3
เสียงร้องด้วยความดีใจของหลิวซูเฟินปลุกให้หลินเยว่ตื่นเต็มตา พลังจากน้ำพุจิตวิญญาณกำลังซ่อมแซมร่างกายที่บอบช้ำของเธออย่างต่อเนื่อง แต่เธอยังคงรู้สึกอ่อนเพลียอยู่มาก
"เยว่เยว่ ลูกรู้สึกดีขึ้นแล้วใช่ไหม" ผู้เป็นแม่ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ มือยังคงวางบนหน้าผากของลูกสาวเพื่อยืนยันว่าไข้ลดลงแล้วจริงๆ
หลินเยว่พยักหน้าเบาๆ และทำเสียงอืมในลำคออย่างเด็กน้อย
"แม่หนูหิวน้ำ"
นี่เป็นโอกาส เธอต้องดื่มน้ำจากมิติอีกเพื่อฟื้นฟูร่างกายให้เร็วที่สุด
"จ้ะๆ รอเดี๋ยวนะลูก แม่จะไปรินน้ำต้มมาให้" หลิวซูเฟินรีบลุกขึ้นอย่างกระตือรือร้น ความเหนื่อยล้าที่สะสมมาหลายวันดูเหมือนจะหายไปเป็นปลิดทิ้งเมื่อเห็นความหวังตรงหน้า
ไม่นานนัก เธอก็กลับมาพร้อมกับถ้วยกระเบื้องบิ่นๆ ที่มีน้ำอุ่นๆ อยู่ข้างใน หลินเยว่รู้ดีว่านี่คือน้ำดื่มที่ดีที่สุดเท่าที่ครอบครัวนี้จะมีปัญญาหาได้แล้ว
หลิวซูเฟินประคองร่างลูกสาวขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ขณะที่เธอกำลังจะป้อนน้ำให้ หลินเยว่ก็ใช้จังหวะนั้นเพ่งสมาธิไปที่มิติในหัวของเธอ
‘เปลี่ยนน้ำในถ้วยเป็นน้ำพุจิตวิญญาณ’
ในชั่วพริบตา น้ำอุ่นธรรมดาในถ้วยก็ถูกแทนที่ด้วยน้ำจากมิติ โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลง
หลินเยว่ดื่มน้ำในถ้วยจนหมดอย่างว่าง่าย ทันทีที่น้ำไหลผ่านลำคอ ความอบอุ่นที่เปี่ยมด้วยพลังชีวิตก็แผ่ซ่านไปทั่วร่าง ความอ่อนเพลียจางหายไปอย่างรวดเร็ว แม้แต่สีหน้าซีดเซียวของเธอก็เริ่มมีเลือดฝาดจางๆ ปรากฏขึ้น
"ดีจริงๆ ลูกดื่มน้ำได้แล้ว" หลิวซูเฟินยิ้มทั้งน้ำตา
ปัง!
เสียงประตูถูกเปิดเข้ามาอย่างแรง พร้อมกับร่างที่โซซัดโซเซของหลินเจี้ยนกั๋ว
เขากลับมาแล้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เสื้อผ้ามีรอยเปื้อนฝุ่นดินราวกับเพิ่งไปล้มลุกคลุกคลานที่ไหนมา
"ซูเฟิน ข้าขอยืมเงินไม่ได้เลย" เขาพูดด้วยน้ำเสียงพ่ายแพ้
"พี่ใหญ่บอกว่าเขาไม่มี บ้านหัวหน้าหมู่บ้านก็ไม่ให้ยืม ข้าไร้ความสามารถจริงๆ"
เขาพูดจบก็ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองลูกสาวที่นอนป่วยอยู่บนเตียง
"ท่านพี่" หลิวซูเฟินกำลังจะเอ่ยปลอบใจ แต่หลินเยว่กลับส่งเสียงเรียกขึ้นก่อน
"พ่อจ๋า..."
เสียงใสนั้นทำให้หลินเจี้ยนกั๋วชะงักงัน เขารีบเงยหน้าขึ้นมอง และภาพที่เห็นก็ทำให้เขาเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง
หลินเยว่กำลังนั่งพิงอกแม่อยู่บนเตียง ดวงตาคู่โตของเธอใสแป๋ว มองมาที่เขาอย่างมีชีวิตชีวา แม้จะยังดูอ่อนแอ แต่ก็ไม่มีเค้าของเด็กที่ใกล้จะตายหลงเหลืออยู่เลย
"ไข้ของลูก..."
"ไข้ลดแล้วค่ะท่านพี่" หลิวซูเฟินตอบด้วยรอยยิ้ม "เหมือนบรรพบุรุษคุ้มครอง เยว่เยว่ฟื้นแล้ว"
หลินเจี้ยนกั๋วมองหน้าลูกสลับกับภรรยาอย่างไม่เชื่อสายตา ก่อนที่น้ำตาของลูกผู้ชายจะไหลทะลักออกมา เขารีบคลานเข้าไปหาเตียง กุมมือเล็กๆ ของลูกสาวไว้แน่น
"ดีเหลือเกิน ดีเหลือเกิน พ่อขอโทษ พ่อมันไร้ประโยชน์"
หลินเยว่ส่ายหน้าช้าๆ
"พ่อไม่ผิด เยว่เยว่ไม่อยากจากพ่อกับแม่ไป" เธอพูดด้วยน้ำเสียงของเด็ก 5 ขวบ ซึ่งมันได้ผลชะงัด พ่อกับแม่ของเธอกอดกันร้องไห้ด้วยความโล่งอก พวกเขาเชื่ออย่างสุดใจว่านี่คือปาฏิหาริย์ที่เกิดจากความรักของครอบครัว
หลังจากสถานการณ์คลี่คลายลง หลินเยว่ก็หันมาพิจารณาแม่ของเธอ หลิวซูเฟินดูอ่อนแอกว่าคนในวัยเดียวกันมาก ใบหน้าซูบตอบ ริมฝีปากซีดขาว และมักจะไออยู่เสมอ ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการทำงานหนักและการขาดสารอาหารมาเป็นเวลานาน
‘ในเมื่อฉันปลอดภัยแล้ว ต่อไปก็คือตาของแม่’ หลินเยว่คิดในใจ
เธอรอจนกระทั่งพ่อกับแม่เผลอ แล้วจึงแอบเพ่งจิตไปที่กาน้ำชาใบใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางโต๊ะ
‘เติมน้ำพุจิตวิญญาณลงไปสักเล็กน้อย’ เธอจงใจใช้ในปริมาณที่ไม่มากเกินไป เพื่อไม่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจ แต่เน้นการฟื้นฟูอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เมื่อหลิวซูเฟินรินน้ำจากกานั้นมาดื่มเพื่อแก้กระหาย เธอก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
"เอ๊ะ น้ำวันนี้รสชาติดีเป็นพิเศษนะ" เธอบอกกับสามี
หลินเจี้ยนกั๋วไม่ได้คิดอะไรมาก เขาดีใจเกินกว่าจะสนใจเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้
แต่หลังจากดื่มน้ำเข้าไป หลิวซูเฟินรู้สึกว่ามีกระแสความอบอุ่นสายหนึ่งแล่นไปทั่วร่าง อาการไอที่คอยรบกวนเธอก็ดูเหมือนจะทุเลาลง ความเหนื่อยล้าที่เกาะกินมาตลอดก็คลายลงเล็กน้อย เธอคิดว่าคงเป็นเพราะตัวเองดีใจที่ลูกสาวหายป่วย ร่างกายจึงรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา
หลินเยว่มองภาพครอบครัวที่กลับมามีรอยยิ้มอีกครั้งแล้วก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก การรักษาพ่อกับแม่เป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น เธอมองไปที่สองมือที่ผอมแห้งของพวกเขา และปฏิญาณกับตัวเองในใจ
‘นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นต่อไปนี้ ข้าจะทำให้พ่อกับแม่ไม่ต้องลำบาก ไม่ต้องหิวโหย และไม่ต้องให้ใครมาดูถูกได้อีกต่อไป’
