ลูกต้องการพ่อ
“คุณคูรสวัสดีค่ะ” หลังจากเลิกกิจกรรมของมหาลัย ข้าวก็รีบขับรถมารับนอธทันที เพราะวันนี้เธอมารับลูกช้าและฝากคุณครูเอาไว้ก่อนแต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเธอมาถึงหน้าโรงเรียนของนอธแต่กลับไม่พบลูกชายวิ่งเล่นที่สนามเด็กจึงหันไปหาคุณครูที่อยู่ประจำหน้าโรงเรียนแต่เมื่อคุณครูเห็นหน้าของเธอกับทักขึ้นมาก่อน
“คุณแม่คะ วันนี้คุณพ่อของน้องมารับไปแล้วนะคะและพ่อน้องก็ฝากเบอร์โทรเอาไว้ให้ด้วยค่ะ” หือ!! พ่อนอธใครเหรอคุณครูพูดถึงใคร ความงุนงงเกิดขึ้นเมื่อได้ยินคำตอบของคุณครู ข้าวรับกระดาษที่จดเบอร์โทรพร้อมชื่อของเจ้าของกระดาษแผ่นนั้นกำเอาไว้ในมือ แค่เห็นชื่อเขาทำให้เธอรับรู้ได้เลยว่าเขาคนนั้นเป็นใคร!!
“ทำไมคุณครูถึงไม่โทรถามฉันก่อนคะ”
“ครูเห็นว่าน้องนอธไม่มีท่าทีว่าจะกลัวแถมหน้าตาก็เหมือนคุณพ่อด้วย คือ ครูก็เลย..”
“โอเค ไม่เป็นไรค่ะแต่ครั้งหน้าถ้าฉันไม่ได้สั่งเอาไว้อย่าให้ลูกฉันไปกับคนอื่นนะคะ” ข้าวหันไปต่อว่าคุณครูด้วยอารมณ์หงุดหงิดที่ตีขึ้นมาในใจ ระบบรักษาความปลอดภัยของโรงเรียนก็ดีแต่ทำไมถึงได้บกพร่องเรื่องแบบนี้แค่หน้าตาเหมือนลูกฉันก็จะปล่อยให้ลูกฉันไปกับใครก็ได้งั้นสิ!! เธอรีบต่อสายหาเจ้าของเบอร์โทรทันทีด้วยความเป็นห่วงลูกจับใจไม่รู้ว่าเขาจะเลี้ยงเด็กอย่างนอธได้มั้ย ใจของคนเป็นแม่ร้อนรุ่มไปหมด
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด
“ฮาโหล”
“นายเอาลูกฉันไปไว้ที่ไหน ห๊ะ!!” เมื่อปลายสายรับโทรศัพท์แค่ประโยคเดียวก็ทำให้ข้าวรับรู้ได้เลยว่าใครเป็นคนรับสายเสียงที่ไม่ได้ยินมานานแต่ก็ใช่ว่าเธอจะลืม น้ำเสียงไม่ทุกข์ร้อนดังขึ้นยิ่งทำให้ความหงุดหงิดก่อนหน้านี้เพิ่มเป็นทวีคูณ
“อยู่คอนโดเราไง ยังจำได้มั้ย”
“ไอ้เหนือ เอาลูกฉันคืนมานะ”
“ไม่เอา ไม่พูดแบบนี้” ชายหนุ่มเริ่มงอแงกับสรรพนามที่ใช้เรียกเขาด้วยคำไม่สุขภาพ เพราะข้าวไม่เคยขึ้นเสียงหรือพูดไม่เพราะกับเขา น้ำเสียงที่มักจะออดอ้อนอยู่ตลอดเวลาแต่ครั้งนี้น้ำเสียงของข้าวช่างแปลกไปไม่เหมือนเดิม ในเวลานี้น้ำเสียงที่แข็งก้าวไม่มีท่าทีว่าจะกลัวเขาโกรธแม้แต่น้อย
“อยู่คอนโด รหัสเดิม จะมาก็มา” เหนือพูดกับข้าวเสร็จก็ชิงตัดสายทิ้งไปก่อนยิ่งสร้างความหงุดหงิดและหัวร้อนให้กับข้าวเป็นอย่างมาก ใจก็เป็นห่วงลูกอีกใจก็ไม่อยากเจอหน้าเขาแต่ด้วยหน้าที่แม่ที่พร้อมจะปกป้องลูกทำให้เธอรีบขับรถไปคอนโดที่เธอเคยอยู่กับเขาเมื่อก่อน
คอนโดหรูใจกลางเมืองที่มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ผ่านไปหลายปีเหมือนกันที่เธอออกจากคอนโดนี้ไปและไม่เคยคิดจะกลับมาเหยียบอีก ภาพความทรงจำยังคงฉายวนอยู่ในหัว รถยนต์คันหรูจอดสนิท ข้าวก็รีบลงจากรถและกดลิฟต์ขึ้นไปยังห้องพักอย่างไม่รอช้า
เมื่อเดินมาถึงหน้าห้องเธอชะงักตัวหยุดนิ่งที่หน้าประตูสักพัก ก่อนจะทำใจเลือกที่จะเคาะประตูมากกว่าที่จะกดรหัสเข้าไปเอง เธอเคาะประตูได้ไม่นานบานประตูก็เปิดออกเผยให้เห็นบุคคลที่เธอไม่ได้เห็นมานานตลอดหลายปี บุคคลตรงหน้าที่ดูหล่อเหลาและดูเป็นผู้ใหญ่กว่าแต่ก่อนยืนอยู่ตรงหน้าของเธอ ทั้งเขาและเธอได้แต่นิ่งเงียบไม่มีใครพูดอะไรออกมา ก่อนที่เธอจะทำลายความเงียบนั้นเอง
“ลูกฉันอยู่ไหน”
“ลูกหลับอยู่ เงียบหน่อย”
“เอาลูกฉันคืนมานะ” ข้าวผลักหมอเหนือที่ยืนขว้างหน้าประตูให้หลบไปก่อนจะเดินเข้าไปหาลูกชายด้วยความร้อนรน เธอเห็นลูกชายกำลังหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงนอนสร้างความแปลกใจให้เธอไม่น้อย เพราะลูกชายเธอจะหลับยากถ้าไม่มีผ้าห่มประจำตัวหรือเธออยู่ด้วยคงเป็นสายใยของพ่อลูกที่ทำให้นอธไว้ใจและหลับสนิทขนาดนี้
“คุยกันหน่อยได้มั้ย”
“ไม่!!ฉันจะพาลูกฉันกลับ”
“ลูกข้าวคนเดียวงั้นเหรอ แล้วไหนพ่อเด็ก” ประตูห้องนอนปิดลงเพราะไม่อยากให้ลูกตื่น ข้าวและหมอเหนือยังคงทำสงครามประสาทกันอยู่แบบนั้น คำพูดของข้าวที่แทงใจดำหมอเหนือมันทำให้เขาเริ่มหัวร้อนขึ้นมากับคนที่ดื้อรั้นแบบข้าว
“พ่อนอธ ตายแล้ว” บรรยากาศภายในห้องปกคลุมไปด้วยความอึมครึม หมอเหนือที่ยืนกอดอกมองไปยังข้าวที่พูดกับเขาด้วยใบหน้านิ่ง ข้าวเปลี่ยนไปมากจริง ๆ จากผู้หญิงที่อ่อนโยนน่ารัก ขี้อ้อน ชอบให้เขาปกป้องเสมอแต่ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอสวยขึ้นมาก โดดเด่น ทั้งน้ำเสียงและแววตาที่ดูเป็นผู้หญิงแกร่ง เธอดูนิ่งขึ้นมากจนเขาเองก็แปลกใจเหมือนกัน
“ตายงั้นเหรอ!!”
“ใช่!!”
“พ่อที่ไม่เคยรับรู้ว่าตัวเองมีลูกงั้นเหรอข้าว พ่อที่ไม่เคยคิดว่ามีเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองอยู่บนโลกนี้งั้นเหรอที่เรียกว่าตาย” น้ำเสียงแข็งตะคอกใส่ข้าวด้วยความโมโห หมอเหนือพยายามจะคุยด้วยเหตุผลโดยและใช้ความใจเย็นเพื่อจะคุย แต่ข้าวไม่เคยยอมรับอะไรง่าย ๆ ยิ่งทำให้ความเดือดภายในใจเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
“เขาไม่ใช่ลูกของคุณ”
“งั้นเหรอ เฮียจะให้ข้าวตอบอีกครั้ง”
“เขาไม่ใช่ลูกของคุณ คุณเข้าใจผิดแล้ว” แววตาเสียใจของหมอเหนือแสดงออกมาอย่างชัดเจน เขาไม่ต้องการได้รับประโยคนี้จากข้าวถึงแม้จะลูกว่ามันคือเรื่องโกหกทั้งหมดแต่เธอก็ยังเลือกที่จะปิดบังเขา
“งั้นก็ไปเจอกันที่ศาลก็แล้วกัน”
“อย่านะ!!คุณมีสิทธิ์อะไร..นั้นลูกชายฉันนะ”
“สิทธิ์ในความเป็นพ่อไงและเฮียอยากจะบอกให้ข้าวรู้เอาไว้เลยนะ ความเป็นแม่กับเงินอันไหนจะชนะ” ประโยคที่หมอเหนือพูดออกมา ทำให้ขาของข้าวอ่อนแรงจนนั่งคุกเข่าตรงหน้าหมอเหนือ สิ่งที่เธอไม่อยากให้เกิดทำไมถึงเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ เป็นสิ่งที่เธอกลัวว่าวันหนึ่งหมอเหนือจะรู้และแย่งลูกไปจากเธอ เขามีทั้งเงินและอำนาจข้อนี้เธอรู้ดี ถึงแม้ว่าครอบครัวของเธอจะมีเงินแต่ก็ด้อยกว่าเขามากถ้าสู้กันขึ้นมาจริง ๆ
“ข้าว” สองมือของข้าวยกขึ้นพนมมือขึ้นไหว้หมอเหนือทั้งที่ยังคุกเข่าต่อหน้าเขา หยดน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด แค่คิดว่าเขาเอาลูกชายของเธอไปความเจ็บปวดก็กัดกินใจเธออย่างสาหัส
“ขอร้อง อย่าเอาลูกไปจากฉันเลยนะ ลูกคือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของฉัน ฉันอยู่ไม่ได้จริง ๆ ถ้าไม่มีเขา” หยดน้ำตาที่ไหลรินเปื้อนใบหน้าสวย เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นปานจะขาดใจ ทำให้หมอเหนือชะงักและนิ่งไปทันที
“แต่ลูกก็ต้องการพ่อนะ”
##ขอกำลังใจจากรีตกดหัวใจ กดไลท์ กดแชร์ กดคอมเม้นต์มาคุยกันได้นะค่ะ##
