3 ลูกสาวคนทรยศ[2]
“อยากไปไหนก็เชิญ”
“ค่ะ~”ไม่รู้ทำไมจู่ๆ ใจถึงไหวยวบถึงตาตุ่มหลังจากที่เขาตอบกลับมาเช่นนั้น เมลิซาเองก็เปิดประตูออกจากห้องนอนของชายหนุ่มในทันที
เมื่อมาถึงห้องนอนของตนเองเธอก็พยายามข่มตานอนให้หลับทว่ามันช่างยากเย็นเหลือเกิน พลันเปลือกตาบางปิดลงภาพในหัวก็ฉายชัดเข้ามานึกถึงใบหน้าคมคายที่โน้มต่ำประกบริมฝีปากหยักบนกลีบปากระเรื่อของเธอ
“งื้อ~ ทำไมต้องมาคิดถึงคุณริคด้วยเนี่ย”ถึงกับงอแงกับตัวเองบ่นพึมพำ เธอไม่เคยคิดเกินเลยกับผู้มีพระคุณอย่างริคาร์โด้เลย แต่ทำไมกันนะช่วงนี้หัวใจดวงน้อยถึงสั่นไหวทุกครั้งในยามใกล้ชิดกับเขา มิหนำซ้ำจุมพิตแผ่วเบายังคงสร้างความปั่นป่วนจนท้องน้อยวูบไหวสั่นสะท้านอย่างรอคอยบางอย่างที่เขาต้องเป็นผู้มอบให้
เมลิซาไม่เคยมีความรู้สึกเช่นนี้กับเพศตรงข้ามมาก่อนเลย ถึงอายุจะย่างเข้าสิบเก้าปีแต่เธอก็ไม่เคยลิ้มรสของความรักในเชิงชู้สาวกับใครมาก่อน…
…หรือเธอจะหลงรักเขาเข้าให้แล้ว จะผิดไหมนะหากเด็กผู้หญิงคนหนึ่งรักพ่อบุญธรรมในแบบที่คู่รักทั่วไปเขาทำกัน
เมลิซาลงมารับประทานอาหารเช้าเหมือนเช่นเคยปกติทุกวัน ทว่าวันนี้เธอไม่ได้ร่วมโต๊ะกับเขา เนื่องจากว่าริคาร์โด้ได้เดินทางไปยังประเทศบราซิลเพื่อร่วมร่องเรือสำราญกับเจ้าพ่อมาเฟียแห่งเมืองซุมบ้า(ราฟาเอล)
“อาหารไม่ถูกปากหรือคะคุณหนู?”มากาลิซเอ่ยถามเมื่อเห็นของโปรดที่เมลิซาชอบทานยังคงเหลือเต็มจาน
“เปล่าค่ะป้ามากาลิซ แต่เมลิซไม่ค่อยหิวเท่าไรคะ สงสัยเพราะเมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับด้วยน่ะค่ะ”
“แบบนั้นแย่เลยนะคะ คุณหนูต้องพักผ่อนให้เพียงพอนะคะ แถมวันนี้ต้องใช้ร่างกายในการเดินทางอีก”เอ็ดสาวน้อยด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ดูจากสีหน้าวันนี้เมลิซาดูไม่สดใสเฉกเช่นทุกวันเท่าไรก็ทำให้นึกกังวลเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพไม่ได้
“คุณริคไปบราซิลกี่วันคะป้ามากาลิซ?”
“ป้าเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน จู่ๆ ก็เห็นขบวนบอดี้การ์ดเต็มคฤหาสน์เมื่อตอนเช้ามืด เหมือนไม่มีแพลนการเดินทางตั้งแต่เนิ่นๆ มาก่อน”มากาลิซเองก็นึกแปลกใจกับการเดินทางอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยของมาเฟียหนุ่ม เหมือนกับว่ามีธุระสำคัญจนต้องไปแบบกระทันหัน
“อ๋อค่ะ~ เมลิซไปแล้วนะคะป้ามากาลิซ”ขยับตัวลุกจากเก้าอี้ เมื่อถึงเวลาที่เธอต้องเดินทางไปไฮสคูลเพื่อขึ้นรถบัสพร้อมกับเพื่อนๆ ต่างชาติ
“คุณหนูต้องการอะไรเพิ่มเติมไหมคะ? ป้าจะได้จัดใส่กระเป๋าให้เพิ่ม”
“ไม่แล้วค่ะ ขอบคุณนะคะป้ามากาลิซ”เมลิซาตรวจสอบกระเป๋าเป้ใบใหญ่ที่เธอเตรียมไว้ก่อนลงมาทานอาหารก็แน่ใจแล้วว่าไม่ต้องการอะไรเพิ่มเติมอีกจึงเอ่ยตอบกับป้ามากาลิซ
“ดูแลตัวเองด้วยนะคะคุณหนู~”
“ป้ามากาลิซวางใจเลยค่ะ มีการ์ดตามไปคุ้มกันตั้งสองคน”
“ป้าอดเป็นห่วงไม่ได้หรอกค่ะคุณหนู”
“โอเคค่ะ~ เมลิซจะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี และจะไม่ไว้ใจคนแปลกหน้าเด็ดขาดค่ะ”เพราะนี่คือสิ่งที่ริคาร์โด้กับป้ามากาลิซปลูกฝังบอกเธอตั้งแต่ออกไปใช้ชีวิตนอกคฤหาสน์ ไม่ให้พูดคุยกับคนแปลกหน้าหรือไว้ใจใครหน้าไหนทั้งนั้นแม้กระทั่งบอดี้การ์ดที่ทำงานให้กับองค์กรของเขา เพราะอาจจะมีหนอนบ่อนไส้ชอนไชอยู่ใกล้ตัว
เฮนรี่และไมค์ทำงานกับริคาร์โด้ถึงห้าปีมีหน้าที่ดูแลบุตรบุญธรรมสัญชาติไทย ปกติแล้วเมลิซาจะเพียงแค่ไปไฮสคูลหรือไม่ก็เดินห้างเล็กน้อยเท่านั้น ทว่าวันนี้เป็นครั้งแรกที่จะต้องออกนอกอาณาบริเวณเขตความปลอดภัยถึงสามวันทำให้พวกเขาทั้งสองจะไม่ประมาทในการอารักขาเด็กสาวตัวเล็กๆ ไปได้
“ไมค์แกว่าวันนี้จะมีไอ้นรกที่ไหนมาลอบยิงรถของคฤหาสน์ไหมวะ?”เฮนรี่เอ่ยถามเชิงขบขัน มีไม่บ่อยนักที่รถตู้เดินทางประจำคฤหาสน์จะถูกลอบสังหาร แต่ก็อย่างว่าพวกเขาทั้งสองจะประมาทหรือพลาดท่าไม่ได้เด็ดขาด
“ใครจะรู้วะ….ทำงานทุกวันนี้ก็มีเรื่องให้ตื่นเต้นทุกวัน”
“แต่ก็ยังดีที่ได้ทำหน้าที่ดูแลคุณหนูคนสวย นู้นไงคุณหนูเมลิซมาแล้ว”พอเห็นเมลิซาเดินพ้นประตูโถงออกมา บอดี้การ์ดทั้งสองก็จบบทสนทนาในทันที ไมค์มีหน้าที่ขับรถส่วนเฮนรี่ก็ต้องยืนคุ้มกันคุณหนูจนกว่าสาวเจ้าจะขึ้นไปนั่งเบาะหลังเรียบร้อย
เฮนรี่เปิดประตูรถขึ้นไปนั่งฝั่งคนขับข้างกับคู่หูคู่ซี้ที่กั้นระหว่างคนขับและห้องโดยสาร หลังจากที่ล้อรถเคลื่อนตัวออกจากคฤหาสน์เมลิซาก็หยิบหนังสือชีวเคมีขึ้นมาอ่านเพื่อฆ่าเวลาไปพลางๆ
รถเคลื่อนตัวบนแนวเขาสูงที่สุดแห่งกรุงโบโกตาเนื่องจากทำเลที่ตั้งของคฤหาสน์อยู่ในพื้นที่สูง ซึ่งทำให้เป็นจุดปลอดภัยสำหรับมาเฟียหนุ่มเพื่อส่องกล้องมองโดยรอบเมืองได้ตลอดเวลา และยังมีคนคุ้มกันทำงานยี่สิบสี่ชั่วโมง
ครืด~ ครืด~
‘หอบังคับการและตรวจสอบความปลอดภัย ทะเบียนรถ AA XXXX ที่เคลื่อนตัวออกจากคฤหาสน์ ได้ยินสัญญาณตอบกลับด้วย’เสียงเครื่องวิทยุสื่อสารดังขึ้น
‘ทะเบียนรถ AA XXXX กำลังเคลื่อนตัวไปยังไฮคูล เกิดอะไรขึ้นหอบังการ?’เฮนรี่ตอบกลับในขณะมองซ้ายแลขวา
‘พบความผิดปกติบนน่านฟ้า มีเฮลิคอปเตอร์กำลังมุ่งมาทางเนินเขาหกลำ คุ้มกันคุณหนูด้วยเราไม่แน่ใจว่าใช่ศัตรูหรือเปล่า’ถ้อยคำดังกล่าวของหอบังการจากคฤหาสน์ส่งผลทำให้เฮนรี่และไมค์มองหน้ากัน
“เอาล่ะไอ้ไมค์เหยียบ….”เนื่องจากว่าบังเหียนของริคาร์โด้มีการต่อรองกับทางรัฐไม่ให้มีสิ่งใดทางน่านฟ้าหรือมหาสมุทรในอาณาบริเวณมีเฮลิคอปเตอร์หรือเรือขนส่งที่เขตพื้นควบคุมของเจ้าพ่อมาเฟียแห่งกรุงโบโกตาผ่านมาได้
‘ขอกำลังเสริมในการคุ้มกัน เรากำลังมีแขกมาเยี่ยม’หลังจากที่ได้รับรายงาน ไม่ถึงสามนาทีก็มีคนกระโดดลงจากเฮลิคอปเตอร์พร้อมกันนับสิบคนโปรยตัวลงมาสู่พื้นดินในอีกไม่ช้า
ปัง! ปัง!!!
“เวรเอ๊ย!! มันโจมตีเราทุกทางเลยสินะ”ไมค์ที่เห็นเท่าไม่ดีจึงจะวนกลับไปยังคฤหาสน์ ทว่ากลับโดนโจมตีทันทีทางเนินเขา
“กว่ากำลังเสริมจะมา พวกมันได้ฆ่าเราแน่ไมค์”เฮนรี่เอ่ยบอก
“มันโจมตีเราทางดินและทางอากาศ แกพาคุณหนูหนีไปนั้นแล้วกันฉันคุ้มกันไว้ให้”
“กะ….เกิดอะไรขึ้นคะ!?”เมลิซาเปิดที่กั้นระหว่างคนขับลงเอ่ยถามบอดี้การ์ดที่มีสีหน้าตึงเครียด
“เราโดนโจมตีครับ ผมจะพาคุณหนูไปหลบที่ปลอดภัยก่อน”เฮนรี่ลงจากรถเพื่อรอรับเมลิซาให้ลงจากรถตู้ ถ้าหากอยู่เป็นเป้านิ่งเกรงว่าศัตรูจะลอบสังหารได้ง่ายดายอย่างน้อยก็มีสิทธิ์รอดจากการโจมตีโดยตรงได้ไม่มากก็น้อย
“ละ…แล้วจะหนีไปที่ไหน?”
“ผมยังไม่ทราบครับ แต่ตอนนี้เราต้องรีบแล้ว”เฮนรี่เปิดทางให้เมลิซาได้วิ่งตรงไปยังเบื้องหน้า โดยมีไมค์เฝ้าสังเกตการณ์และสกัดยิงศัตรูที่เผยตัวออกมา
เมลิซากอดกระเป๋าเป้ใบเล็กแนบอก เสียงปืนเริ่มดังสนั่นทำให้ขาเรียวเล็กถึงกับวิ่งต่อไปไม่ได้ ความหวาดกลัวเข้าครอบงำแววตาสั่นระริกมองซ้ายแลขวาดูมืดมนไปหมด
“คุณหนู!”เฮนรี่เห็นคนตัวเล็กโอนเอนก็วิ่งเข้าไปรับร่างในทันที ถือวิสาสะอุ้มเมลิซาแนบอก หันมองไมค์ที่กำลังตอบโต้อีกฝ่ายเมื่อมีการเคลื่อนไหว เขาเองก็ต้องเร่งฝีเท้าออกจากตรงนี้เช่นกันเพื่อไปถึงกำลังเสริมได้เร็วที่สุด
