บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6

“ไม่ใช่พวกโจร” หลังจากนิ่งคิดอยู่ครู่ใบหน้างามก็ส่ายไปมาสื่อความปฏิเสธก่อนจะขยายความต่อ “แต่เป็นชู้รักของอดีตคู่หมั้นข้าเอง”

จากที่อ่านนิยายประกอบกับความทรงจำเจ้าของร่างเดิมทำให้ทราบว่า อู๋เฉิน หรืออดีตคู่หมั้นจ้าวอิงฮวาเป็นบุตรชายคนที่สามของตระกูลอู๋ ซึ่งเป็นตระกูลคหบดีค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ฐานะร่ำรวยอันดับต้น ๆ ของเมืองโหรวเซียง

ตระกูลอู๋มีบุตรชายสามคน บุตรสาวสองคน อู๋เฉินเป็นคนสุดท้อง เติบโตมาอย่างสบาย ไม่โดนคนในครอบครัวคาดหวังเท่าพี่ชาย เช่นนั้นแล้วเจ้าตัวจึงใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยอย่างคุณชายเจ้าสำราญผู้หนึ่ง

มารดาของนางสนิทสนมกับฟูเหรินตระกูลอู๋ ด้วยการตกลงกันของผู้ใหญ่ทั้งสองคนจึงได้เป็นคู่หมั้นคู่หมาย

ด้วยนิสัยรักหยกถนอมบุปผาของอู๋เฉิน ทำให้สตรีมากมายมีใจปฏิพัทธ์ต่อเขา แม้จะมีจ้าวอิงฮวาเป็นคู่หมั้นแต่เขาก็ยังโปรยเสน่ห์ไม่หยุด หากแค่มีมิตรไมตรีแก่ผู้อื่นย่อมไม่ใช่ปัญหา ทว่าเขากลับมีสัมพันธ์ทางกายกับสตรีอีกหลายนาง หนึ่งในนั้นคือหานลี่จิน

หานลี่จิน เป็นลูกชาวบ้านทั่วไป บิดาเป็นลูกจ้างร้านขายของ มารดารับจ้างทอผ้า นางไม่พอใจในความเป็นอยู่ตัวเอง อยากจะมีทรัพย์สินมากกว่านี้

แต่ด้วยต้นทุนน้อยจึงหวังพึ่งรูปร่างหน้าตาของตัวเองเป็นทางลัด คอยมองหาบุรุษที่หน้าตาดีและร่ำรวย หากพบเป้าหมายน่าสนใจ ก็จะทำการตีสนิทและทอดสะพาน ต่อให้ได้แต่งเข้าในฐานะอนุก็ดีกว่ามาทำงานใช้แรงอย่างที่เป็นอยู่ และวันหนึ่งสวรรค์ก็ส่งอู๋เฉินเข้าไปในชีวิตของนาง

การรู้จักกันของสองคนนี้คือความฉิบหายในชีวิตของจ้าวอิงฮวาที่แท้จริง

“นางแทงแล้วทิ้งร่างข้าลงน้ำ”

ความเป็นมาของเรื่องยืดยาวเกินกว่าจะเล่าให้คนนอกฟัง นางจึงสรุปความให้เหลือแค่ไม่กี่ประโยค

“ขอบคุณท่านหมอและอาหมิงมากจริง ๆ หากไม่ได้พวกท่านช่วยไว้ ข้าคงตายไปตั้งแต่วันนั้นแล้ว” รอยยิ้มเจื่อนวาดบนใบหน้า ชู้รักคนนั้นปลิดชีพจ้าวอิงฮวาได้สำเร็จ

“ถ้าเช่นนั้นยิ่งต้องควรไปแจ้งต่อทางการ สิ่งที่สตรีนางนั้นทำเหี้ยมโหดเกินไป แม่นางหลิวจะมีภัยหากนางย้อนกลับมาอีก” ไป่ซีเฟิงมองว่าหากทราบตัวคนทำแน่ชัดยิ่งลากมาลงโทษได้ง่าย

“ฮึก..” เสียงสะอื้นดังขึ้น เมื่อหันไปมองก็เจอเด็กชายใช้แขนเสื้อปาดน้ำตา

“พี่สาว ฟืด” ไป่หมิงพูดก่อนจะสูดน้ำมูก

ถึงจะเป็นเด็กผู้ชายแต่อายุอานามเพิ่งจะห้าขวบปี ความไร้เดียงสาความอ่อนไหวในอารมณ์ย่อมมีมาก พบเห็นกระต่ายโดนดักก็สงสาร เห็นแมวจับนกกินก็นั่งเศร้า นับประสาอะไรกับการเห็นคนโดนทำร้ายหมายถึงชีวิต ไป่หมิงรู้สึกเห็นใจพี่สาวผู้นี้ยิ่งนัก

“อย่าร้องสิอาหมิง” แววตาหลิวอิงฮวามองไปยังเด็กน้อย มือยกขึ้นลูบศีรษะทุยอย่างเอ็นดู

“ข้าขอบคุณในความปรารถนาดีของท่าน แต่ข้าคงไม่แจ้งทางการ” หลิวอิงฮวาส่ายศีรษะ

“เพราะเหตุใด” ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัย

“ตอนนี้ก็เหมือนตายแล้วได้เกิดใหม่ ข้าตั้งใจจะใช้ชีวิตใหม่โดยไม่ไปยุ่งกับคนพวกนั้น” น้ำเสียงคนเจ็บยังแหบแห้งอยู่บ้าง แต่ปณิธานที่กล่าวมานั้นหนักแน่น

“ทำตามที่แม่นางหลิวสะดวกเถิด” ไป่ซีเฟิงพยักหน้ารับรู้ไม่คะยั้นคะยออีก ทุกคนย่อมมีเหตุผลของตัวเอง หากเจ้าตัวพูดแบบนั้นเขาก็ต้องเคารพการตัดสินใจ

“ต่อไปก็ใส่ยาที่แผล” เขาวกกลับมาเรื่องการรักษา พลางหย่อนตัวนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียง

“ยาท่านพ่อดีมาก ท่านไม่ต้องกลัวแสบนะขอรับ” ไป่หมิงเองเลิกร้องไห้แล้วมาให้กำลังใจแทน

หลิวอิงฮวาเงียบไป นัยน์ตากลอกไปมาเล็กน้อยคล้ายว่ากำลังคิดอะไรอยู่

“เอ่อ…ท่านหมอไป่” นางเรียกโดยที่สอดส่ายสายตาไปรอบ ๆ “ภรรยาท่าน…”

“ข้าไม่มีภรรยา” เขาคาดเดาคำถามได้จึงแทรกตอบมาก่อนที่อีกฝ่ายจะกล่าวจบประโยคเสียอีก

“หากแผลแห้งกว่านี้ข้าจะทำยาไว้ให้แม่นางทาด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้ได้เวลาเปลี่ยนผ้าพันแผลแล้ว”

ไป่หมิงยังเด็กเกินไปสำหรับการช่วยงานทำแผล ตามหลักแล้วชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกัน แต่สำหรับคนเป็นหมอเช่นเขาหาได้ใส่ใจเรื่องพรรค์นี้ ชีวิตผู้คนย่อมสำคัญกว่า

“แม่นางนอนลงก่อน”

หลิวอิงฮวาตัวแข็งทื่อแต่ก็ยอมนอนราบลงกับที่นอนแต่โดยดี เป็นคนไข้ในการดูแลจะดื้อแพ่งกับหมอก็อย่างไรอยู่

‘เป็นยายแก่วัยเกษียณแล้วอย่ามาอาย ข้าไม่อาย ข้าไม่อาย’ นางสะกดจิตตัวเองในใจ ก้อนเนื้อในอกเต้นรัวด้วยความระทึก

สิ่งหนึ่งที่หลิวอิงฮวาไม่ทราบคือ ชายหนุ่มจะมีเสื้อที่ตัดเย็บมาเพื่อให้คนบาดเจ็บช่วงลำตัวสวมใส่โดยเฉพาะ เสื้อจะมีเชือกผูกเชื่อมระหว่างชิ้นบนและชิ้นล่าง ถึงเวลาแค่แกะเชือกออกก็สามารถทำความสะอาด ใส่ยา และตรวจดูแผลได้โดยไม่ต้องให้คนเจ็บเปลือยครึ่งตัว

ทั้งหมดทั้งมวลเกิดขึ้นได้เพราะสั่งสมจากประสบการณ์การรักษาที่เขาเคยเจอ จนออกแบบและตัดเย็บมาไว้ใช้งาน

“เอ๊ะ” หญิงสาวอุทานด้วยความงุนงงเมื่อไป่ซีเฟิงทำการล้างแผล ทั้งที่เสื้อผ้าบนตัวยังอยู่ครบ

เป็นนางที่จินตนาการไปไกลเอง…

เพิ่งผ่านจากวันเกิดเหตุมาได้ไม่กี่วัน แผลยังสดใหม่แต่ก็ถือว่าดูดีเพราะไม่อักเสบมากนัก

ไป่หมิงมายืนข้างบิดา คอยเป็นลูกมือช่วยส่งของและอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้ ทั้งผ้า น้ำ และยา หลังทำความสะอาดแผลแล้วเขาก็นำสมุนไพรที่บดไว้มาพอกแผลที่หน้าท้องให้คนบนเตียง

“ไม่แสบอย่างที่ข้าบอกใช่ไหมขอรับพี่สาว” เด็กชายถามพร้อมดวงตาเป็นประกาย

“อื้อ เป็นอย่างที่อาหมิงว่า” แต่ตอนล้างแผลเมื่อครู่แสบมากทีเดียว นางละประโยคนี้ไว้ในใจ

**********

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel