3 ลูกสาวคนทรยศ[4]
สิบสี่ชั่วโมงในการตามหาตัวเมลิซายังไม่พบร่องรอยใดๆ นอกจากสถานที่เกิดเหตุมีรอยกระสุนเกิดจากการปะทะกันด้วยกระสุน เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ไมค์และเฮนรี่ไม่สามารถยิงสกัดศัตรูที่มีมากกว่าถึงสามเท่าได้ ทั้งสองได้รับบาดเจ็บสาหัสจนทนพิษบาดแผลไม่ไหว จึงสละลมหายใจเอาไว้ในหน้าที่
“จากการสำรวจทางเรือและเครื่องบิน ไม่พบความผิดปกติใดๆ ที่ทำให้เป็นข้อสันนิฐานว่าพวกมันจะลักพาตัวคุณหนูออกจากประเทศนี้ ผมคาดว่าพวกมันอาจจะกบดานอยู่ที่โคลัมเบียครับ”
“กูไม่อยากได้ข้อสันนิฐาน กูอยากรู้ว่าเมลิซอยู่ที่ไหน โคลัมเบียแคบนิดเดียวทำไมพวกมึงยังหาเธอไม่เจอ!!!”ริคาร์โด้ใจไม่แน่นิ่ง เดือดดาลกระวนกระวาย สิบสี่ชั่วโมงนับตั้งแต่กลับมาถึงโคลัมเบียเขาก็ยังไม่หยุดตามหาเมลิซา
ครืด! ครืด!!
สมาร์ตโฟนที่อยู่ในโหมดสั่นของริคาร์โด้แจ้งเตือนจนชายหนุ่มต้องหยิบขึ้นมาดู แอพพลิเคชั่นไลน์มีการแอดเพื่อนเข้ามาทั้งที่เขาไม่เคยให้เบอร์ติดต่อส่วนตัวกับใครนอกจากราฟาเอลกับราจีฟที่เป็นเพื่อนสนิท
Noname…
No Name : Add Friend
No Name : ส่งรูปภาพ
“เมลิซ!!”รูปภาพที่ถูกส่งมาทางแอพพลิเคชั่นไลน์ คือบุคคลที่เขาและลูกน้องกำลังดำเนินการตามหาแทบพลิกแผ่นดินโคลัมเบียเพื่อหาเธอ ใบหน้าฟกช้ำและมีเลือดติดมุมปากทำให้ริคาร์โด้กัดกรามแน่น ไอ้เดนนรกพวกนั้นมันทำร้ายกล่องดวงใจของเขาให้เจ็บปวด
“ไอ้เชี้ยเอ๊ย!! กูจะฆ่าพวกมึง”ตะโกนดังลั่นอย่างแค้นเคืองเจ็บใจ ขอแค่เธอมีชีวิตอยู่เขาก็รู้สึกใจชื่นขึ้นมานิด ทั้งที่หัวสมองจินตนาการไปไกลถึงขั้นว่าสาวน้อยอาจจะโดนไอ้พวกระยำนั่นทำมิดีมิร้าย แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นเขาก็ไม่รังเกียจเมลิซา ตรงกันข้ามเขาจะอยู่เคียงข้างกุมมือเธอไว้และกางปีกป้องป้องความรู้สึกทั้งหมดของเธอเอง
‘คุณริคขา~ อึก…ช่วยเมลิซด้วย เมลิซกลัว~’
จู่ๆ เสียงของเธอก็ดังในโสตประสาทของเขา คราวนี้เขาไม่รอให้ถึงมือลูกน้องคนสนิท จัดการเจาะหาพิกัดสัญญาณมือถือของฝั่งศัตรูด้วยตัวของเขาเอง
“จาโร! ไปที่สุสานเรือขนส่ง”
“เอ่อ….คุณริคชี้พิกัดแน่ชัดแล้วนะครับ?”ถามย้ำผู้เป็นนายเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง
“จะถามหาพระแสงอะไรนักหนาวะ!”สบถลูกน้องคนสนิทก่อนจะโยนสมาร์ตโฟนให้กับจาโร จนคนที่นั่งข้างคนขับแทบจะรับเครื่องมือสื่อสารของเจ้านายไว้ไม่ทัน
“คะ….ครับ พิกัดล่าสุดสุสานเรือขนส่ง ไปพร้อมกันที่นั่นภายในสิบนาที”จาโรเห็นข้อความแชทในห้องส่วนตัวจากบุคคลไม่รู้จัก มีเพียงภาพถ่ายที่มองแล้วอยากจะฆ่าคนที่ทำอะไรสิ้นคิดเช่นนี้ หึ!! ทำร้ายเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งได้พวกมันยิ่งกว่าใจหมาอีก ไม่ต้องมองสีหน้าของมาเฟียหนุ่มก็รู้ว่าตอนนี้อารมณ์ร้อนไม่ต่างจากเพลิงไฟที่สามารถเผาทุกอย่างให้มอดไหม้เป็นจุน
“กูจะฆ่าพวกมันให้หมด!!”เข่นเคี้ยวเขี้ยวฟันพูด ริคาร์โด้สาบานกับตัวเองว่าเขาจะสังหารพวกมันด้วยปืนที่เขาถือและลั่นไกมันด้วยตัวเอง ถ้าหากพวกมันกล้ากระดุกหนวดเสือ มีหรือที่สัญชาตญาณนักล่าจะนอนให้แน่นิ่งไม่ไหวติ่งใดๆ
สุสานเรือขนส่งทางทิศเหนือของโคลัมเบียติดกับทะเลแคริบเบียนซึ่งโกดังในพื้นที่ดังกล่าวถูกปล่อยให้ร้างไม่มีนักธุรกิจเขามาแทรกแซงเพื่อปรับปรุงและบริหาร
ตอนนี้ลูกน้อยนับสามสิบคนกำลังตรวจสอบพื้นที่ภายในลานโกดังจนทั่ว น่าแปลกใจที่กลับไม่พบผู้ใดอยู่เลย แม้กระทั่งศัตรูฝ่ายตรงข้ามที่ลักพาตัวเมลิซา
“คุณริคครับ…ผมว่ากลิ่นมันแปลกๆ ทำไมที่นี่กลับไม่พบความผิดปกติอะไรเลย”
“ฉันมั่นใจว่าต้องเป็นที่นี่แน่”ริคาร์โด้กำลังมองสภาพแวดล้อมรอบข้างสังเกตการณ์เผื่อพบความปกติ แต่ทุกอย่างเงียบสงัดจนน่าหวั่นเกรงว่าเมลิซาจะไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว มีเพียงความเคลื่อนไหวของฝีเท้าบอดี้การ์ดของเขานับสามสิบกว่าชีวิต
“คุณริคครับ ตู้คอนเทรนเนอร์ถูกดัดแปลงเป็นห้องหนึ่งตู้ครับ”รายงานจากทีม B ทำให้ริคาร์โด้มุ่งตรงไปยังพื้นที่ที่กำลังถูกสำรวจอย่างละเอียด เนื่องจากที่นี่เป็นสุสานเรือขนส่งร้างก็จะมีซากเรือและตู้คอนเทรนเนอร์นับร้อยกว่าตู้ที่ยังสำรวจไม่ครบ
ตู้คอนเทรนเนอร์ดังกล่าวหากมองภายนอกไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ เหมือนไม่มีอะไร ทว่ามันกลับมีควันรั่วซึมออกมาจนต้องหาช่องทางที่คาดว่าเป็นจุดที่มีช่องโหว่
“กลิ่นนี้มัน…”ริคาร์โด้ได้กลิ่นสารอันตรายก็ถึงกับยกท่อนแท่นขึ้นปิดจมูกเอาไว้เพื่อให้ได้รับสารเคตามีนที่เขารู้ประสิทธิภาพของมันดี และรู้ว่ามันคือสารเสพติดอันตราย
“เปิดประตู!”ปึง! ปึง…สิ้นเสียงคำสั่งตู้ที่ถูกดัดแปลงเป็นห้องก็ถูกเปิดออกกว้าง ส่งผลทำให้ควันมากมายลอยฟุ้งกระจายกับมวลอากาศภายนอก
แค่ก! แค่ก!!!
ทันทีที่ควันตีกระทบกับลมหายใจของริคาร์โด้และเหล่าบอดี้การ์ดก็สำลักออกมา จาโรยื่นหน้ากาก 3D ที่มีในกระเป๋าเสื้อสูทให้ผู้เป็นนาย
“เมลิซ!”ทันทีที่แสงสว่างส่องผ่านเข้าไปในตู้คอนเทรนเนอร์ เขาก็เห็นร่างบอบบางนอนแน่นิ่ง หัวใจดวงแกร่งไหวยวบเมื่อเห็นเสื้อผ้าท่อนบนฉีกขาดไม่ต่างจากเศษผ้า
“พวกมึงหลับตาเดี๋ยวนี้!!”ริคาร์โด้ถอดสูทคลุมร่างเธอก่อนที่ลูกน้องของตนจะเห็นนวลเนื้อขาวผ่องมากไปมากกว่านี้ พลันกลิ่นคาวเลือดแตะจมูกจนต้องมองหาต้นเหตุ มาเฟียหนุ่มผงะด้วยความตกใจเมื่อเห็นชายของชายฉกรรจ์นอนแน่นิ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก
“สำรวจที่นี่ให้ทั่ว...ข้างในมีศพอยู่ด้วย น่าจะเป็นพรรคพวกของมัน หาที่เหลือให้พบ...และจำกัดทิ้งได้เลย”ไอ้พวกสวะที่มันสร้างตราบาปแก่เมลิซาเขาจะไม่ปล่อยเอาไว้ ดวงหน้างามเปรอะเปื้อนคราบดินและหยาดน้ำตา ทว่าสิ่งที่บีบหัวใจมาเฟียหนุ่มจนแทบแตกสลายเมื่อเห็นรอบฟกช้ำที่ฉีกแก้มนวลแดงก่ำ….
….ไอ้พวกระยำพวกนั้นมันทำร้ายผู้หญิงตัวเล็กๆ ได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ สายตาไล่ต่ำก้มมองไปยังเสื้อที่ถูกฉีกกระชากเห็นรอยนิ้วมือที่เกิดจากแรงบีบลำคอระหง ไม่เพียงแต่อาภรณ์ด้านบนที่ขาดวิ่นทว่าซับในก็ถูกปลดออกจนเผยให้เห็นหน้าอกอวบนูนที่ประดับเม็ดทับทิมสีสวย
พวกมันทำร้ายเธอขนาดนี้เชียวหรือเมลิซ~
บดกรามแน่นข่มอารมณ์ขุ่นเคืองเอาไว้ในลึกที่สุด ร่างกายอันแสนบอบช้ำรักษาไม่นานก็หาย ทว่าจิตใจของเธอต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนกว่าจะเยียวยาให้กลับมาสดใสอีกครั้ง
Bogotá Hospital
เมลิซาได้รับสารโคลนาซีแพม(ยานอนหลับ)และเคตามีน(สารเสพติดชนิดหนึ่ง)เป็นจำนวนมาก แต่สิ่งที่ทำให้ริคาร์โด้อยากจะขอบคุณพระเจ้ามากที่สุดนั่นก็คือพวกมันไม่ได้กระทำชำเราร่างกายของเธอ ข้อสันนิษฐานต่อไปที่ทำให้มาเฟียหนุ่มสงสัยนั่นก็คือเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ศัตรูที่ลงมือลักพาตัวเมลิซาหายไปอย่างลึกลับ พบเพียงร่างไร้วิญญาณเพียงหนึ่งเดียว ส่วนที่เหลืออยู่ไหนกันแน่ แล้วหากพวกมันจะฆ่าหรือกระทำชำเราร่างกายของเมลิซาทำไมเจ้าหล่อนถึงมีชีวิตรอดเป็นสิบชั่วโมง
รอยฟกช้ำตามร่างกายปรากฏให้เห็นเด่นชัดว่าเกิดจากการโดนทำร้าย ริคาร์โด้ถือวิสาสะปลดกระดุมชุดโรงพยาบาลที่เมลิซาสวมใส่ออกทีละเม็ด ดวงตาคมเฉียบกวาดสำรวจมองหาบาดแผลเพิ่มเติม ทว่าใจเจ้ากรรมดันสั่นระรัวด้วยความรู้สึกบางอย่างตีแพร่เข้ามาในกระแสเลือดจนแล่นพล่านไปทั่วสรรพางค์กายหนุ่ม
“แม่งเอ๊ย!! ทำไมฉันต้องรู้สึกแบบนั้นกับเธอนะเมลิซ”สมองพยายามไตร่ตรองถึงความสมควรและความเหมาะสม ทว่าเขาก็ไม่สามารถละสายตาจากดอกบัวคู่งามที่มีเกสรประดับชูชันยั่วจนน้ำลายสอ
“งื้อ~ ชะ…ช่วยด้วย แด๊ดดี้ช่วยเมลิซด้วย”ภาพความจำอันแสนโหดร้ายยังคงตราตรึงในหัวของเธอ เมลิซาลืมตาตื่นขึ้นด้วยความกลัวสุดขีด
“เมลิซ!”ริคาร์โด้รู้สึกตกใจไม่น้อยที่จู่ๆ เจ้าหล่อนก็สะดุ้งตื่นทั้งที่เขายังไม่ติดกระดุมเสื้อให้แก่เธอ มาเฟียหนุ่มแก้เก้อด้วยการเสยผมตัวเองและขยับปลายเท้าให้ห่างจากเตียงผู้ป่วย
“ออกไป! อึกๆ คะ…คุณริคขา~ ช่วยเมลิซด้วย”เมลิซาดีดตัวนั่งบนเตียงกอดตัวเองด้วยความหวาดระแวง ดวงตาเลื่อนลอยมองไปยังเบื้องหน้าเห็นภาพชายร่างหนาหลายคนกำลังหัวเราะรวนอย่างสะใจ
“เมลิซ….นี่ฉันเอง คุณริคของเธอไง”
“กรี๊ด!! ออกไปนะ อย่าเข้ามา”ริคาร์โด้เห็นท่าทีคลุ้มคลั่งอาละวาดซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เมลิซาไม่เป็นมาก่อน ก็รับรู้ได้ในทันทีว่าผลข้างเคียงของสารเสพติดทำให้เด็กสาวเกิดภาพหลอนทั้งที่ตอนนี้มีเพียงเขาที่อยู่ตรงหน้าเธอ
“เมลิซ~ ตั้งสติ…นี่ฉันเอง”
“กรี๊ด!! ช่วยด้วย ออกไปนะ!”เมลิซากรีดร้องก่อนจะตวัดขาก้าวลงจากเตียง ส่งผลทำให้เข็มน้ำเกลือที่ปักหลังข้อมือหลุดออก ริคาร์โด้กระโจนกอดร่างแน่งน้อยเอาไว้
“เมลิซนี่ฉันเอง”
“เกิดอะไรขึ้นครับนาย?”บอดี้การ์ดที่ยืนเวรหน้าห้องพักฟื้นพิเศษเปิดประตูเข้ามาดูว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นภายใน
“ตามหมอมาเร็วเข้า!!”เห็นท่าไม่ดีที่จะปล่อยให้เธอคลุ้มคลั่งและอาละวาดมากไปกว่านี้ ริคาร์โด้รู้ดีว่าเธอกำลังเผชิญกับภาพหลอนต่างๆ ที่ทำให้เจ้าหล่อนต่อต้านทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเธอแม้กระทั่งเขาเอง
“ปล่อย อึกๆ ยะ...อย่าทำร้ายหนูเลย กรี๊ด!!”
“จะไม่มีใครทำร้ายเธอเมลิซ ฉันอยู่ตรงดี ชู่ว!!...เด็กดีนิ่งซะนะ”ปลอบประโลมคนตัวเล็กด้วยเสียงนุ่มนวล ฝ่ามือหนาก็ลูบศีรษะเล็กเบาๆ อย่างทะนุถนอม ท่อนแขนอีกข้างก็โอบรัดร่างบางเอาไว้ให้เธอรู้สึกปลอดภัยในอ้อมกอดของเขา
“งื้อๆ ยะ...อย่าทำร้ายหนู อึกๆ หนูไม่รู้อะไรจริงๆ”
“...”ริคาร์โด้ถึงกับนิ่งชะงัก เธอกำลังหลุดพูดอะไรออกมาหรือเปล่านะ บางทีนี่อาจจะเป็นโอกาสดีที่เขาจะเค้นหาคำตอบสิ่งที่ค้างคาใจเขามาถึงสี่ปีก็อาจเป็นไปได้
“แด๊ดดี้ไม่ได้หักหลังใคร...เขามีเหตุผลต่างหาก”เมลิซาโพล่งขึ้นมาทีละประโยค ราวกับว่าคำถามเหล่านั้นดังในหัวตลอดเวลาจนเธอต้องค้านออกมาเป็นคำพูด
“เธอรู้เหตุผลไหมเมลิซ?”ค่อยๆ ต้อนเหยื่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบ และคาดหวังว่าเมลิซาจะไขทุกอย่างให้เขาในตอนนี้
“หนูไม่รู้....เขาสวมหน้ากาก”
“เธอรู้จักชื่อหรือเปล่าเมลิซ”ริคาร์โด้ยังคงเดินหน้าต่อ เขาแทบอยากจะหาอะไรมาง้างปากให้เธอคายคำตอบที่เขาอยากจะรู้นักรู้หนาออกมาเสียตอนนี้เลย
“กรี๊ด!! มันจะฆ่าหนู ฮื้อๆ ช่วยด้วย...”
“ไม่มีใครทำร้ายเธอ ฉันอยู่ตรงนี้นิ่งซะนะ ชู่ว!! ไม่เป็นไรฉันอยู่ตรงนี้”เสียงสะอื้นสะอึกไห้ในอกทำริคาร์โด้ไม่สามารถจะตั้งคำถามอะไรกับเธออีกต่อไป มาเฟียหนุ่มจัดการใส่กระดุมเสื้อโรงพยาบาลของเธอให้มิดชิดปกปิดทรวงอกสล้าง เมื่อฉุกคิดได้ว่าอีกไม่นานหมอก็จะเข้ามาในห้องนี้
“ขออนุญาตครับคุณริค”บอดี้การ์ดยืนยามเปิดประตูให้หมอได้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่
“ยะ...อย่าเข้ามา อึกๆ อย่าทำร้ายหนู”เมื่อเห็นมีผู้มาเยือนใหม่เมลิซาก็ดีดดิ้นต่อต้านอีกครั้ง ริคาร์โด้ทำได้เพียงโอบกอดเธอเอาไว้เพราะเกรงว่าเธออาจจะทำร้ายตัวเองหรือทำลายข้าวของไปมากกว่านี้
สายตาก็ไปสะดุดกับหยาดเลือดที่ไหลจากหลังมือบอบบางเนื่องจากสายน้ำเกลือหลุดออก ส่งผลทำให้เจ้าหล่อนเกิดอาการบาดเจ็บอีกครั้ง ในร่างกายเธอมีสารเสพติเป็นจำนวนมาก เจ้าหล่อนไม่ได้เพียงแต่จะได้รับมันผ่านสูญอากาศเท่านั้น แต่ว่าไอ้พวกระยำมันยังฉีดเข้ากระแสเลือดเธออีกต่างหาก
“ยืนทำบื้ออะไร...จะทำอะไรก็รีบทำ”เสียงเข้ามตวาดหมอที่ยังคงยืนนิ่งแต่ไม่ยอมเข้ามาดูอาการของเมลิซา เขารู้วิธีรักษาของหมอดีว่าตอนนี้ทำได้เพียงฉีดยานอนหลับเพื่อไม่ให้เธอคลุ้มคลั่งมากไปกว่านี้
เขาอยากจะตามฆ่าพวกมันทุกคนที่ทำให้เมลิซาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ มาเฟียหนุ่มแห่งกรุงโบโกตาจะไม่ยอมปล่อยให้ศัตรูมุดหัวอยู่ในรูได้นาน เชื่อว่ามันคงรอต่อไปไม่ได้เพราะเริ่มมีการเคลื่อนไหวอย่างจู่โจมไม่เกรงกลัวอำนาจมืดที่เลื่องลือไปถึงบังเหียนของราฟาเอล...
...ถึงเวลาที่จะลากคอมันออกมาถลกหนังแล้วเอาเกลือทาแล้วสินะ
