ไม้กันหมา(9)
น้าปุณขับรถพาฉันมาที่โรงแรมแห่งนึงที่มีขนาดใหญ่มาก ฉันคุ้น ๆ โรงแรมนี้มาก ราวกับเคยเห็นที่ไหน หรือว่าเคยมา พอน้าปุณจอดรถสนิท ฉันก็เริ่มคิดออกทันที
"โรงแรมพ่อแมน"ฉันคิดได้พร้อมกับเอ่ยปากพูดขึ้นมา น้าปุณชะงักหันขวับมาที่ฉัน
"เธอรู้จัก?"
"พั้นซ์เคยมา นี้เป็นโรงแรมพ่อของเพื่อนพั้นซ์เอง"
"เพื่อนเธอ? ลูกชายเจ้าของ?"
"ใช่ ๆ แมน เป็นลูกชายคนเดียวของลุงกิติเจ้าของโรงแรมนี้"ฉันยิ้มกว้างแล้วรีบเปิดประตูลง ในใจหวังว่าจะได้เจอเพื่อน
น้าปุณลงรถตามมา ฉันรู้ทิศทางจึงเดินนำเขาเข้ามาในล็อปบี้
พอไปถึงที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ฉันก็หยุด เพื่อให้น้าปุณแนะนำ ที่นัดแนะกับลูกค้า เขาเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แล้วแนะนำตัวกับชื่อบริษัท พนักงานสาวยิ้มกรุ่มกริ่ม อย่างเขินอายนิด ๆ ก็เพราะว่าน้าชายของฉันรูปหล่อหน้าตาดี ก่อนที่จะเชิญให้เขาไปที่ห้องประชุมที่เจ้าของได้รออยู่
หลังจากนั้น ฉันกับน้าปุณก็มาขึ้นลิฟต์ไปที่ห้องประชุมดังกล่าว ที่พนักงานสาวได้บอกไว้ ในลิฟต์ที่มีแค่ฉันกับน้าปุณ เขายืนล้วงกระเป๋าชายตามองมาที่ฉัน ในอ้อมแขนที่โอบแฟ้มงานไว้มากมาย
"เธอตื่นเต้น?"
"ไม่เลยค่ะ"ฉันหันมาพูดกับคนร่างสูง
"ทำไมเธอไม่อยู่นิ่งเลย"จริง ๆ ฉันก็ตื่นเต้นนั้นแหละ ที่ฉันเคยมาที่นี้ ก็เป็นตอนวันเกิดแมน คือนางจัดที่โรงแรมของนาง ฉันไม่เคยได้พูดคุยกับพ่อเพื่อนเป็นงานเป็นการแบบนี้ไง
"ดูออกขนาดนั้นเลยเหรอ"
"หึ"น้าปุณเปล่งเสียงหัวเราะในลำคอ แล้วส่ายหน้า จนกระทั่งประตูลิฟต์เปิด เขาเดินนำหน้าฉันไปที่ห้องจุดหมาย พอไปถึงหน้าห้อง น้าปุณยกมือเคาะประตูเบา ๆ
"เชิญครับ"คนด้านในส่งเสียงออกมาพอได้ยิน ดังนั้นน้าปุณก็มองฉันแว๊บนึงก่อนจะดันประตูเข้าไป
ฉันก้าวขาเข้าไปตามตูดน้าปุณติด ๆ สายตาฉันก็ไปเห็น 'แมน' เพื่อนของฉันนั่งอยู่ โดยมีพ่อของเขานั่งที่หัวโต๊ะประชุม
"พั้นซ์"แมนหยัดกายลุกขึ้นพร้อมเอ่ยชื่อฉัน
ฉันฉีกยิ้มกว้างให้เพื่อนชาย ในขณะที่น้าปุณหันมามองฉันสลับกับแมน แล้วยกมือไหว้พ่อของแมน
"สวัสดีครับ"
"เชิญนั่งครับ อ้าวหนูพั้นซ์"
"สวัสดีค่ะคุณลุง"กล่าวแล้ว แมนเพื่อนฉันก็เดินเข้ามาคว้ามือฉันไปนั่งข้างเขา โดยที่น้าปุณ ไปนั่งอีกฝั่งตรงกันข้าม
"ขอเอกสารหน่อย"ฉันยื่นแฟ้มเอกสารให้น้าปุณทันที แล้วหันมายิ้มกับแมน
"นี้คิอใบเสนอราคาอินโนเวททั้งหมดครับ"พ่อของแมนรับมา ก่อนที่จะขยับแว่นสายตาเปิดดู
"ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรเพิ่มเติม ทางเราจะแจ้งให้ทราบอีกที"พ่อของแมนหยุดอ่านแล้วหันมาพูดกับน้าปุณ
"หนูพั้นซ์ เป็นลูกบุญธรรมคุณเหรอ"
"ไม่ใช่ครับพ่อ"แมนแทรกขึ้น
"อ้าว แล้วเป็นอะไรกับคุณปุณ"
"พั้นซ์เป็นลูกบุญธรรมพี่สาวผมครับ"ฉันผงกหัวยิก ๆ ตามที่น้าปุณพูด เพราะพ่อของแมนหันมามองที่ฉัน
"อ่อ...เรื่องงาน ผมตกลงดีลกับบริษัทคุณ"ว่าจบ พ่อของแมนก็หันมายิ้มกับฉัน ท่านดูใจดีจัง ในขณะที่แมนเผลอเอื้อมมือมาจับฉัน แล้วยิ้มหวานให้
"ไปกินข้าวด้วยกันนะ"ฉันไม่ได้ตอบเลือกที่จะหันไปที่น้าชายสุดหล่อแทน
"นี้ก็เลยเที่ยงมาแล้ว ไปทานข้าวเที่ยงด้วยกันนะ"เสียงพ่อของแมนก็ดังขึ้น น้าปุณจึงละสายตาจากฉัน หันไปที่พ่อของแมน
"ครับ เดี๋ยวผมเป็นเจ้ามือเอง"ว่าจบ ฉันก็หันไปยิ้มกับแมน
ออกมาจากห้องประชุม ฉันกับแมนเดินนำหน้าออกมา ในขณะที่ผู้ใหญ่ทั้งสองเดินคุยงานกันตามมาติด ๆ
"ไปรถฉันนะ"
"เอ่อ..."
"ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ ตั้งหลายเรื่องเลยนะ"ฉันหันหลังไปที่น้าปุณ แต่เขาก็ยังเดินคุยงานกับพ่อแมน โดยที่ไม่ได้สนใจฉันเลย
"ก็ได้"ฉันตอบตกลงไป เพราะถึงยังไง ก็ไปสถานที่เดียวกัน ซึ่งน้าปุณได้บอกร้านที่จะไปก่อนหน้านี้แล้ว
ฉันกับแมนเดินมาถึงที่จอดรถก่อน แมนเดินไปเปิดประตูรถให้ฉัน
"เราไปรอก่อนก็ได้ เดี๋ยวพวกท่านก็ตามมา"ฉันผงกหัวแล้วเข้าไปนั่งในรถ
ระหว่างที่แมนกำลังจะสตาร์ทรถ จู่ ๆ เสียงโทรศัพท์ฉันก็ดังขึ้น ฉันจึงล้วงกระเป๋าหยิบมันขึ้นมาดู เป็นเบอร์ของน้าปุณที่โทรเข้ามา จึงรีบกดรับสาย
"ฮาโหล"
(เธออยู่ไหน)
"พั้นซ์อยู่กับแมน กำลังจะไปที่ร้านอาหาร ไปเจอกันที่นั้นนะคะ"
(เธอเป็นผู้ช่วยฉัน หรือเป็นผู้ช่วยเพื่อนเธอกัน)ว่าจบ น้าปุณก็ตัดสายไป ฉันมองที่โทรศัพท์แล้วถอนหายใจเบา ๆ เพราะคำพูดของเขาราวกับกำลังโกรธฉันยังไงไม่รู้
"มีอะไรเหรอ"
"ปะ ป่าว ไม่มีอะไร ไปกันเถอะ"ฉันหันไปพูดกับแมน ก่อนที่จะเอาโทรศัพท์หย่อนใส่กระเป๋า แมนยิ้มให้ฉันก่อนจะขับรถออกมา ตลอดทางแมนถามเรื่องของฉันต่าง ๆ นา ๆ
"เธออึดอัดอะไรไหมที่ไปอยู่กับพวกเขา"
"ตอนนี้ไม่นะ"ฉันตอบ เอาจริง ๆ ก็มีอึดอัดบ้างแหละที่จะต้องอยู่ใกล้กับน้าปุณ แต่ก็คิดว่าไม่นานฉันคงจะชิน
'ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยว่าง ช่วยงานพ่อน่ะ พ่อมีโครงการอินโนเวทโรงแรมใหม่ ก่อนจะถึงหน้าซีซั่น"
"อ่อ...."ฉันเข้าใจแมน เพราะอีกไม่นาน พอแมนเรียนจบก็ต้องเข้ามาบริหารแทนพ่อของเขา แมนเป็นคนที่เก่งคนนึงเลยทีเดียว
"เธอก็คงได้ทำงานที่บริษัทแม่บุญธรรมของเธอสินะ"
"ก็คิดว่าจะเป็นอย่างนั้น"จริง ๆ แล้วก็เป็นแบบนั้นแหละ เพราะแม่บุญธรรมของฉันได้เอ่ยปากบอกมาแล้ว
"อีกไม่กี่วัน มหาลัยก็เปิดแล้วเนอะ"แมนเอ่ยพร้อมกับคลี่ยิ้มบาง ๆ แต่สายตายังคงจ้องอยู่ด้านหน้า
"...."ฉันไม่ได้พูดอะไร ก็ได้แต่อมยิ้ม เพราะถ้ามหาลัยเปิด ฉันคงไม่ได้มาเป็นผู้ช่วยน้าชายของฉันอีกแน่ ๆ ค่อยบรรเทาความอึดอัดลงหน่อย
"แล้วแม่เธอ..."
"จากวันที่เธอได้เงินไป แม่ก็ไม่ติดต่อมาเลย"ฉันเอ่ยพร้อมกับถอนหายใจออกมา รู้สึกน้อยใจมาก เราสองคนไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลย เธอทำราวกับฉันเป็นสิ่งของ เมื่อขายแล้วฉันก็ไม่มีความหมายกับเธอ
แมนหันมามองฉันแว๊บนึงพร้อมเอื้อมมือมากุมมือฉัน
"อย่าคิดมากเลยนะ คิดซะว่าตอนนี้เธอมีชีวิตที่ดีกว่าเดิมมาก"แมนราวกับรู้ว่าฉันกำลังคิดน้อยใจในชะตาชีวิตอยู่ เขาพูดให้ฉันมีกำลังใจต่อไป
"ขอบใจนะ..แมนเป็นเพื่อนที่ดีของฉันจริง ๆ"แมนหันขวับมาที่ฉัน
"แค่เพื่อน?"
"แมนระวัง"ฉันส่งเสียงเตือนเพื่อนชาย เมื่อเห็นสุนัขกำลังเดินข้ามถนน ดีที่แมนเหยียบเบรคทัน เขาไม่ได้ขับรถไวมาก
พอมาถึงที่ร้าน แมนรีบลงจากรถแล้วมาเปิดประตูให้
"ขอบใจนะ"ขณะที่ฉันลงจากลง ก็มีรถคันหรูสองคันขับเข้ามาจอดข้าง ๆ คันแรกฉันรู้เลยว่าเป็นรถน้าปุณ คันสองมีคนที่ขับลงจากรถแล้วเดินไปเปิดประตูด้านหลัง คนที่ลงมาก็เป็นพ่อของแมนนั่นเอง
ทุกคนเดินเข้ามาในร้าน ซึ่งเป็นห้องอาหารส่วนตัว ฉันยังคงได้นั่งใกล้ ๆ กับแมน เพราะเขาจัดแจงให้นั่งข้างกับเขา ระหว่างทานอาหาร น้าปุณกับพ่อของแมนก็พูดคุยกับ บางก็เรื่องงาน บางก็เรื่องอาหาร ซึ่งท่าทางของท่านประทับใจอาหารร้านที่น้าปุณแนะนำมาก
"ก่อนเปิดเรียน เราไปฉลองกันนะ"เสียงแมนกระซิบเบา ๆ ที่ข้าง ๆ หู
"ฉันจะไปไหนเหมือนแต่ก่อนไม่ได้แล้วอ่ะ"ใช่ ฉันจะไปไหนเหมือนแต่ก่อนไม่ได้ เพราะว่าฉันไม่ได้อยู่กับยายที่เวลาขอท่านไปไหน ท่านก็มักจะอนุญาต แตกต่างกับตอนนี้ที่ฉันไม่ได้อยู่กับยายแล้ว
"เดี๋ยวฉันเข้าไปขอให้"แมนพูดเบา ๆ ข้าง ๆ หู ท่ามกลางสายตาของน้าปุณที่จ้องมองอยู่
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อย
"ผมขอแยกตรงนี้เลยนะครับ"
"ครับ ๆ ไปตาแมน เราจะต้องไปศึกษางานต่อ"พ่อของแมนหันมาพูดกับแมน ขณะที่เดินออกมาจากร้านอาหาร
"ฉันไปก่อนนะ เรื่องที่ว่าจะไปฉลอง เดี๋ยวฉันจะเข้าไปขอแม่บุญธรรมของเธอให้'
"อืม"
รถของพ่อแมนขับออกไปก่อน ตามไปด้วยรถของแมน ฉันกับน้าปุณยืนมองรถทั้งสองคันขับออกไปจนลับตา ก่อนที่เขาจะเดินนำไปที่รถ โดยมีฉันตามไปติด ๆ
ขณะที่ฉันนั่งอยู่บนรถที่เบาะข้าง ๆ น้าปุณที่เป็นคนขับ
"เธอกับลูกเจ้าของโรงแรมคบกัน?"ฉันหันไปที่คนเอ่ยถาม
"เปล่านะคะ เราแค่เป็นเพื่อนกัน"
"ท่าทาง...เด็กนั้นชอบเธอนะ"
"แมน ก็เป็นแบบนี้ล่ะคะ"
"จับมือจับไม้กัน?"
"......"ฉันไม่พูดอะไร เพราะสิ่งที่แมนทำนั้นเป็นเรื่องปกติ ฉันกับแมนเป็นแค่เพื่อนกันจริง ๆ
"ท่าทางเจ้าของโรงแรมก็เอ็นดูเธอนะ"
"ลุงกิติท่านใจดีค่ะ"
"หึ"น้าปุณหัวเราะในลำคอ ขณะที่ขับรถอยู่ สายตาเขาไม่ได้เหลียวมองฉันเลย และฉันก็ไม่ได้พูดตอบโต้อะไรกับเขา จนกระทั่งน้าปุณขับรถมายังสถานที่ก่อสร้างที่หนึ่ง เขาจอดรถก่อนที่จะหันมาพูดกับฉัน
"ลงไปตรวจงานกับฉัน"ฉันช้อนตาขึ้นมองหน้าน้าชายอย่างสงสัย ฉันนี้นะจะไปตรวจงาน เหอะ ฉันจะไปรู้อะไร
"ลงมาสิ"แค่ชั่ววินาที น้าปุณก็ลงจากรถ เขายื่นหน้าเข้ามาพูดก่อนที่จะปิดประตู ฉันจึงรีบปลดเบลล์เปิดประตูลงรถตามเขาไป
น้าปุณเดินไปทีหัวหน้างาน เขาหยิบหมวกป้องกันยื่นให้น้าปุณลงอัน
"เลขาคนใหม่เหรอครับนาย"น้าปุณหันมาส่งหมวกให้ฉัน
"ผู้ช่วยชั่วคราว"ก่อนที่จะหันไปตอบหัวหน้างาน ฉันหยิบหมวกขึ้นมาใส่หัวเรียบร้อย แล้วเดินตามน้าปุณที่เดินเคียงข้างหัวหน้างาน ที่ค่อยอธิบายงานให้เขาฟัง ซึ่งฉันก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย ได้แต่เดินตามเขาทั้งสองต้อย ๆ
เดินขึ้นไปหลายชั้นมาก จนฉันเริ่มเมื่อยและเหนื่อย จึงแอบที่จะหลบไปนั่ง ในขณะที่น้าปุณไม่ได้สนใจฉันหรอก เขาสนใจแต่งานตรงหน้า
ฉันหลบมานั่งที่มีอากาศถ่ายเท ลมโกรกดีมาก หนังท้องตึงหนังตาก็หย่อน เผลอหลับไปซะงั้น
ฉันมารู้สึกตัวเมื่อมีมือมาสะกิดที่ไหล่ของฉัน
"ตื่น"ฉันยกมือขยี้ตา แล้วลืมตาจ้องมองเจ้าของเสียง พอรู้ว่าเป็นใครฉันรีบหยัดกายลุกขึ้น น้าปุณนั่นเอง ยืนพ่นลมหายใจออกมาดัง ๆ แล้วหันหน้าไปทางอื่น ก่อนจะหันกลับมาจ้องฉัน
"ไป!"เขาเดินนำลงมาทางบันได ฉันยกมือตบขมับตัวเอง สองเท้าก้าวตามเขาไปติด ๆ ทำไมฉันขี้เซาขนาดนี้นะ สายตามองไปรอบ ๆ ก็รู้ว่าตะวันมันตกดิน ภายนอกมืดแล้ว มีแสงไฟที่พนักงานเปิดทั่วไปหมด นี้ฉันนอนยาวนานเกินไปงั้นเหรอ
พอมาถึงรถ ฉันก็รีบเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถติด ๆ กับน้าปุณ เขาไม่พูดไม่จา สตาร์ทรถออกไปทันที
"วันนี้ฉันมีนัดกับเพื่อน"น้าปุณพูดขึ้นมา แต่สายตาไม่ได้มองมาที่ฉัน
"น้าปุณจะไปส่งพั้นซ์ก่อนใช่ไหม"
"เธอลืมหน้าที่เธอแล้วเหรอ"
"หน้าที่?"
"ที่เธอต้องคอยตามติดฉันไง"เออใช่ ฉันมีงานที่คุณแม่บุญธรรมมอบหมายไว้นี้หน่า
แต่....
"น้าปุณอยากให้พั้นซ์ไป?"
"เอาไว้เป็นไม้กันหมา"เหอะ ดูเขาพูดสิ ถ้าไม่ใช่คนมีอายุมากกว่านะ ฉันจะตบกระบาลให้
"เหอะ"ฉันเลือกที่จะแค่นหัวเราะออกมา
??????????
