หลงรักเจ้าสาวผิดคิว

65.0K · จบแล้ว
วรนิษฐา
41
บท
24.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เธอ...คือเจ้าสาวที่ฟ้าส่งมาโปรด ให้เจ้าบ่าวใกล้ตายที่ถูกเทงานแต่งงานอย่าง...เขา

นิยายรักโรแมนติกผู้ชายอบอุ่นแต่งงานสายฟ้าแลบหนีแต่งงานแต่งงานแทนแต่งงานก่อนรักรักหวานๆ

บทที่ 1

ความโกลาหลกำลังเกิดขึ้นภายในห้องพักของโรงแรมชื่อดัง ซึ่งเวลานี้มีไว้สำหรับแต่งตัวเจ้าสาว แต่ทว่ากลับไม่มีใครเจอตัวเจ้าสาวของงานแม้แต่คนเดียว

ภายในห้องไม่มีการรื้อค้น ข้าวของ ทุกอย่างยังคงวางอยู่ที่เดิม โดยเฉพาะชุดแต่งงานแสนสวย ที่ถูกสั่งตัดมาเป็นพิเศษเพื่อวันที่แสนพิเศษเช่นวันนี้

“มีใครเจอตัวเจ้าสาวหรือยัง”

“ยังค่ะยัง” บรรดาญาติพี่น้องต่างเอ่ยถามและตอบกันไปมา นั่นเพราะทันทีที่รู้ข่าว พวกเขาก็พากันแยกย้ายเพื่อตามหาจนทั่วโรงแรม แต่กลับไม่เจอตัว

ญาติผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวพากันเครียดจนเป็นลมล้มพับไปหลายคน โดยเฉพาะแม่เจ้าสาวที่ถึงขนาดต้องเรียกรถพยาบาลมาสแตนบาย เพราะไม่คิดว่าจู่ๆ ลูกสาวจะหนีหน้าหายไปเอาในวันแต่งงานเช่นนี้ ทั้งๆ ที่ตกลงกันไว้ดิบดีว่าจะเข้าพิธีแต่งงานกับเจ้าบ่าวที่ชื่อ...ปุณณ์

เพราะตกลงกันไว้แล้ว เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันจึงช็อคไปตามๆ กัน นั่นเพราะหากงานแต่งงานครั้งนี้เกิดอุปสรรค ถึงขั้นล่มขึ้นมา หนี้สินที่ทางครอบครัวมีก็คงยิ่งพอกพูน เพราะนี่คือการแต่งงานเพื่อปลดหนี้ของครอบครัวเธอนั่นเอง

“เกิดเรื่องแล้วค่ะคุณป้า”

“เรื่องอะไรกุ๊กไก่”

“คือ...พี่ดาวหายตัวไปค่ะ” เพียงดาวเอ่ยบอกออกไป นั่นทำให้ปรียาถึงกับช็อค ก่อนจะทรุดตัวลงไปนั่งบนเก้าอี้อย่างไม่ไหวติง เพราะไม่ได้วางแผนรับมือกับเรื่องแบบนี้มาก่อน

นั่นเพราะใครจะไปคิดว่าเจ้าสาวของงานจะมาหายตัวไปเช่นนี้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าก็ไม่ได้มีวี่แววใดๆ เป็นสัญญาณเตือนถึงความไม่ปกติ หนีวันไหนไม่หนีมาหนีเอาวันสำคัญอย่างวันแต่งงานเสียด้วย คิดแล้วปรียาก็ทั้งโกรธทั้งแค้น

“หายตัวไป หายไปได้ยังไง”

“กุ๊กไก่ก็ไม่ทราบรายละเอียดเหมือนกันค่ะ รู้แค่ว่าตอนนี้หาตัวเจ้าสาวจนทั่วแล้วก็ไม่เจอ” สีหน้าของเพียงดาวเองก็เป็นกังวลมากเช่นกัน

“นี่มันเรื่องบ้าอะไร” ปรียาสบถออกมา อยากจะเป็นลมให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็สั่งตัวเองว่าห้ามเด็ดขาด เพราะไม่อย่างนั้นใครจะจัดการเรื่องนี้ต่อ

“เรายกเลิกงานแต่งไปก่อนดีไหมคะ”

“ไม่”

“ทำไมละคุณป้า” สีหน้าของเพียงดาวเต็มไปด้วยความสับสน อันที่จริงเธอตกใจตั้งแต่รู้ว่าลูกชายคนเดียวของปรียาจะแต่งงาน มันเร็วเกินไปจนน่าสงสัย อีกอย่างปุณณ์หรือที่เธอเรียกว่าพี่ปุณณ์ก็ไม่ใช่คนที่จะถูกจับคลุมถุงชนให้แต่งงานตามใจผู้ใหญ่ง่ายๆ

“ยังไงป้าก็ไม่ยกเลิกงานแต่งงานเด็ดขาด” นั่นเพราะปรียาไม่อยากเสียหน้า ยังไงงานนี้ก็ต้องมีคนรับผิดชอบ ในเมื่อเพียงดาวเข้าพิธีไม่ได้ ฝ่ายนั้นก็ต้องหาคนมาแทน ไม่งั้นเธอไม่ยอมจบเรื่องนี้ง่ายๆ แน่

เกิดมาก็ยังไม่เคยมีใครกล้าหักหน้าเธอเช่นนี้มาก่อน ขืนใครต่อใครรู้เรื่องเข้าทั้งเธอ ทั้งลูกชายรวมไปถึงวงศ์ตระกูลคงได้อับอายขายขี้หน้าไปทั่วแน่

“คุณป้า จะไปไหนคะ” เพียงดาวเอ่ยถามตามหลัง เมื่อเห็นปรียาเดินดุ่มๆ ตรงไปยังห้องแต่งตัวของเจ้าสาว โดยเพียงดาวนั้นเดินตามหลังมาด้วย ซึ่งทันทีที่ปรียาผลักประตูเข้าไปข้างในก็เห็นพ่อแม่และบรรดาญาติเจ้าสาวนั่งหน้าซีดอยู่

“สรุปวันนี้ลูกชายฉันจะได้แต่งงานไหม” น้ำเสียงห้วนๆ เอ่ยถามขึ้น

“เอ่อ...คือ” บรรจงพ่อเจ้าสาวถึงกับอ้ำๆ อึ้งๆ เพราะไม่รู้จะตอบคำถามนี้ของปรียาอย่างไรไม่ให้สถานการณ์มันแย่ไปมากกว่าที่เป็นอยู่ นั่นเพราะตนเองก็ไม่คาดคิดว่าลูกสาวจะมาหนีไปเช่นกัน

“ได้แต่งค่ะได้แต่ง” ยุพินภรรยาของบรรจงหรือแม่ของเจ้าสาว ที่ตอนนี้พอจะหายวิงเวียนเพราะอาการเป็นลมเอ่ยตอบขึ้น ก่อนจะสูดดมยาดมที่ถืออยู่ในมือเข้าปอดชุดใหญ่

“ถ้ามั่นใจแบบนั้นก็คงรู้สินะว่าต้องทำยังไง อ้อ...ช่วยทำให้เร็วด้วยเพราะแขกเหรื่อมารอในงานกันจนจะครบแล้ว”

“ค่ะๆ ครับๆ” ยุพินและบรรจงเอ่ยรับออกมาพร้อมๆ กัน

“ถ้าพวกเธอแก้ปัญหานี้ไม่ได้ ก็เตรียมไม่มีที่ซุกหัวนอนได้เลย” ทิ้งระเบิดเวลาเสร็จ ปรียาก็กลับออกไปทันที เพียงดาวเองก็รีบเดินตามหลังปรียามา ก่อนจะปลีกตัวลงไปคอยประสานงานที่ห้องจัดเลี้ยง เพื่อยื้อเวลาให้ทางญาติของเจ้าสาวที่หนีงานแต่งงานไปแล้วหาทางออกในเรื่องนี้

ส่วนปรียานั้นเข้าไปคุยกับบุตรชาย ที่เวลานี้แต่งตัวด้วยชุดสูทสามชั้นสีน้ำเงินเสร็จเรียบร้อยแล้ว รอแค่ลงไปต้อนรับแขกพร้อมเจ้าสาวที่ห้องจัดเลี้ยงก็เท่านั้นเอง ซึ่งเหลือเวลาอีกแค่ครึ่งชั่วโมง

“รออีกแป๊บนึงนะปุณณ์ พอดีเจ้าสาวยังแต่งตัวไม่เสร็จนะลูก” ปรียาเลือกที่จะโกหก แม้อีกไม่กี่นาทีปุณณ์ก็คงรู้ความจริงแล้วก็ตาม

“ครับ” เสียงทุ้มเอ่ยรับ ก่อนที่เขาจะหันกลับมามองผู้เป็นแม่ ปรียามองลูกชายด้วยแววตาชื่นชม นั่นเพราะไม่คิดว่าปุณณ์จะยอมแต่งงานตามที่เธอร้องขอ แม้ว่านี่จะเป็นการแต่งงานแบบคลุมถุงชนก็ตามที

ซึ่งปุณณ์เองก็มีเหตุผลของตัวเขาเช่นเดียวกัน อันที่จริงเขาเกลียดการแต่งงานแบบนี้ อยากปฏิเสธแบบหัวชนฝา ตายเป็นตายก็ยอม กระทั่งเมื่อเดือนก่อนก็มีเหตุให้เขาต้องเปลี่ยนความคิด สิ่งนั้นคือผลการตรวจร่างกายประจำปี ที่ระบุว่าเขานั้นมีก้อนเนื้อในสมอง ซึ่งเป็นจุดที่ยากต่อการผ่าตัด และอาจมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ไม่นาน

เขาไม่เคยกลัวความตายเท่าครั้งนี้มาก่อน คิดทบทวนไปต่างๆ นานา ว่าหากเขาตายขึ้นมาใครจะอยู่เป็นเพื่อนแม่ เพราะท่านเองก็เป็นหม้าย แถมยังมีเขาเป็นลูกแค่คนเดียว เขาจึงจำต้องแต่งงานกับผู้หญิงสักคนและถ้าให้ดีคือเป็นคนที่แม่เลือกน่าจะดีที่สุด

ปุณณ์เคยเจอว่าที่เจ้าสาวแค่สองครั้ง ครั้งแรกคือวันที่ไปดูตัว ครั้งที่สองคือวันที่ไปถ่ายพรีเวดดิ้งและนี่คือครั้งที่สามที่ได้เจอเธอ เขายอมรับว่าเธอเป็นคนสวยคนหนึ่ง หน้าตาก็ไม่ได้ขี้เหร่ จบการศึกษาก็ดีแต่กลับหัวอ่อนถูกจับคลุมถุงชน ซึ่งเธอก็คงมีเหตุผลของตัวเองเหมือนเขากระมัง

เขามั่นใจว่าเธอเองก็ไม่ได้รักเขา เช่นเดียวกับที่เขานั้นก็ไม่ได้รักเธอ แต่เขาจะไปแคร์อะไรกับความรัก ในเมื่ออีกไม่นานเขาก็ต้องตายแล้ว ขอแค่ก่อนตายเขาสามารถเสกเด็กเข้าท้องผู้หญิงคนนั้นได้สักคนสองคน หวังว่าน้ำยาของเขามันจะไม่อ่อนแอจนเกินไป เพราะหลังจากเขาตายไปแล้ว แม่จะได้มีเพื่อนรวมถึงตระกูลเขาก็จะมีทายาทไว้สืบสกุลด้วย

“วันนี้ลูกชายแม่หล่อมาก”