
หวนคืนครานี้ข้าขอเป็นเพียงนางร้ายปลดระวางผู้หนึ่ง







บทย่อ
จุดจบของนางร้ายนั้นคือความตาย ภพชาติใหม่นี้ขอเป็นเพียงนางร้ายปลดระวางผู้หนึ่งแต่ดูเหมือนเรื่องราวกลับตาลปัตร ทั้งพระเอกและตัวร้ายทำเหมือนมีใจให้นางร้าย นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกัน ฉู่ไจ๋ไจ๋งงไปหมดแล้ว!
บทที่ 1 การหวนคืนของนางร้าย
พรึ่บ!
ฉู่ไจ๋ไจ๋เปิดเปลือกตาขึ้นมองบรรยากาศรอบกายด้วยความงุนงง ท่ามกลางความมืดมิดในยามราตรีกาล ไฉนนางมายืนอยู่ในป่าลึกเช่นนี้ได้เล่า หญิงสาวจำได้ว่า นางให้มู่ตานปรนนิบัติอาบน้ำเข้านอน ยามนี้นางควรจะอยู่บนเตียงนุ่ม ภายใต้ผ้าห่มผืนหนาที่แสนอบอุ่นภายในจวนสกุลฉู่มิใช่หรือ
“มู่ตาน เจ้าอยู่ที่ใด” ฉู่ไจ๋ไจ๋ขานเรียกหาสาวใช้คนสนิท ท่ามกลางเสียงแมลงกลางคืนที่แข่งกันร้องดังลั่นไปทั่วป่า แสงจากดวงจันทร์กลมโตทำให้ได้เห็นบรรยากาศรอบกายอย่างเลือนราง
“ท่านพ่อ ท่านแม่เจ้าขา ไจ๋ไจ๋กลัว” ตั้งแต่เกิดมาจนถึงอายุเท่านี้ ไม่เคยรู้สึกหวาดกลัวเช่นนี้มาก่อน ทว่าท่ามกลางความกังวลก็เต็มไปด้วยความเคลือบแคลงสงสัย หรือมีใครลักพาตัวนางมากันแน่
ฉั่บ!
“กรี๊ดดดด!” เสียงหวานร้องดังลั่นด้วยความตกใจ เมื่อจู่ๆปลายแหลมคมของกระบี่ฟันฉั่บหั่นผมยาวสลวยที่ตกอยู่กลางแผ่นหลังออกจากกันจนขาดวิ่น ผมสีดำดุจขนกาน้ำแหว่งจนไม่เป็นทรง
“ท่านเป็นผู้ใดกัน เหตุใดถึงลักพาตัวข้ามาเช่นนี้” ฉู่ไจ๋ไจ๋น้ำตาคลอเบ้า ริมฝีปากบางสั่นระริกไปมา มองชายปริศนาในชุดสีดำด้วยความสงสัยระคนหวาดกลัว
หากแต่เขาไม่ตอบคำถามของนางกลับแสยะยิ้มที่มุมปาก มือหนากำอาวุธในมือแน่น เตรียมพร้อมปลิดชีพสตรีบอบบางตรงหน้าทุกเมื่อ ร่างสูงที่ก้าวเดินออกมาจากเงามืดทำให้ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ หวนนึกถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในภพชาติเดิมวนเวียนอยู่ในหัว
‘เซี่ยตงหยาง’ บุตรชายของเซี่ยเหล่ยไท่ฝู ที่ปรึกษาของฉู่ฮ่องเต้ ตระกูลเซี่ยเป็นตระกูลที่มีอิทธิพลอย่างมากในแคว้นหู เป็นตระกูลที่อยู่คู่บัลลังก์มังกรทองของสกุลฉู่มาหลายชั่วอายุคน แม้แต่ฉู่ฮ่องเต้ยังต้องทรงเกรงพระทัย
“สตรีชั่ว! วันนี้คือวันตายของเจ้า!” เสียงห้าวเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าเรียบเฉย ทว่าแววตาสีนิลกลับมืดดำน่ากลัว ไอสังหารลอยออกมาจากร่างหนาทำให้ฉู่ไจ๋ไจ๋รู้สึกเย็นยะเยือกไปทั้งร่างจนจับขั้วหัวใจ
“คุณชายเซี่ยจะสังหารข้าได้อย่างไรกัน ในเมื่อภพชาตินี้ข้าไม่ได้ไปทำอะไรให้คุณหนูจูจูลี่ขัดเคืองใจ ไหนจะคุณชายหวงจื่อเฉาอีกเล่า ข้าไม่ได้ไปข้องเกี่ยวกับเขาด้วยเสียหน่อย” น้ำเสียงของนางสั่นไหวไม่ต่างจากแววตา
'หากเป็นภพชาติเดิมก็ว่าไปอย่าง'
ใช่… ฉู่ไจ๋ไจ๋เคยผ่านความตายมาแล้วหนหนึ่ง ทำให้นางได้รู้ว่าแท้จริงแล้ว นางมีบทบาทเป็นนางร้ายในนิยายเรื่องหนึ่ง ส่วนจูจูลี่คือนางเอกที่ตัวร้ายอย่างเซี่ยตงหยางนั้นมอบใจให้ ในภพชาติเดิม ฉู่ไจ๋ไจ๋เป็นสตรีร้ายกาจ ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ครอบครองหัวใจของพระเอกหวงจื่อเฉา ชีวิตหลังแต่งงานของนางกับหวงจื่อเฉาเป็นไปอย่างไม่ราบรื่นเท่าใดนัก เมื่อใจของหวงจื่อเฉามีเพียงแค่จูจูลี่ผู้เดียวเท่านั้น ฉู่ไจ๋ไจ๋แค้นใจเป็นอย่างมาก กระทั่งวางแผนสังหารนางเอกจูจูลี่ ทว่านางยังทำไม่สำเร็จหรอก เพราะตัวร้ายอย่างเซี่ยตงหยางนั้นชิงสังหารปลิดชีพนางทิ้งเสียก่อน
คืนหนึ่งในฤดูสารท หลังจากที่นางอาบน้ำเข้านอน จู่ๆรู้สึกได้ถึงสายลมพัดผ่านมาวูบหนึ่งปะทะผิวกายจนรู้สึกเย็นยะเยือกขึ้น เปลือกตาบางกะพริบถี่ไปมาเปิดขึ้นทำให้ได้เห็นว่ายามนี้ตนกำลังนอนอยู่กลางป่าลึก ไม่นานบุรุษในชุดสีดำสนิทพลันก้าวเข้ามาและเขาผู้นั้นคือเซี่ยตงหยาง และคืนนั้นที่กล่าวถึงก็คือคืนนี้นั่นเอง
ฉู่ไจ๋ไจ๋รู้สึกงุนงงยิ่งนัก ยามนี้นางไม่ได้นำชีวิตไปพัวพันกับความรักสี่เศร้า ทว่าเซี่ยตงหยางแค้นเคืองนางด้วยเหตุผลใดกัน
“ดูเหมือนว่าหญิงชั่วจะเสียสติไปแล้ว งานแต่งของเจ้ากับหวงจื่อเฉาจัดอย่างยิ่งใหญ่ คนทั้งเมืองหลวงรู้ข่าวการแต่งงานของเจ้า ไยเจ้ายังโกหกว่าไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับหวงจื่อเฉา” น้ำเสียงแหบห้าวตวัดถามด้วยความหงุดหงิด สตรีผู้นี้นอกจากจะชั่วช้าแล้ว ยังโกหกปลิ้นปล้อนได้อย่างน่าไม่อาย!
ฉู่ไจ๋ไจ๋นิ่งไปเล็กน้อย ก้อนเนื้อในอกซ้ายเต้นแรงกระหน่ำราวจะหลุดออกมาจากอก หากเป็นอย่างที่เซี่ยตงหยางเอ่ยมานั้น นั่นหมายความว่า นางได้ย้อนมาในตอนที่นางกับหวงจื่อเฉาแต่งงานกันแล้วหรือ
“ท่านพูดเรื่องอะไรกัน”
“ข้าจะตามไปอธิบายให้ท่านหญิงฟังในปรโลกก็แล้วกัน แต่ท่านหญิงคงต้องล่วงหน้าไปก่อนข้าหลายปี” มือหนากระชับกระบี่ในมือ ฉู่ไจ๋ไจ๋เห็นเช่นนั้นจึงไม่รอช้า รีบผุดลุกขึ้นวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต ร่างบางสับฝีเท้าไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว กระทั่งต้องรีบหยุดฝีเท้าลงอย่างกะทันหัน เมื่อเบื้องหน้าปรากฏหุบเหวอันสูงชันน่ากลัวเป็นอย่างมาก
“ท่านหญิงหนีข้าไม่พ้นหรอก”
“คุณชายเซี่ย ฮึก ข้าสาบานว่าข้าจะหย่าขาดจากหวงจื่อเฉา และจะไม่มายุ่งกับจูจูลี่อีก” ดวงหน้างามคลอเคล้าไปด้วยหยาดน้ำตาจนเกลื่อนใบหน้า ร่างบางก้าวเดินไปทางข้างหลัง ในขณะที่ร่างสูงก้าวเข้ามาหานางเรื่อยๆ จนตอนนี้ฉู่ไจ๋ไจ๋เดินไปจนจะถึงริมหน้าผาอยู่รอมร่อ
“พูดจริงหรือ” ดวงตาคมหรี่ลงมองคนตัวเล็กอย่างจับผิด
“ข้าพูดจริง จะให้ข้าสาบานก็ย่อมได้”
“ดี!” ขายาวหยุดก้าวไปทันที ใบหน้าหล่อเหลาฉายชัดถึงความพึงพอใจ เขาข่มขู่นางถึงเพียงนี้แล้ว ต่อไปฉู่ไจ๋ไจ๋คงไม่กล้าทำร้ายจูจูลี่ให้เจ็บช้ำน้ำใจแล้วกระมัง
ฉู่ไจ๋ไจ๋มองคนตัวโตที่หมุนกายหันหลังราวกับกำลังจะเดินจากไป หญิงสาวจึงค่อยๆผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆด้วยความโล่งใจ ทว่าความรู้สึกหนักอึ้งเบาบางลงไปได้ไม่นาน เมื่อนางตระหนักขึ้นมาได้ว่า ในภพชาติเดิม เซี่ยตงหยางก็ทำท่าเหมือนจะละเว้นนางเช่นนี้ แต่สุดท้ายเขาก็สังหารนางอยู่ดี
และเป็นดั่งที่ฉู่ไจ๋ไจ๋คิดไว้ไม่มีผิด เมื่อจู่ๆคนที่กำลังจะเดินจากไปได้หมุนกายหันหน้ากลับมาอีกหน ดวงตาของเขาแข็งกระด้างพร้อมกับสาวเท้าก้าวเร็วๆเข้ามาหานาง ไวเท่าความคิด ฉู่ไจ๋ไจ๋รีบเบี่ยงกายวิ่งหลบไปทางด้านข้าง หากแต่มือหนากลับคว้าแขนเรียวเอาไว้ได้ทันเสียก่อน
“คุณชายเซี่ย ท่านกำลังจะละเว้นข้าแล้วมิใช่หรือ ไยถึงเปลี่ยนใจเล่า ข้าสาบานจริงๆ สาบานด้วยชีวิตเลยก็ได้ หากท่านไว้ชีวิตข้า ข้าจะไม่มาให้พวกท่านเห็นหน้าอีกตลอดไป”
“…” ไม่มีคำตอบจากเซี่ยตงหยาง นอกจากสายตาแข็งกร้าวไร้ความรู้สึกที่ส่งมาให้ ร่างบางของฉู่ไจ๋ไจ๋ถูกผลักไปจนถึงริมหน้าผา พร้อมกับปลายกระบี่แหลมคมฟันฉั่บลงมากลางร่างของนาง
“อึ่ก!” โลหิตสีแดงฉานพุ่งกระฉูดออกมาจากร่างงามราวกับห่าฝน ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้น ก่อนที่ร่างบางจะหงายหลังตกลงไปในหุบเหวลึก
“สังหารสตรีชั่ว!” เซี่ยตงหยางเอ่ยด้วยดวงตาที่เลื่อนลอย มองร่างบางที่ลอยละลิ่วหายลงไปในความมืดด้วยความเฉยชา ท่ามกลางความสงบในยามราตรีกาลได้มีวิญญาณของใครบางคนหลุดลอยออกไปจากร่าง เดินทางเข้าไปสู่โลกหลังความตาย!
เฮือก!
“ไม่นะ! ไม่!” เสียงใสตะโกนร้องขึ้นด้วยความหวาดกลัว เปลือกตาที่ปิดสนิทอยู่ในตอนแรกเปิดขึ้นด้วยความรวดเร็ว ฉู่ไจ๋ไจ๋ส่งสายตามองไปรอบห้องพร้อมกับทรวงอกที่หอบสะท้านขึ้นลงด้วยความเหน็ดเหนื่อย ราวกับเพิ่งผ่านสมรภูมิรบมาก็มิปาน
แอ๊ด!
บานประตูไม้ถูกผลักให้เปิดออกอย่างรวดเร็ว ปรากฏร่างบางของจวีลู่ม่านเดินเข้ามา ดวงตาคู่งามมองใบหน้าชื้นเหงื่อของบุตรสาวด้วยความห่วงใย หย่อนกายลงนั่งบนขอบเตียงพร้อมกับดึงร่างบางเข้ามากอดแนบอก
“ไจ๋ไจ๋ฝันร้ายหรือลูก”
“เจ้าค่ะท่านแม่” ฉู่ไจ๋ไจ๋ยกมือขึ้นกอดตอบมารดา อ้อมกอดอันแสนอบอุ่นของท่านแม่จวีลู่ม่าน ช่วยปลอบประโลมความหวาดกลัวในจิตใจให้หายไปอย่างรวดเร็ว
“ไม่ต้องกลัวนะลูก ฝันร้ายก็เป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น” มือบางลูบแผ่นหลังบางของบุตรสาวอย่างปลอบประโลม
ฉู่ไจ๋ไจ๋ผงกศีรษะรับ รู้สึกโล่งใจไม่น้อยที่เห็นท่านแม่จวีลู่ม่านนั่งอยู่ตรงนี้ เพราะนั่นหมายความว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เป็นเพียงแค่ความฝันจริงๆ นางไม่ได้ย้อนเวลากลับไปในภพชาติเดิม เพราะในภพชาติเดิมนั้นไม่มีท่านแม่จวีลู่ม่าน เหตุเพราะท่านแม่จากไปตั้งแต่ตอนที่คลอดนางออกมาได้เพียงแค่ศีรษะ นางได้รู้ความจริงในตอนที่อายุได้ห้าหนาวว่าแท้จริงแล้วว่าสตรีผู้นี้ไม่ใช่ท่านแม่จวีลู่ม่านตัวจริง ทว่าวิญญาณของนางได้มาเข้าร่างท่านแม่ในตอนที่ท่านแม่ตัวจริงสิ้นใจไป
สำหรับฉู่ไจ๋ไจ๋แล้ว นางไม่ได้หวาดกลัวสตรีผู้นี้ อีกทั้งยังนับถือให้เป็นท่านแม่ของนางจริงๆ เพราะท่านแม่คนนี้ต่างหากที่เป็นคนออกแรงเบ่งจนนางคลอดออกมาได้สำเร็จ และเลี้ยงดูนางจนเติบใหญ่ด้วยความรักใคร่ นางรักท่านแม่ผู้นี้เป็นอย่างมาก และสัมผัสได้ว่าท่านแม่ผู้นี้ก็รักนางเฉกเช่นเดียวกัน
หากแต่ความลับนี้มีเพียงแค่ท่านพ่อฉู่เติ้งหาวเท่านั้นที่รู้ ไม่มีผู้ใดทราบว่านางก็ล่วงรู้ความลับนี้อีกคนหนึ่ง ฉู่ไจ๋ไจ๋ตั้งใจปิดปากเงียบไม่บอกให้ท่านพ่อกับท่านแม่รู้ว่านางทราบความจริงเรื่องท่านแม่แล้ว ในเมื่อพูดไปมันจะมีประโยชน์อะไรกันเล่า ในเมื่อตนนี้นางมีความสุขกับชีวิตที่เป็นอยู่แล้ว