บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 ไม่ชอบคนโง่

ณ จวนอ๋องนอกเมือง

“เกิดอะไรขึ้น!” เสียงห้าวของฉู่เติ้งหาวดังลั่นไปทั่วจวนเมื่อเห็นหวงจื่อเฉาอุ้มร่างอ่อนปวกเปียกของฉู่ไจ๋ไจ๋เดินเข้ามา หลังจากที่พ่อบ้านประจำตระกูลไปรายงานว่าหวงจื่อเฉาพาฉู่ไจ๋ไจ๋ที่หมดสติกลับมายังจวนอ๋อง

“ไจ๋ไจ๋ลูกแม่” จวีลู่ม่านที่เดินตามหลังสามีเข้ามาอย่างติดๆรีบเร่งฝีเท้าตรงเข้าไปหาหวงจื่อเฉา ส่งสายตามองร่างไร้สติของบุตรสาวด้วยความกังวลเป็นอย่างมาก

“ทูลท่านอ๋อง พระชายา รถม้าของท่านหญิงฉู่ไจ๋ไจ๋เกิดอุบัติเหตุ นางหมดสติไป กระหม่อมจึงพานางกลับมาส่งยังจวนอ๋องพ่ะย่ะค่ะ”

“ไฉอันไปตามหมอมาเดี๋ยวนี้!” ฉู่เติ้งหาวตะโกนเรียกองครักษ์คนสนิทเสียงดัง หากแต่ไฉอันยังไม่ทันได้ก้าวเดินออกไป หวงจื่อเฉาก็เอ่ยขึ้นมาเสียก่อน

“กระหม่อมให้สื่อเสียงไปตามท่านหมอมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ” พูดยังไม่ทันจบประโยค สื่อเสียงก็พาท่านหมอมาปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตู

“คุณชายหวงพาไจ๋ไจ๋เข้าหอนอนก่อนเถิด” จวีลู่ม่านสบตากับบุรุษหนุ่มรุ่นลูก หวงจื่อเฉาจึงขานรับวาจาของนาง หากแต่ฉู่เติ้งหาวกลับเดินเข้ามาขวางหน้าเขาไว้เสียก่อน

“ส่งไจ๋ไจ๋มาให้ข้า ส่วนเจ้ากลับไปได้แล้ว” เอ่ยปากไล่อย่างไม่ไว้หน้า เขาสังเกตได้ว่าหวงจื่อเฉามีท่าทีห่วงใยฉู่ไจ๋ไจ๋มากเกินจนน่าประหลาดใจ อาการหวงบุตรสาวจึงกำเริบขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

“ท่านพี่ คุณชายหวงช่วยลูกเราไว้นะเพคะ” จวีลู่ม่านออกปากปรามสามี หากแต่ฉู่เติ้งหาวยังคงจ้องหน้าหวงจื่อเฉาเขม็ง ชายหนุ่มเห็นเช่นนั้นจึงยอมส่งร่างบอบบางให้กับฉู่เติ้งหาว อย่างไรเขาก็เป็นเพียงแค่คนนอก ทว่าคนตรงหน้าเป็นบิดาของนาง อีกทั้งยังเป็นถึงโอรสของฉู่ฮ่องเต้

ฉู่เติ้งหาวส่งสายตามองร่างบางของฉู่ไจ๋ไจ๋ในอ้อมแขนด้วยความห่วงใย หัวอกของคนเป็นพ่อปวดหนึบขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นบุตรสาวไม่สบาย เขารีบสาวเท้าตรงไปยังหอนอนของนาง จากนั้นจึงปล่อยให้ท่านหมอเข้าไปตรวจดูอาการของนางทันที

หวงจื่อเฉามองตามทุกคนที่เดินหายเข้าไปยังหอนอนของฉู่ไจ๋ไจ๋ จากนั้นจึงถอนหายใจออกมาเบาๆ รู้สึกเป็นห่วงนางไม่น้อยเลยทีเดียว เขาเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าเหตุใดถึงได้รู้สึกผูกพันธ์กับนางเป็นพิเศษ หรือเป็นเพราะว่าเขากับนางเคยพบกันในครั้งเมื่อยังเยาว์วัยมาแล้วหนหนึ่งก็อาจเป็นได้

ร่างสูงหมุนกายหันหลังหมายจะเดินกลับไปหาอาชาคู่ใจ หากแต่ต้องหยุดฝีเท้าลงเมื่อเห็นร่างเล็กของใครบางคนยืนขวางหน้าไว้

“ชอบพี่สาวของข้าหรือ” ฉู่ตี้หาวหรี่ตามองคนตัวโตตรงหน้าอย่างจับผิด คิ้วหนาของหวงจื่อเฉาขยับเข้าหากันเล็กน้อย ฟังจากคำพูดคำจาของเด็กน้อยตรงหน้าแล้ว เขาคงเป็นท่านชายฉู่ตี้หาวน้องชายของท่านหญิงฉู่ไจ๋ไจ๋ไม่ผิดแน่

“ท่านชายหมายความว่าอย่างไรกัน” เขาแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ อีกทั้งยังรู้สึกไม่ใคร่พอใจนัก คิดว่าเด็กอย่างฉู่ตี้หาวไม่ควรยุ่งเรื่องของผู้ใหญ่

“คำถามแค่นี้ยังไม่เข้าใจ พี่สาวของข้าไม่ชอบคนโง่หรอกนะ” ฉู่ตี้หาวส่ายศีรษะไปมาด้วยความเอือมระอา ก่อนจะสาวเท้าก้าวเดินผ่านหวงจื่อเฉาไป ในเมื่อตอนนี้ไม่มีสิ่งใดต้องเป็นกังวลแล้ว บุรุษผู้นี้เป็นคนโง่เขลา พี่สาวไจ๋ไจ๋ของเขาไม่มีวันชายตาแลอย่างแน่นอน

หากแต่หวงจื่อเฉากลับขานเรียกฉู่ตี้หาวเอาไว้เสียก่อน

“ท่านชายฉู่ตี้หาว”

เด็กชายวัยสิบเอ็ดหนาวหมุนกายหันหลังกลับมา เขายกมือขึ้นกอดอกมองหวงจื่อเฉาด้วยท่าทีที่หยิ่งยโส ท่าทางของเขาถอดแบบฉู่เติ้งหาวผู้เป็นพ่ออย่างไม่มีผิดเพี้ยน

“หากข้าไม่ใช่คนโง่ พี่สาวของท่านจะชายตาแลหรือไม่” ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดถึงทำให้เขาเอ่ยออกไปเช่นนั้น หวงจื่อเฉาไม่เข้าใจตัวเองเช่นกัน เขาชอบท่านหญิงฉู่ไจ๋ไจ๋งั้นหรือ

“ฝันไปเถอะ พี่สาวของข้ามีคนจับจองแล้ว ท่านมาช้าไปแล้วล่ะ” ฉู่ตี้หาวเปล่งเสียงหัวเราะ ก่อนจะเดินจากไปปล่อยให้หวงจื่อเฉามองตามด้วยความสงสัย ท่านหญิงฉู่ไจ๋ไจ๋มีคู่หมายแล้วงั้นหรือ บุรุษผู้นั้นคือผู้ใดกัน

เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วยาว คนที่นอนหลับใหลไปก็พลันได้สติ

ดวงตาคู่งามกะพริบถี่ไปมาก่อนจะค่อยๆเปิดขึ้น ฉู่ไจ๋ไจ๋รู้สึกปวดศีรษะจนเผลอเปล่งเสียงครางออกมาเบาๆ ครั้นเมื่อลืมตาขึ้นจึงได้เห็นดวงหน้างามของท่านแม่จวีลู่ม่านที่กำลังจดจ้องมายังนางอยู่

“ท่านพี่ ไจ๋ไจ๋ฟื้นแล้วเจ้าค่ะ” จวีลู่ม่านรีบหันไปเรียกสามีที่ยืนหน้าเครียดอยู่ริมหน้าต่าง โดยมีฉู่ตี้หาวนั่งอยู่บนตั่งนั่งอีกมุมหนึ่ง สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวลไม่ต่างจากบุพการี เป็นห่วงพี่สาวฉู่ไจ๋ไจ๋ไม่น้อยไปกว่ากัน

ทั้งฉู่เติ้งหาวและฉู่ตี้หาวรีบปรี่เข้ามายืนข้างขอบเตียง ฉู่ไจ๋ไจ๋กะริบตาปริบๆ มองบุพการีทั้งสองคนก่อนจะมองเลยไปยังน้องชายของตนด้วยความงุนงง

“เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ”

“รถม้าของลูกเกิดอุบัติเหตุ จากนั้นลูกจึงหมดสติไป” จวีลู่ม่านตอบบุตรสาว รู้สึกสงสารฉู่ไจ๋ไจ๋ไม่น้อยเลยทีเดียว หากทำได้นางอยากเจ็บตัวแทนลูก ไม่อยากเห็นลูกต้องล้มป่วยเช่นนี้เลย

”น่าแปลกยิ่งนัก ท่านหมอบอกว่าอาจเป็นเพราะศีรษะของลูกได้รับความกระทบกระเทือนจากการกระแทกกับผนังรถม้า แต่เมื่อตรวจดูอาการกลับไม่พบบาดแผลที่ใด” ฉู่เติ้งหาวนิ่วหน้าเข้าหากัน กล่าววาจาพึมพำออกมา แม้กระทั่งท่านหมอยังหาสาเหตุไม่ได้ว่าฉู่ไจ๋ไจ๋หมดสติไปเพราะเหตุใด

ฉู่ไจ๋ไจ๋ได้ยินเช่นนั้นจึงนิ่งไปเล็กน้อย ดูเหมือนว่ามู่ตานกับสื่อเสียงคงยังไม่ได้บอกท่านพ่อท่านแม่เรื่องโจรป่าชุดดำคนนั้นสินะ

อันที่จริงตอนที่รถม้าชนกันนั้น ร่างของนางไม่ได้กระแทกกับผนังรถม้า เพราะมันลอยละลิ่วออกจากประตูรถเสียก่อน แต่ที่นางหมดสติไปนั้นเป็นเพราะรู้สึกหวาดกลัวที่โจรชั่วโยนนางลงมาจากยอดไม้นั่นต่างหาก

คิดแล้วก็แค้นใจยิ่งนัก! เขาทำเหมือนว่ามาช่วยนางไว้ แต่กระนั้นไม่วายแกล้งนาง โดยการโยนลงจากยอดไม้สูงราวกับตุ๊กตา เขาเป็นคนดีหรือคนชั่วกันแน่นะ!

“ไจ๋ไจ๋เป็นอะไรไปลูก” เสียงของฉู่เติ้งหาวเรียกสติของฉู่ไจ๋ไจ๋ให้กลับคืนมา

“เปล่าเจ้าค่ะท่านพ่อ”

“ท่านพี่ ข้าคิดว่าเราควรปล่อยให้ลูกได้พักผ่อนก่อนดีหรือไม่เจ้าคะ” จวีลู่ม่านเงยหน้าขึ้นสบตาสามี เขาพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย

“หาวหาวไปกันเถอะลูก พี่สาวของเจ้าจะได้พักผ่อน” จวีลู่ม่านหันไปขานเรียกบุตรชาย หากแต่เขายังคงนั่งนิ่งไม่ขยับ ฉู่ไจ๋ไจ๋เห็นสีหน้าของน้องชายจึงรู้ว่าเขามีเรื่องอะไรจะบอกนางอย่างแน่นอน

“ให้หาวหาวอยู่ต่ออีกสักหน่อยก็ได้เจ้าค่ะ”

“หาวหาวอย่าอยู่นานนะลูก พี่สาวของเจ้าจะได้พักผ่อน” ฉู่เติ้งหาวกล่าวทิ้งท้ายกับบุตรชาย เด็กน้อยจึงขานรับเสียงเจื้อยแจ้วพร้อมหันไปฉีกยิ้มกว้างให้คนเป็นแม่ คล้อยหลังจากที่บุพการีทั้งสองเดินจากไป เขาจึงหันมาสบตากับพี่สาวพลางปีนขึ้นมาหย่อนกายนั่งลงบนเตียงของนาง

“มีเรื่องอะไรงั้นหรือ” ฉู่ไจ๋ไจ๋เอียงคอถามน้องชายด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“ตอนที่พี่สาวหมดสติ คุณชายสกุลหวงเป็นคนอุ้มพี่สาวมาส่งที่จวน”

“แล้วอย่างไร” หญิงสาวถามกลับทันที เรื่องนั้นพอจะเดาได้บ้าง เพราะรถม้าของนางได้พังยับเยิน อีกทั้งเขายังอยู่กับนางก่อนที่นางจะหมดสติ หากจะกลับมาที่จวนอ๋องได้ก็ต้องเป็นหวงจื่อเฉานั่นแหละที่เป็นคนมาส่งนาง

“เขาถามข้าว่าหากเขาชอบพี่สาว พี่สาวจะชายตาแลเขาหรือไม่”

ฉู่ไจ๋ไจ๋นิ่งไปทันทีหลังจากได้ฟังประโยคที่ออกมาจากปากของฉู่ตี้หาว ไม่อยากจะเชื่อหูตนเองเท่าใดนัก หวงจื่อเฉาน่ะหรือที่เอ่ยวาจานั้นออกมา ในภพชาติก่อน เขาไม่เคยชายตาแลนางสักหน หายใจเข้าออกมีเพียงจูจูลี่คนเดียวเท่านั้น มีแต่นางนั่นแหละที่คอยวิ่งตามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่ในสายตาของเขา

“หาวหาวโกหกผู้ใหญ่ไม่ดีนะ” หญิงสาวแสร้งกล่าวเสียงดุ ฉู่ตี้หาวทำหน้าม่อยทันที ปากเล็กๆยู่เข้าหากัน เหมือนเวลาที่นางไม่พอใจในตอนเด็กๆราวกับพิมพ์เดียวกัน

“ข้าไม่ได้โกหกพี่สาวเสียหน่อย พูดจริงต่างหาก”

“แล้วเหตุใดคุณชายหวงถึงได้พูดกับเจ้าเช่นนั้นเล่า”

“ก็เพราะข้าไปข่มขู่เขาไว้น่ะสิ” ฉู่ตี้หาวยืดอกขึ้นด้วยความภาคภูมิใจ ท่านพ่อบอกว่าบุรุษที่ดีนั้นหายาก พี่สาวของเขาจะต้องได้แต่งงานกับบุรุษที่ดีที่สุดในแคว้นหู และเขาก็มีในใจแล้วหนึ่งคน

“ข่มขู่อะไรกัน” ฉู่ไจ๋ไจ๋ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ มองน้องชายตัวแสบอย่างคาดคั้น

“ข้าบอกว่าพี่สาวของข้าไม่ชอบคนโง่ นางไม่มีวันชายตาแลคุณชายหวงหรอก” ฉู่ตี้หาวเอ่ยจบก็เปล่งเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น ปากบางของฉู่ไจ๋ไจ๋ยิ้มกว้าง มือเล็กวางลงบนศีรษะของน้องชายกล่าวด้วยความชื่นชม

“หาวหาวเจ้าเก่งมาก ต่อไปหากพบเจอกับคุณชายหวงอีก อย่าให้เขามายุ่งกับพี่ เข้าใจหรือไม่”

“เข้าใจขอรับ ข้าจะคอยขัดขวางคุณชายหวงให้ แต่ถ้าเป็นคุณชายซะ…” ฉู่ตี้หาวเอ่ยยังไม่ทันจบประโยคก็รีบเงียบไปก่อน

“ใครนะ”

“เปล่าขอรับ พี่สาวพักผ่อนเถอะ หาไม่ข้าจะฟ้องท่านพ่อท่านแม่ว่าท่านขัดคำสั่ง” คนตัวเล็กกล่าวทิ้งท้าย จากนั้นวิ่งแจ้นออกไปด้วยความรวดเร็ว หากอยู่นานกว่านี้พี่สาวไจ๋ไจ๋ของเขาคงเค้นจนความลับแตกอย่างแน่นอน

“หาวหาวหมายถึงผู้ใดกัน” ฉู่ไจ๋ไจ๋ได้แต่พึมพำมองตามแผ่นหลังของน้องชายที่วิ่งจากไปด้วยความสงสัยเป็นอย่างมาก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel