สิทธิ์ความเป็นพ่อ
“แต่ลูกก็ต้องการพ่อนะ”
“ฉันรู้ว่ารู้ต้องการพ่อ ทุกครั้งที่เขาถามถึงว่าพ่ออยู่ไหนทำไมพ่อไม่มาหาเขาบ้าง มันเป็นคำถามที่ฉันตอบยากที่สุดในชีวิต ฉันพยายามเป็นทั้งพ่อและแม่ให้ลูกแต่ไม่เคยมีสักครั้งที่ลูกจะไม่ถามหาพ่อ”
“จนวันนั้นวันที่ฉันร้องไห้เมื่อเขาถามหาพ่อฉันไม่รู้จะตอบยังไงไม่มีคำตอบอะไรให้ลูกอีกและวันนั้นคือวันที่เขาไม่ถามหาพ่ออีกเลย แต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่ต้องการแค่เขาไม่อยากทำให้แม่อย่างฉันต้องร้องไห้ไง” เธอรู้มาตลอดว่าลูกต้องการพ่อ ลูกมักจะโดนล้อเสมอว่าไม่มีพ่อ เธอพยายามปลอบและสอนเขาอย่างดีที่สุดถึงแม้ว่าไม่มีพ่อแต่เขาก็ยังมีแม่ที่รักและคอยปกป้องเขาอยู่
“ข้าวใจร้ายกับเฮียมากเลยรู้มั้ย”
“จะให้ฉันทนอยู่กับคนที่นอกใจฉันงั้นเหรอ? ในเมื่อคุณก็มีคนอื่นแล้วทำไมยังมายุ่งกับเราสองคนแม่ลูกอีก”
เสียงสะอื้นของข้าวยังคงดังไม่หยุด ดวงตาแดงก่ำของหมอเหนือที่พยายามจะกั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหล เขาได้ยินประโยคที่ข้าวพูดมันยิ่งทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดหัวใจทำไมเขาไม่ตามหาเธอกับลูกในดีกว่านี้ ทำไมเขารู้ตัวช้า ความเจ็บปวดที่รู้ว่าลูกต้องการพ่อแต่ก็อยากจะปกป้องแม่ของเขาคงเจ็บปวดไม่น้อยสำหรับเด็กอายุอย่างลูกชายเขา
“เฮียไม่เคยนอกใจข้าว เฮียสาบานได้จะดูหลักฐานมั้ย”
“ไม่ฉันไม่อยากรับรู้เรื่องของคุณอีกแล้ว” ข้าวที่ตอนนี้สติแตกแทบจะไม่อยู่กับตัว เธอยังคงร้องไห้ไม่หยุด ใจของเขาอยากจะอธิบายให้เธอเข้าใจแต่คงไม่ใช่ตอนนี้ เพราะข้าวตอนนี้แทบจะไม่รับรู้อะไรเลยด้วยซ้ำ เมื่อเห็นข้าวเจ็บปวดขนาดนี้ หมอเหนือก็เอาแต่โทษตัวเองจากที่โกรธเธอมาก ตอนนี้ความรู้สึกนั้นหายไปหมด เรื่องที่ข้าวเข้าใจผิดจนหนีเขาไปเขาอธิบายได้และมีหลักฐานทุกอย่างแค่รอเวลาที่ข้าวพร้อมรับฟังเท่านั้น
“หยุดร้อง ถ้าไม่หยุดเราได้เห็นดีกันข้าวเจ้า” เสียงดุของหมอเหนือใช้ได้ผล เมื่อคุณแม่ลูกหนึ่งพยายามหยุดร้องไห้แต่ก็ยังมีสะอึกอยู่เป็นระยะ เขาไล่ให้เธอไปล้างหน้าล้างตาและมาเคลียร์กันเรื่องลูกให้รู้เรื่องส่วนเรื่องของเขาและเธอหวังว่าลูกจะช่วยเขาได้
“จะเอายังไงเรื่องลูก”
“ฉันจะเลี้ยงเขาเอง ฉันเลี้ยงเขาได้คุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”
“แต่นอธก็ลูกเฮียนะข้าว”
“งั้นเสาร์-อาทิตย์ ฉันจะให้ลูกมาอยู่และนอนกับคุณเลยก็ได้” ใบหน้าจิ้มลิ้มของคุณแม่ที่ตอนนี้ดวงตาแดงเปล่งยื่นข้อเสนอให้คนเป็นพ่อ เขาอยากจะบอกเหลือเกินว่าเขาไม่ได้อยากได้แค่ลูกแต่เขาอยากได้แม่ของลูกด้วย
“ข้าวกับลูกต้องย้ายมาอยู่กับเฮียที่คอนโดนี้ ลูกอยากให้ทั้งพ่อและแม่อยู่ด้วยกันอย่าเห็นแก่ตัว ข้าวพรากความสุขของลูกไปนานแล้วนะ”
“แต่”
“ถ้ามีข้ออ้างอีก ไปเจอกันที่ศาล” สีหน้าแววตาของหมอเหนือทำให้ข้าวไม่อาจจะคัดค้านและกล้าเถียงเขาได้เลยแต่เธอก็ยังมีพ่อแม่และพี่ชายที่ยังไม่รู้เรื่องนี้แต่แค่ช่วงนี้พวกเขาไม่อยู่ก็แค่นั้นเอง แต่คงไม่เป็นไรถ้าแบบว่าจะย้ายไปอยู่คอนโดเพื่อสะดวกในการเดินทาง
“ถ้าไม่สะดวกอยู่คอนโดงั้นก็ย้ายไปอยู่บ้าน เดี๋ยวเฮียจะเอาแบบโครงการมาให้ข้าวเลือก” ใบหน้าของข้าวที่แสดงออกถึงความหนักใจ จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเหม่อลอยจนหมอเหนือต้องเรียกสติ
“สรุปยังไงข้าว”
“โอ๊ย!!อยู่คอนโดนี้แหละแต่ก็มีบ้างนะถ้าฉันจะกลับไปนอนที่บ้าน”
“โอเค ย้ายวันนี้เลย”
“ได้ไงคุณ เสื้อผ้าฉันกับลูกก็ไม่มี”
“ไปเก็บแค่ของจำเป็นก็พอ นอกนั้นก็ซื้อใหม่” ฉันเบื่อพวกคนรวยจริง ๆ อะไรก็ซื้อใหม่ ใบหน้าเนียนของคุณแม่ลูกหนึ่งล้อเลียนคุณหมอเหนือที่นั่งตรงข้ามจนสายตาของข้าวสะดุดกับใบหน้าดุของหมอเข้า
“มามี๊คร๊าบ” เสียงลูกชายดังจากห้องนอนทำให้คนเป็นแม่อย่างข้าว ดีดตัวลุกขึ้นและเร่งฝีเท้าไปยังห้องนอนทันที ทำให้หมอเหนือทึ้งในสัญชาตญาณในตัวเธอจริง ๆ แค่เสียงลูกเรียกหาเบา ๆ เธอสามารถได้ยินและดีดตัวลุกขึ้นไปหาลูกอย่างรวดเร็ว
ฟอด!!
“ครับลูก มี๊อยู่นี่ ไหนนอนอิ่มรึยัง” แม่ลูกหอมแก้มกันฟอดใหญ่เมื่อตื่นนอนทุกครั้ง หมอเหนือมองภาพตรงหน้าด้วยความดีใจและตื้นตันใจ เขาไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้วันที่เขาได้คนที่รักกลับคืนมาพร้อมกับเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา ชีวิตที่ไร้สีสันตอนนี้ได้กลับมาอีกครั้ง
“นอธปวดฉิ้งฉ่องครับมี๊” มือบางขยี้เส้นผมของลูกชายเบา ๆ ด้วยความมันเขี้ยวก่อนจะพาเจ้าลูกชายเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว ทิ้งให้หมอเหนือยืนพิงขอบประตูมองความน่ารักของสองคนแม่ลูกแบบนั้น
“นอธเย็นนี้อยากกินอะไรครับ”
“นอธอยากกินไอติม เอ๊ะ!!คุณยุง มองอะไรจะจีบมี๊ของนอธหย๋อ” มุมปากยกยิ้มให้เจ้าลูกชายแต่เขาติดใจตรงคำว่าลุงนี่แหละ เขาเป็นพ่อนะเว้ยพ่อที่ทำให้เกิดมาด้วยหยาดเหงื่อกว่าจะได้มาเป็นตัวเป็นตนขนาดนี้รู้มั้ยว่าต้องเสียแรงไปตั้งเท่าไหร่
“ทำไมถึงเรียกลุกอยู่ได้”
“ต้องเรียกอะไรครับ”
“เรียกพ่อหรือไม่ก็เรียกป๊า เลือกเอาเองครับ” เสียงสั่นเครือของหมอเหนือที่แนะนำให้ลูกเรียกสรรพนามใหม่ของเขามากกว่าที่ลูกจะเรียกว่าลุง
“อื้ม งั้นนอธเลือกพ่อดีกว่า พ่อเหนือใช่มั้ยฮะ” สีหน้าครุ่นคิดของนอธทำให้ข้าวและหมอเหนือลุ้นตามไปด้วยเธอไม่รู้ว่าถ้าเกิดนอธรู้ความจริง ลูกจะรู้สึกยังไง
“นอธทำไมหนูไม่สงสัยเหรอคะลูกว่าคนนี้คือใคร”
“นอธรู้ตั้งแต่เห็นหน้าพ่อแล้วครับ ว่าเขาคือพ่อ”
“ทำไมครับ”
“จะมีสักกี่คนบนโลกใบนี้ที่มีหน้าตาคล้ายกันเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ครับมี๊” อึ้ง!! ทั้งข้าวและหมอเหนือตะลึงกับคำตอบของลูกชายที่ดูจะฉลาดเกินวัยของเขา สีหน้าภูมิใจของหมอเหนือดูจะทั้งดีใจและตื่นเต้น เมื่อรู้ว่าลูกชายของเขาเหมือนเขาเกือบทุกอย่างแม้แต่ไอคิว
“งั้นวันนี้เราไปกินข้าวที่ห้างกันดีกว่าจะได้ไปซื้อของด้วย”
“คร๊าบ” สองคนพ่อลูกเข้ากันเป็นปรี่เป็นขลุ่ยแถมตัวติดกันอย่างกับปาท่องโก๋ พ่อว่าไงลูกก็ว่าตามนั้น ความออดอ้อนของลูกชายยิ่งทำให้หมอเหนือหลงแล้วหลงอีกจนไม่อยากห่างไปไหน ว่าง ๆ เขาคงต้องพาลูกไปตรวจไอคิวให้รู้เรื่องเขาสังเกตว่าลูกฉลาดแต่บางครั้งก็ไม่แสดงออกมาให้เห็นว่าเขารู้มากกว่าเด็กปกติ
