ตอนที่3
เช้าวันอาทิตย์ชนิกาถูกคุณหนูของบ้านเรียกให้เข้ามาพบถึงในห้อง ทรรศนีย์สนิทกับชนิกาที่สุดเพราะอายุไล่เลี่ยกันและตั้งแต่เด็กก็มีแค่ชนิกาที่เป็นเพื่อนเล่นทรรศนีย์ไม่เคยมองว่าชนิกาเป็นคนรับใช้แต่มองเธอเป็นน้องสาวที่คอบรับฟังปัญหาของเธอ
"คุณทับทิมให้พี่ผึ้งไปตามชมมีอะไรหรือเปล่าคะ"
"เมื่อวานฉันทะเลาะกับคุณแม่อีกแล้ว" คุณหนูที่ถูกตีกรอบมาตั้งแต่จำความได้ทำหน้าเศร้า คนที่ได้ยินก็รีบนั่งลงแล้วเป็นผู้ฟังที่ดี
"หลังเรียนจบคุณแม่จะให้ฉันแต่งงานกับลูกชายของหุ้นส่วนคุณพ่อ แต่ฉันไม่อยากแต่งฉันอยากทำงานอยากมีอิสระไม่อยากอยู่ในกรอบของพ่อแม่อีกแล้ว" ทรรศนีย์ร่ายยาวจนคนฟังจับความแทบไม่ทัน ชนิกามองคนที่นั่งปรับทุกข์กับเธอแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะหน้าที่ของเธอคือแค่รับฟัง ใครที่คิดว่าเกิดเป็นลูกคนรวยแล้วจะถูกตามใจจนเสียคนแต่ผิดคาดกับทรรศนีย์ที่ถูกบังคับและถูกตีกรอบจากพ่อแม่มาตั้งแต่เด็กจนไม่สามารถพูดหรือทำอะไรได้เพราะทุกอย่างที่ทำกลายเป็นผิดไปหมดสำหรับพ่อแม่
"ชม ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้ว"
"แล้วคุณทับทิมจะไปอยู่ที่ไหนคะ"
"ไม่รู้สิเธอพาฉันหนีไปไกลหน่อยๆได้มั้ย" ทรรศนีย์พูดในสิ่งที่เป็นไปได้ยาก
"ไม่ได้หรอกค่ะถ้าคุณหญิงจับได้ชมคงต้องถูกลงโทษแน่ๆค่ะ"
"ฉันก็คงหนีไปได้ไม่ไกลฉันมันคนอ่อนแอ" ทรรศนีย์ยิ้มให้กับความอ่อนแอของตัวเอง
"คุณทับทิมไม่ได้อ่อนแอนะคะแต่คุณทับทิมอ่อนโยนมากกว่าคนอื่นยังไงล่ะคะ"
"ฉันก็มีแค่เธอนี่แหละที่ให้กำลังใจฉัน" ทรรศนีย์ยิ้มให้ชนิกาอย่างอ่อนโยน
"คุณแม่ส่งรูปผู้ชายคนนั้นให้ฉันดูด้วยนะเห็นบอกว่าเรียนที่เดียวกับเธอด้วยนะชม" คุณหนูผู้อ่อนโยนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดรูปคนที่ต้องแต่งงานให้ชนิกาดู
"นี่ไงรู้จักหรือเปล่า" ชนิกาตาโตไม่ใช่แค่รู้จักแต่คนในภาพคือคนรักของเธอ
"ชม รู้จักมั้ย"
"มะ...ไม่ค่ะ ไม่รู้จัก" เธอต้องโป้ปดเพราะไม่เคยมีใครรู้ว่าเธอคบกับเขากับคนที่มีพร้อมทุกอย่าง
"งั้นเหรอคงจะเรียนคนละคณะกันมั้ง" ทรรศนีย์ได้เอะใจอะไรและไม่ถามต่อ ร่างบางเริ่มหน้าเสียเรื่องที่เธอได้ยินเขาทะเลาะกับแม่ของเขามันดันมาเชื่อมโยงกับคนใกล้ตัวเธอ แล้วเธอจะเลือกอะไรล่ะ
"แต่ชมว่าเขาเป็นคนดีนะคะถ้าคุณทับทิมแต่งงานกับเขาต้องมีความสุขแน่ๆค่ะ" เชื่อเถอะว่าเธอไม่ได้อยากพูดแบบนั้นแต่คงจะดีไม่น้อยถ้าคนที่เธอรักได้แต่งงานกับคนที่เหมาะสมแบบทรรศนีย์
"ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ"
"ชมก็แค่คิดน่ะค่ะเขาดูไม่ใช่คนเลวร้ายถ้าคุณทับทิมลองเปิดใจ"
"ฉันยังไม่รู้หรอกยังไม่เคยเจอกันสักครั้ง" ทรรศนีย์ไม่เคยรักใครเพราะถูกอบรมมาตลอดให้รักนวลและห้ามมีแฟนถ้ายังเรียนไม่จบ ชนิกานั่งเงียบไม่รู้จะพูดอะไรต่อตอนนี้ในใจของเธอมันแหลกจนไม่เหลือชิ้นดีแล้วเธอกับเขาคงไปกันต่อไม่ได้แล้ว
"แล้วแฟนชมล่ะ ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นมารับเลย" ทรรศนีย์ถามด้วยความอยากรู้เธอเคยเห็นว่ามีรถมารับชนิกาที่หน้าบ้านตอนเช้าประจำและพอตอนเย็นก็จะขับมาส่งแต่ไม่เคยเห็นหน้าคนขับเพราะอีกคนไม่ยอมลงจากรถ
"เราเลิกกันแล้วค่ะ" ตอบอย่างหน้าเศร้าแม้จะยังไม่ได้เลิกกันจริงๆแค่ช่วงนี้เขาติดทำวิจัย แต่อีกไม่นานก็ต้องเลิกเธอแค่ขอเวลาอีกหน่อย
"ขอโทษนะฉันไม่น่าถามเลย" ทรรศนีย์รู้สึกผิดที่ถามเพราะแค่อยากรู้ เธอแค่สงสัยก็เท่านั้นแต่ความสงสัยของทำให้ชนิกาดูเศร้า
"ไม่เป็นไรค่ะ" ชนิกายิ้มอย่างอ่อนโยนราวกับว่าไม่ได้รู้สึกอะไร
