บท
ตั้งค่า

3 ลูกสาวคนทรยศ[3]

เครื่องบินเจ็ทส่วนตัวลงจอดสนามบินนครรีโอเนจาโร สัปดาห์หน้าเขาต้องเข้าร่วมการส่งสินค้า แต่เดินทางมาก่อนกำหนดเนื่องจากว่าเขาเกรงว่าตัวเองจะฟุ้งซ่านเป็นกังวลมากเกินไป เหตุผลก็คือเมลิซาออกไปตั้งแคมป์กับทางไฮสคูลซึ่งเขาไม่สนับสนุนตั้งแต่แรกแล้ว

“คุณริคครับ เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ…”จาโรรีบรายงานโดยทันทีหลังจากรับสายของหน่วยบังคับการ

“เคยบอกไปแล้วว่าไม่ต้องเกริ่น แกพูดมาได้เลยเรื่องอะไร”

“รถตู้คุณหนูโดนโจมตีทางบกและทางอากาศครับ”ลูกน้องคนสนิทร่ายยาวตามรายงานที่ได้รับมาเมื่อครู่

“นรกเอ๊ย!!”ริคาร์โด้สบถอย่างหัวเสีย ไม่รอช้าหมุนตัวเดินกลับขึ้นไปยังเจ็ทส่วนตัวที่เพิ่งลงจอดด้วยความว่องไว

“แจ้งนักบินว่าฉันจะกลับโคลัมเบีย!!!”

“คะ….ครับ”เห็นสีหน้าและแววตาของผู้เป็นนายก็รับรู้ถึงกระแสความโมโหระดับขุมนรกที่ว่าร้อนสามารถแตกได้เลยทีเดียว จาโรรีบดำเนินการประสานงานถึงนักบินในทันที

เวลาผ่านไปเกือบสิบห้านาทีทำให้ใจที่ร้อนรนราวกับไฟปะทุจนนั่งไม่ติดเก้าอี้ ริคาร์โด้สาวเท้ายาวๆ ไปยังห้องนักบินเพื่อดูสาเหตุว่าทำไมไม่ได้ดั่งใจ ตอนนี้เขาเป็นห่วงเมลิซาจนทำอะไรไม่ถูกนึกพานโกรธบอดี้การ์ดที่คุ้มกันเธอ และหอบังคับการประจำคฤหาสน์ ป่านนี้เจ้าหล่อนกำลังเผชิญอยู่กับอะไร

“มัวทำอะไรกันอยู่!?”

“คุณริคเราติดปัญหาอีกอย่างครับ”เมื่อเห็นอารมณ์เชี่ยวกรากของผู้เป็นนาย เขาก็ไม่อยากรายงานปัญหาดังกล่าวให้มาเฟียหนุ่มได้รับรู้เพราะกลัวลูกตะกั่วจะเจาะกะโหลก

“ปัญหาเชี้ยไรอีกวะ!!”

“พายุไซโคลนกำลังเคลื่อนตัวมาทางมหาสมุทรแอตแลนติกครับ”จาโรอธิบายตามพยากรอากาศที่รายงานก่อนนักบินจะนำเครื่องบินเจ็ทบินสู่น่านฟ้าได้ในขณะนี้

“งั้นออกมาฉันจะขับเอง!!”ริคาร์โด้ไม่ได้พูดประชดประชันแต่อย่างใด ร้อนอกร้อนใจเป็นห่วงเมลิซากลัวว่าเธอจะได้รับอันตรายสาหัสจึงอยากจะกลับถึงโคลัมเบียซะตอนนี้เลย

“มะ...มันอันตรายนะครับนาย รอให้สภาพอากาศ...”

“รอให้ไอ้เวรพวกนั้นฆ่าเธอก่อนหรือไงวะ!! ไอ้จาโรถ้ามึงกลัวตายขนาดนั้นมึงก็ออกไปกันให้หมดกูจะกลับโคลัมเบียตอนนี้”ไม่รอให้จาโรได้พูดจบประโยค มิหนำซ้ำมาเฟียหนุ่มยังกระชากคอเสื้อนักบินให้ลุกขึ้นจากที่นั่งเพื่อเขาจะได้สแตนด์บายแทน

ทุกคนต่างเงียบไม่มีใครปริปากพูดอะไรสักคำ ริคาร์โด้มีความรู้เรื่องการขับเครื่องบินมาบ้าง แต่ก็ยังมิวายสบถคำหยาบอยู่หลายครั้งเพราะไม่คุ้นชินกับการใช้งานเสียเท่าไร จึงต้องเปลี่ยนหน้าที่มาให้นักบินผู้เชี่ยวชาญ เพราะหากช้ากว่านี้พายุอาจจะทำให้พวกเขาเกิดอันตราย

“น่านฟ้าด้านหน้าพายุกำลังเคลื่อนตัวมา นักบินต้องนำเครื่องลงจอดโดยเร็วที่สุดครับคุณริค”ไม่ทันที่จะได้เดินทางถึงจุดมุ่งหมายก็มีอุปสรรคมาขวางกั้น

เพล้ง!!

“นรกเอ๊ย!! มาเข้าอะไรวันนี้ว่ะ!!”กระวนกระวายใจจนแทบควบคุมสติตัวเองไม่อยู่ เขากำลังจะแดดิ้นตายเสียให้ได้หากไม่ได้ไปหาเมลิซาในตอนนี้

“หอบังคับการรายงานความคืบหน้ามาบ้างหรือยังวะไอ้จาโร!!?”

“รายงานมาเมื่อสักครู่ครับนาย…เอ่อ…คุณหนูหายตัวไปครับ คาดว่าพวกมัน…”

“แม่งเอ๊ย!! พวกมันดูแลเธอยังไงกัน…ผู้หญิงคนเดียวปกป้องไม่ได้ กูจะยิงทิ้งให้หมดเลี้ยงเสียข้าวสุกชิบหาย!!!”ริคาร์โด้ฉุนจัดจนยากที่จะเอาน้ำมาดับให้ใจเย็นลงได้ เขาต้องทำอะไรสักอย่างดีกว่ารอพายุสงบลงเครื่องบินเจ็ทแรนด้อมที่ไหนสักแห่งที่นักบินคาดว่าจะสามารถลงจอดอย่างปลอดภัยได้

“ให้คนมารับพวกเราที่นี่ ถ้ากลับทางอากาศไม่ได้ ก็กลับทางบกให้เร็วที่สุด”ริคาร์โด้ไม่อาจรออยู่กับที่โดยนิ่งนอนใจไม่ได้ ยิ่งรู้ว่าเมลิซาหายตัวไปจากการโจมตีของศัตรูเขาก็รับรู้ถึงความไม่ปลอดภัย….

...อดทนหน่อยนะเมลิซฉันจะตามหาเธอให้พบ

ความเหน็บหนาวกระทบผิวกายบอบบางทำให้คนตัวเล็กต้องกอดตัวเองเอาไว้ กลิ่นฉุนของสารบางอย่างคละคลุ้งไปทั่วห้องจนเมลิซาแทบหายใจไม่ทั่วท้อง

แค่ก! แค่ก!! แค่ก!!!

“เมลิซ~ ตื่นเถอะ”น้ำเสียงไม่คุ้นชินกระซิบขานชื่อเธอ ทำให้เปลือกตาอันแสนหนักอึ้งเปิดขึ้นอย่างช้าๆ ควันขุ่นลอยคละคลุ้งจนเมลิซาต้องขยี้ตาตัวเองเมื่อสารบางอย่างกระทบม่านตา

“กะ…กลิ่นนี้มัน…แค่กๆ”

“ไงสาวน้อย~ เดินทางหลายชั่วโมงฉันให้เธอได้นอนพักอย่างเต็มที่เลยนะ”เสียงทุ้มพูดขึ้น เมลิซาพยายามเพ่งมองไปยังต้นเสียง ทว่าบุคคลปริศนากลับสวมหน้ากากมายากลสีดำดูลึกลับน่าขวัญผวาจนสาวเจ้ากระถดกายหนีติดกำแพง

“คะ...คุณเป็นใคร?”น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยถามด้วยความหวาดกลัวระคนหวาดระแวง

“เป็นคนชี้ชะตาเธอไงสาวน้อย...ว่าแต่เธอรู้ใช่ไหมว่าในห้องเต็มไปด้วยสารโคลนาซีแพม(ยานอนหลับ)และเคตามีน(สารเสพติดชนิดหนึ่ง)”

“ปละ...ปล่อยหนูไปเถอะ อึกๆ จับหนูมาทำไม”หยดน้ำตาเริ่มไหลจากหน่วยตาคู่สวย เธอรู้ว่าสารเหล่านั้นมีประสิทธิภาพร้ายแรงมากแค่ไหนเนื่องจากอ่านในหนังสือบ่อยครั้ง แต่ไม่คิดว่าตัวเองต้องมาอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้

“หึๆ คิดว่าฉันจะปล่อยให้เธอไปจากที่นี่งั้นเหรอ กว่าจะได้ตัวเธอมาไม่ใช่เรื่อง่ายเลยนะ...”

“...ฉันชำแหละร่างเธอส่งให้ไอ้ริคดีไหมนะ”ชายร่างสูงย่อตัวลงในระดับเดียวกันกับเธอก่อนจะใช้นิ้วที่สวมถุงมือหนังลูบไล้ไปตามท่อนแขนเล็ก เมลิซาทำได้แต่ปัดป้องเธอพยายามกลั้นลมหายใจเพื่อไม่ให้สูดลมควันเข้าสู่ร่างกายเพราะรู้ว่ามันอันตรายถึงชีวิตมากแค่ไหน

แค่กๆ

“ฮ่าๆ คิดว่าจะอดทนได้แค่ไหนกันเชียว”เสียงหัวเราะอย่างสะใจของฝ่ายตรงข้ามทำให้เมลิซาต้องกำมือแน่น เธอพยายามอดทนจนถึงที่สุดแต่แล้วก็ต้องสูดหายใจเข้าปอดก่อนจะไอเพราะสำลักควันจนหน้าดำหน้าแดง

“แค่กๆ ปละ...ปล่อย แฮ่กๆ นะ...หนูออกไปถะ...เถอะ”เด็กสาวพยายามขอร้อง เธอไม่รู้จุดประสงค์แน่ชัดว่าอีกฝ่ายลักพาตัวเธอด้วยเหตุผลใด หากแม้นว่าต้องการฆ่าเธอเพื่อส่งศพให้ริคาร์โด้ได้เห็นต่างหน้าคงไม่มีประโยชน์อะไรเพราะเธอเองก็เป็นแค่เด็กกำพร้าพ่อที่เขารับมาเลี้ยง

“เธอรู้ใช่ไหมว่ามาร์โค ทำงานให้กับใคร”

“มะ...ไม่รู้ แค่กๆ นะ...หนูไม่รู้”

“หึ เธอแน่ใจนะว่าเธอไม่รู้…”

“ดะ….ได้โปรด อึกๆ”

“อืม….ฉันว่าก่อนฆ่าเธอ ให้น้องลูกของฉันได้ขึ้นสวรรค์ก่อนดีไหมนะ~”เมลิซากอดตัวเองแน่นไม่ได้ปริปากพูดใดๆ ออกไป ดวงตาแดงก่ำเกิดจากการร้องไห้ เนื้อตัวสั่นเทิ้มด้วยความกลัวสุดขีดเมื่อได้ยินถ้อยคำของอีกฝ่ายที่กล่าว

“เอ๊ย!! พวกมึง! เข้ามา!!”สิ้นเสียงเข้มประตูก็ถูกเปิดเข้ามา ชายฉกรรจ์ร่างสูงห้าคนยืนเป็นหน้ากระดาน มองไปยังเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ทั้งหมดนั้นไม่เปิดเผยใบหน้าที่แท้จริง สวมหน้ากากมายากลและหน้ากากสามเอ็มป้องกันสารเคมี

“กรี๊ด!!! ยะ…อย่าทำอะไรหนูเลย แค่กๆ”

“ฮ่าๆ ถ่ายคลิปเอาไว้ส่งให้ไอ้ริคดูด้วยนะพวกมึง”หัวหน้าของพวกมันหัวเราะอย่างสะใจ ในขณะที่เมลิซาปล่อยโฮพร้อมกับกำหมัดแน่นด้วยความคับแค้นใจ….

….เธออดรนทนรอไม่ไหว อยากจะส่งพวกมันลงนรกมากกว่าจะขึ้นสวรรค์ด้วยการเสพสมร่างกายของเธอ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel