บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 8

ในถ้วยชาเป็นน้ำสีเหลืองจางมีกลิ่นหอยโชยขึ้นมาอ่อน ๆ บิดาบอกไว้ว่าชาชนิดนี้สามารถดื่มตอนที่มันเย็นแล้วได้ เพราะมีฤทธิ์เย็น ลดร้อนใน เด็กชายเห็นผู้ใหญ่กำลังทำงานกันจึงไปจัดเตรียมมาให้

“ท่านหมอไป่เลี้ยงบุตรได้ดีนัก” เอ่ยชื่นชมไป่ซีเฟิงก่อนจะหันไปขอบคุณเด็กชาย “เก่งจัง ตัวเท่านี้ก็ช่วยแบ่งเบาได้แล้ว”

ว่าจบก็ยกถ้วยชาขึ้นจรดปาก ดื่มน้ำชาอุณหภูมิปกติก็ไม่แย่นัก อาจเพราะวันนี้อากาศค่อนข้างอบอ้าวกระมัง จึงรู้สึกว่าเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยดับกระหายได้ดี ส่วนคนโดนชมก็ยิ้มหน้าบาน

“ยาพวกนี้เอาไว้ต้มหรือท่านหมอไป่” นางถามพลางคัดแยกใบแต่ละอย่างลงกระจาดต่างกัน

“แล้วแต่ชนิดยา” เสียงเรียบกล่าว “ยาบางตัวต้องต้มทิ้งกากเหลือแต่น้ำเช่นที่เจ้ากิน บางอย่างก็นำมาปั้นเป็นเม็ด บางอย่างทำเป็นยาทา บางแบบนำไปดองกับเหล้า”

“ท่านดูเชี่ยวชาญการรักษาทั้งที่อายุยังน้อย ช่างน่านับถือ” นางหลงลืมไปเล็กน้อยว่าตอนนี้ตัวเองมาอยู่ในร่างหญิงสาวอายุไม่ถึงยี่สิบปี เผลอคิดว่าอีกคนอ่อนวัยกว่าอยู่เรื่อย

“ปีนี้ข้าอายุยี่สิบหก ไม่เรียกว่าอายุน้อยแล้วกระมัง” ถึงไม่เคยถามอายุอานามของหญิงสาว แต่เขามั่นใจว่าตนเองเกิดก่อนนางหลายปีเป็นแน่

“ส่วนข้าห้าขวบ อายุน้อยแต่ก็โตแล้วขอรับ” เด็กชายผู้อยากมีส่วนร่วมเลยกล่าวประโยคฟังย้อนแย้งชวนขบขัน

“ท่านรักษาคนมานานแค่ไหนแล้วหรือ” หลิวอิงฮวาถามขณะวางสมุนไพรใบสุดท้ายลงกระจาด

“ท่านพ่อ ข้าเอาไปล้างเลยนะขอรับ” เด็กชายกล่าว มือเล็กหอบกระจาดสมุนไพรที่คัดแยกเสร็จแล้วออกไปด้านนอก

ไป่ซีเฟิงพยักหน้าให้บุตรชายก่อนจะตอบคำ

“สักห้าหกปีได้แล้วกระมัง แม่นางหลิวสนใจการรักษาเหมือนกันหรือ?” ชายหนุ่มไม่ใช่พวกหวงวิชา กลับกันหากยิ่งมีคนอยากศึกษาเขายิ่งอยากสอน

“โอย ข้าคงไม่สามารถรักษาใครได้ ช่วยท่านได้แค่แยกสมุนไพรเพียงเท่านั้น” นางรีบส่ายหน้าปฏิเสธ “อ้อ แล้วก็ช่วยทำความสะอาดบ้านท่านอีกอย่าง”

“ไม่ต้องรีบร้อน หากแผลปริขึ้นมาจะไม่คุ้มกัน” เขาเอ่ยเตือนซ้ำ เหตุใดนางถึงดื้อเรื่องนี้นัก “หากแม่นางหลิวยังดื้อ ข้าจะต้มยาให้ขมกว่าเดิม”

“ท่านเป็นหมอ ไม่ใช่ว่าต้องใจดีกับคนเจ็บหรอกหรือ” หลิวอิงฮวาตาโต ทุกวันนี้ยาที่ดื่มก็ขมมีรสขมมากอยู่แล้ว หากทำให้ขมกว่าเดิม จะยังกรอกลงคอไหวได้อย่างไร

“หากคนเจ็บไม่รักตัวเอง ยารสขมนับเป็นกระไรได้” คนหน้านิ่งยอกย้อนมาเช่นนั้น ทำเอาหลิวอิงฮวาเลิกแย้งทันที

“อย่างไรตรงนี้ก็เรียบร้อยแล้ว แม่นางหลิวไปนั่งพักบนเตียงก่อนดีหรือไม่” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนแล้วรวบรวมข้าวของที่เหลือ

“ขอบใจที่มาช่วย” แม้ใบหน้าจะนิ่งแต่สามารถรับรู้ผ่านน้ำเสียงได้ว่าเขากล่าวมันออกมาจากใจ “ข้าจะไปต้มยาของเจ้ามาให้”

“เอ่อ ช้าก่อน ท่านหมอไป่” นางเอ่ยเรียกในจังหวะที่อีกคนกำลังจะเดินพ้นห้องไป “ท่านจะเพิ่มความขมในยาให้ข้าหรือไม่”

“วันนี้ยัง” นึกว่ามีแค่ไป่หมิงเสียอีกที่งอแงยามดื่มยา “โปรดวางใจ”

พูดจบชายหนุ่มก็เดินจากไป เหลือแค่หลิวอิงฮวานั่งเซื่องซึมอยู่บนเตียง

อันที่จริงชีวิตก่อนนางสามารถกินของรสขมเช่น มะระ ฟ้าทลายโจร หรือยาหอมได้อย่างสบาย แต่พอมาอยู่ในร่างนี้ก็ดูเหมือนว่าความชอบบางอย่างจะเปลี่ยนไป กลายเป็นชอบของรสหวานและเปรี้ยวมากขึ้น บางทีอาจเป็นความชอบดั้งเดิมของหลิวอิงฮวาคนเก่า

เมื่ออาการแผลทุเลาลงหลิวอิงฮวาก็พักอยู่ที่นี่ต่อในฐานะคนไข้ที่พ่วงตำแหน่งดูแลงานเรือน คอยทำความสะอาด ช่วยคัดแยกสมุนไพรตามคำบอกเล็ก ๆ น้อย ๆ และช่วยทำอาหารในบางมื้อ ช่วงแรกของการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่จึงผ่านไปได้ด้วยดี

“แผลจวนหายสนิทแล้ว ถือว่าแม่นางหลิวดูแลตัวเองได้ดี” ไป่ซีเฟิงกล่าวขณะตรวจดูแผล เนื้อด้านในเต็มตื้นขึ้นเกือบสมบูรณ์แล้ว

“นั่นเพราะท่านหมอไป่เก่งกาจมากกว่า แผลข้าถึงได้หายในเร็ววัน” หญิงสาวนอนหงายเปิดพุงขาวให้อีกคนดูอย่างไม่ขัดเขิน เพราะทำอยู่ทุกวันจนเคยชิน

นางเหลือบมองใบหน้าหล่อเหลาอย่างพิจารณา หลิวอิงฮวารู้สึกนับถือเขาไม่น้อย ยามที่ต้องใกล้ชิด เห็นเรือนร่างหรือสัมผัสตัว ชายหนุ่มไม่เคยแสดงท่าทีคุกคามหรือล่วงเกิน สีหน้ามักเรียบนิ่งไร้คลื่นอารมณ์ราวนักบวชที่ปลงอสุภะไม่มีผิด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel