไปไหนทั้งนั้น อั๊วจะอยู่กับลื้อ”

“แต่ผมให้อากงอยู่ด้วยไม่ได้”

หลานชายเสียงเย็นจนคนที่ยืนดูห่างๆ ยังหน้าเสีย ไม่ต้องพูดถึงคุณตาหลงเลย ร้องไห้โฮอีกรอบไปแล้ว จากน้ำตาแห่งความปรีดีที่ได้พบปวีณ์ กลายเป็นน้ำตาแห่งความโศกเศร้า แต่เขายังยืนมองภาพนั้นอย่างเย็นชา คนมาร้องไห้อยู่ตรงหน้าก็ยังยืนเฉยไม่ทำอะไรเลย

“อากงครับ กลับบ้าน”

“ไม่…”

“แต่อากงอยู่ที่นี่ไม่ได้!”

“อั๊วจะอยู่กับลื้อ ยังไงอั๊วก็จะอยู่” คนแก่เริ่มฟูมฟายเพราะปวีณ์เสียงแข็งใส่ แต่ก็ยังกอดหลานชายไว้แน่นกว่าเดิม “หรือลื้อจะกลับไปอยู่ที่เหลาหลงด้วยกันก็ได้ ให้อั๊วทำอะไรก็ได้ แต่อย่าไล่อั๊วไปเลยนะ”

“ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นครับ ผมแค่ต้องการให้อากงอย่ามาหาผมอีกก็พอ”

“อาเปา… ลื้อไม่รักอั๊วแล้วเหรอ”

ใจดำเป็นบ้าเลย!

เมราตะโกนคำนี้อยู่ในใจเพราะปวีณ์ไม่ยอมตอบปู่ เธอจะไม่ทนอีกแล้ว จะไม่ปล่อยให้คุณตาหลงต้องร้องไห้เพราะถูกหลานชายปฏิเสธ ปวีณ์ไม่รู้หรอกว่ากว่าปู่จะมาหาถึงที่นี่ได้ต้องเสี่ยงชีวิตมาแค่ไหน ถ้าไม่ใช่เพราะเธอไปพบเข้า ป่านนี้คงเกิดอุบัติเหตุหรือเป็นลมอยู่ข้างถนนไปแล้ว

แล้วนี่อะไร คนแก่มาร้องไห้โฮปานจะขาดใจอยู่ตรงหน้า หลานชายยังไม่ดูดำดูดี เขาไม่มีหัวใจสักนิดเลย

“อากง!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel