บท
ตั้งค่า

บทที่ 3

ในเมื่อสถานการณ์มันบีบบังคับถึงขั้นนี้แล้ว บางทีสวรรค์อาจกำหนดให้ดรินทร์กับปุณณ์ได้แต่งงานกัน ทุกอย่างมันถึงได้ประจวบเหมาะ

“ใช่” เพียงดาวพยักหน้ารับด้วยความหนักแน่น

“ละ...แล้วทำไมต้องเป็นเราด้วยยะ”

“ก็แกเหมาะที่จะสวมรอยเป็นเจ้าสาวของพี่ปุณณ์มากที่สุดแล้วยายลิน”

“จะบ้าหรือไง”

“ไม่บ้า” เพียงดาวรีบตอบเช่นกัน

“แล้วเรื่องอะไรเราจะต้องยอมสวมรอยเป็นเจ้าสาว เพื่อไปแต่งงานกับพี่ชายแกด้วย ไม่เอา” ดรินทร์ส่ายหน้าปฏิเสธ แม้ใจหนึ่งจะแอบคิดว่าจะตอบตกลงก็ตาม ซึ่งคำพูดของเธอกำเอาคนเจ้าแผนการอย่างเพียงดาวเริ่มอ้ำๆ อึ้งๆ

“ถือซะว่าช่วยเราหน่อยเถอะนะเพื่อนนะ อีกอย่างแกก็เคยชอบ พี่ปุณณ์ไม่ใช่เหรอ”

“ยอมรับว่าเคย”

“นั่นไง” คนฟังดีดนิ้วเสียงดัง

“นั่นไงอะไร ที่ยอมรับเพราะมันคืออดีตต่างหาก ตอนนี้เราออกจะเฉยๆ กับพี่ปุณณ์แล้วยะ” แม้ปากจะบอกว่าเฉยๆ และก่อนหน้านี้ก็เคยพูดว่าไม่ได้คิดอะไรกับปุณณ์ แต่ใจของดรินทร์นั้นกลับหวิวๆ คลายจะเป็นลม เมื่อรู้ว่าปุณณ์กำลังจะแต่งงานกับดาวจรัส

“อย่าพูดแบบนี้สิเพื่อน”

“ไม่พูดไม่ได้” ดรินทร์จ้องตาเพียงดาวนิ่ง เพราะยังไงเธอก็ไม่ยอมเป็นเจ้าสาวแก้ขัดของใครแน่นอน

“ก็ไหนแกเคยพูดนี่ ว่าถ้าแกสามสิบแล้วยังโสดไม่ได้แต่งงาน แกจะมาขอพี่ปุณณ์แต่งงานไง” คนฟังอย่างดรินทร์ถึงกับน้ำท่วมปาก ก่อนที่จะพยายามนึกว่าเธอไปพูดอะไรทำนองนี้ไว้ตอนไหน เพื่อปฏิเสธคำขอของเพียงดาว

“ปีนี้แกก็สามสิบพอดิบพอดีใช่ไหม” เพียงดาวส่งสายตาวิบวับมายังดรินทร์

“ก็ใช่”

“นั่นไง ทุกอย่างลงตัวเป๊ะ” เพียงดาวไล่ต้อนเพื่อนทุกทาง นั่นเพราะลึกๆ เธอก็อยากให้ปุณณ์กับดรินทร์ลงเอยกัน

จริงๆ โดยเพียงดาวเองก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงคิดแบบนั้น

รู้แค่ว่าเคยเอาวันเดือนปีเกิดของสองคนนี้ไปดูดวงแบบขำๆ ว่าใช่เนื้อคู่กันไหม ซึ่งคำตอบที่แม่หมอให้มาตอนนั้นคือ...ใช่ แต่ทุกอย่างมักจะผิดที่ผิดทางไปหมด

“ที่เราพูดตอนนั้นเพราะเราเมา แกจะถือสาคำพูดของคนเมาทำไมเล่า” ดรินทร์โบกมือหยอยๆ ให้เพื่อน เพื่อหวังบ่ายเบี่ยง แต่เพียงดาวหรือจะเลิกตื้อ

“งั้นเราขอร้องแกก็ได้อะ ถือซะว่าสงสารผู้ชายตาดำๆ ที่ถูกเทงานแต่งงานสักครั้งเถอะ...พลีส”

“พี่ชายแกไม่เป็นอะไรหรอก ถ้าเรื่องแค่นี้ยังผ่านไปไม่ได้ ก็โกนผมหนีไปบวชเถอะ”

“เราเชื่อว่าพี่ปุณณ์ผ่านไปได้ แต่แม่พี่ปุณณ์นี่สิ...เฮ้อ!” เพียงดาวถอนหายใจออกมาหนักๆ พร้อมกับตีสีหน้าเศร้าสร้อยขั้นสุด เพราะจู่ๆ ก็คิดแผนสำรองขึ้นมาได้

ไหนๆ ก็ไหนๆ เพียงดาวจึงขอโกหกแบบชุดใหญ่ไฟกะพริบกันไปเลย โดยในใจนั้นเอ่ยขอโทษขอโพยปรียาอยู่เช่นกัน

“แกรู้ไหมว่าแม่พี่ปุณณ์เขากำลังป่วยเป็นโรคหัวใจ ขืนรู้เรื่องนี้เข้ามีหวังได้ช็อคแน่” เอ่ยจบเพียงดาวก็ถอนหายใจออกมาหนักๆ

“แม่พี่ปุณณ์เป็นโรคหัวใจเหรอ” ดรินทร์ถามย้ำ นั่นเพราะรู้สึกตกใจที่ได้รู้เรื่องนี้ เพราะเธอเองก็สูญเสียผู้เป็นพ่อจากโรคหัวใจไปอย่างกะทันหันเช่นกัน

“อื้อ...คุณป้าพูดบ่อยๆ ว่าอยากให้พี่ปุณณ์แต่งงานมีครอบครัวก่อนที่ตัวแกจะ...ตาย” น้ำเสียงของเพียงดาวนั่นสั่นเครือ เรียกได้ว่าเล่นละครได้แนบเนียนมาก แต่ก็แอบสังเกตสีหน้าของดรินทร์ไปด้วย

“แล้วถ้าแม่พี่ปุณณ์เห็นเราซึ่งหน้าตาไม่ได้เหมือนเจ้าสาวเลย จะไม่ช็อคกว่าหรือไง”

“ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวเราบอกคุณป้าเองว่าแก เอ้ย...พี่ดาว ไปให้หมอเกาหลีเหลาหน้าใหม่เพื่อปรับโหงวเฮ้ง จะได้เฮงๆ รวยๆ เป็นสะใภ้ที่ดีอยู่ในโอวาส”

“ยายกุ๊กไก่บ้า หน้าสิ่วหน้าขวานขนาดนี้แกก็ยังคิดได้”

“นะแก...อีกแค่ไม่ถึงสิบนาที งานก็จะเริ่มแล้ว” เพียงดาวกุมมือของดรินทร์ไว้ สีหน้าแววตานั้นร้องขอความช่วยเหลือ ถึงขนาดที่ดรินทร์เกือบใจอ่อน ก่อนจะกัดฟันปฏิเสธออกไป

“ไม่”

“ลิน...เพื่อนรัก เราขอร้อง”

‘หัวเด็ดตีนขาดเราก็ไม่ยอมเป็นเจ้าสาวสวมรอยพี่ปุณณ์เด็ดขาด...ไม่มีทาง’ นี่คือประโยคที่ดรินทร์ควรจะตอบเพียงดาว แต่ทว่าสุดท้ายแล้วเธอกลับเลือกที่จะตอบอีกอย่าง

“ก็ได้”

“จริงๆ นะ” เพียงดาวถามย้ำ เพราะกลัวตัวเองหูฟาดไป

“อืม...เพราะถ้าไม่ใช่แกขอร้อง อย่าหวังว่าเราจะยอม” และอีกหนึ่งเหตุผลคือถ้าเจ้าบ่าวไม่ใช่ปุณณ์เธอก็คงไม่

ตอบตกลงเช่นกัน

“ขอบใจมากนะลิน เรารักแกที่สุด” เพียงดาวดึงดรินทร์เข้ามา

กอด จากนั้นก็รีบลากเพื่อนรักไปแต่งหน้าแต่งตัว ซึ่งทันทีที่เธอปรากฎตัวขึ้น บรรดาช่างแต่งหน้าทำผมต่างเข้ามารุมล้อมชนิดที่ดรินทร์นั้นแทบหายใจไม่ออก

“พอดีเป๊ะเลยค่ะคุณน้อง” ช่างทำผมคนหนึ่งเอ่ยชมขึ้น เมื่อเห็นว่าดรินทร์นั้นสามารถใส่ชุดเจ้าสาวของดาวจรัสได้อย่างพอดิบพอดี เรียกได้ว่าโชคเข้าข้างสุดๆ

ระหว่างนั้นเพียงดาวก็รีบวิ่งไปหาปรียาที่ห้องพัก ก่อนจะขอเวลาคุยด้วยเป็นการส่วนตัว ซึ่งเธอก็เล่าความจริงทุกอย่างให้ปรียาฟังว่าตอนนี้ญาติเจ้าสาวต่างพากันหนีออกไปจากโรงแรมกันจนหมดแล้ว ซึ่งทันทีที่ได้รู้ปรียาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จะตามไปเอาเรื่องแต่ถูกเพียงดาวห้ามไว้

ก่อนที่เพียงดาวจะบอกถึงการแก้ไขปัญหาที่เธอนั้นคิดและเตรียมไว้แล้วให้ปรียาได้เลือกระหว่าง

หนึ่ง...ยกเลิกงานแต่งงานไปเสีย โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งรายละเอียดกับแขกถึงสาเหตุของการยกเลิกก็ได้

หรือสอง...หาคนมาสวมรอยเป็นเจ้าสาว เพื่อจัดงานให้ลุล่วงไปเสียก่อน

“ใครจะมาเป็นเจ้าสาวให้ปุณณ์ได้ตอนนี้ละกุ๊กไก่” ปรียาเอ่ยถามด้วยความกังวล

“กุ๊กไก่เตรียมไว้แล้วค่ะ”

“ใคร”

“ลินค่ะ เพื่อนสนิทกุ๊กไก่เอง ซึ่งคุณป้าก็น่าจะรู้จัก”

“แล้วหนูลินเขายอมเหรอกุ๊กไก่” แม้จะกังกลปนความกลัวกับเรื่องที่กำลังเกิดและต้องแก้ไขปัญหา แต่ทว่าแวบแรกทันทีปรียานั้นที่ได้ยินชื่อดรินทร์ก็ถึงกับยิ้มกว้างออกมา

เพราะเธอนั้นเคยเจอกับดรินทร์เมื่อหลายปีก่อน ตอนที่เจอก็นึกเอ็นดูอยู่ไม่น้อย ยังเคยพูดกับเพียงดาวว่าถ้าได้ดรินทร์มาเป็นสะใภ้ก็คงดี แต่จู่ๆ ดรินทร์ก็หายหน้าหายตาไป ซึ่งได้ข่าวทีหลังจากเพียงดาวว่า ดรินทร์นั้นไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ

“ยอมค่ะ”

“จริงๆ นะ” ปรียาถามย้ำ เพราะไม่คิดว่าดรินทร์จะยอมช่วย

“จริงค่ะ”

“ทำไมถึงยอม”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel