3 ลูกสาวคนทรยศ[1]
ถึงแม้นว่าเมลิซาจะเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์ฐานะบุตรบุญธรรมของริคาร์โด้ ก็ยังคงหนีความจริงไม่พ้นว่าเธอคือลูกสาวคนทรยศที่เขามั่นใจเสียเต็มประดาว่าเธอต้องเป็นหมากสำคัญในการตามหาคนที่ต้องการโค่นธุรกิจมืดของเขาให้ทำงานติดขัดไปหมด
ไม่ใช่เพียงเขาแต่ทั้งราฟาเอลและราจีฟเช่นกัน ทุกคนต้องส่งสินค้าให้แก่กันเพื่อทำให้เป็นระบบขององค์กร คนหักหลังพวกเขาไม่ใช่น้อยแต่ส่วนมากจะถูกกำจัดทิ้งในทันที เนื่องจากมาร์โคคือลูกน้องมือดีทั้งไหวพริบและการสังหารทำให้ไว้ใจบริหารจัดการระดับต้นๆ ขององค์กร แน่นอนว่าหากความลับรั่วไหลหรือเกิดการตลบหลังเกิดขึ้นผลเสียตามมาไม่ใช่แค่มูลค่าของตัวเงินเท่านั้น แต่หมายความว่าระบบการจัดการองค์กรภายในเช่นกัน
น่าเจ็บใจตรงที่ว่าใครกันนะชักจูงให้มาร์โคทำเรื่องไม่น่าให้อภัย มิหนำซ้ำยังยอมปลิดลมหายใจตัวเองเพื่อตายไปพร้อมกับความลับที่พวกเขาต้องตามไขปริศนาอย่างยาวนานมาถึงห้าปี
“มุดหัวอยู่ที่ไหนกัน!! เมื่อไรแกจะเผยตัวออกมาสักที!! ฉันจะฆ่าแกด้วยมือของฉันเองไอ้ขี้ขลาด”บดกรามด้วยความคับแค้นใจ หรือบางทีเมลิซาอาจจะไม่ใช่กุญแจดอกสำคัญของเรื่องนี้ นั่นก็แสดงว่าเขาเลี้ยงลูกของคนทรยศให้เติบโตภายใต้ปีกบังเหียนของเขาสินะ
นั่นไม่ใช่ประเด็นหลักแล้วในตอนนี้ ลูกสาวคนทรยศเติบโตเป็นสาวสะพรั่งไม่ต่างจากดอกไม้งามที่เบ่งบานส่งกลิ่นหอมโชย และเขาก็เป็นมนุษย์เพศที่รัก โลภ โกรธ หลง และมีตัณหาอารมณ์ตามสัญชาตญาณ เมลิซาไม่ได้เกิดมาจากท้องมารดาเดียวกันกับเขา ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ ทางสายเลือด มีหรือที่บางครั้งเขามีความคิดต่ำช้าอยากจะจับเจ้าหล่อนขย่มบนเตียงจนสั่นสะท้านไหวด้วยราคะร้อนที่สุมคับอกจนกระตุ้นให้กึ่งกลางร่างแข็งขึงพร้อมตะบี้ตะบันกายบอบบางให้หนำใจนัก
ก๊อก! ก๊อก!!
“คุณริคขา~ นอนหรือยังคะ?”เสียงเคาะประตูห้องนอนในกลางดึกดังขึ้นดึงริคาร์โด้ให้ออกจากภวังค์ความคิดต่างๆ ที่ตีแพร่เต็มหัวไปหมด
“มีอะไรก็พูดมา”เสียงเข้มเปล่งถาม โดยไม่เปิดประตูห้องนอนให้เธอได้มีโอกาสเข้ามาด้านใน
“เปิดประตูให้เมลิซหน่อยได้ไหมคะ?”
“ถ้าไม่ใช่ธุระสำคัญเอาไว้ค่อยคุยกันพรุ่งนี้”เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหล่อนใกล้ชิดกับเขาในตอนนี้จึงเอ่ยปัด อันตรายสำหรับเมลิซาในวันนี้หากเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของเขาในยามราตรีกาล
“สำคัญมากค่ะ เมลิซต้องคุยตอนนี้เลย ไม่งั้นเมลิซจะไม่ยอมนอน”ดื้อด้านไม่ยอมกลับไปยังห้องนอนหากไม่ได้คุยกับเขาเรื่องสำคัญ ถึงแม้ว่าเธอจะกลัวเขาดุก็เถอะ แต่เมลิซาก็มีมุมที่เอาแต่ใจหากไม้ได้ดั่งที่ปรารถนาเธอก็จะหน้าบูดบึ้งและงี่เง่าเป็นที่สุด
“ก็แล้วแต่เธอ อยากยืนอยู่หน้าห้องฉันก็เชิญ แต่พรุ่งนี้ฉันจะจับเธอขังห้องมืด”
“งื้อ!! ไม่อ้าววว...เปิดประตูให้เมลิซหน่อยสิคะ”ไม่ว่าเปล่ามือยังทุบไปยังประตูห้องเขาถี่ขึ้น
“ดื้อจังวะ!! หนวกหูชะมัด!!!”สบถด้วยความรำคาญก่อนจะตวัดขาลงจากเตียงสาวเท้ายาวเดินไปเปิดประตูห้องด้วยความหงุดหงิดแทบจะบีบคอคนตัวเล็กให้ตายคามือก็ว่าได้
“อุ้ย!! จะเปิดก็ไม่บอก”แรงกระแทกลูกบิดจากด้านในทำให้คนที่ทิ้งน้ำหนักตัวไปข้างหน้าถึงกับเซล้มไปกับแรงโน้มถ่วงโลก ดีที่ร่างหนาเป็นยึดหลักทำให้เธอคว้าไหล่เขาไว้ได้ทัน
“อยากตายนักหรือไงถึงทำให้ฉันหงุดหงิดได้ขนาดนี้!!”
“เมลิซมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วยนี่น่า~”น้ำเสียงอ่อนลงเมื่อเห็นอารมณ์ฉุนเฉียวของอีกฝ่าย
“พูดมา…ฉันจะได้ไปนอน”ริคาร์โด้ผละออกห่างจากประตูห้องนอน ส่งผลทำให้เมลิซาเดินผ่านธรณีประตูเข้ามาในห้องได้อย่างง่ายดาย ถึงแม้นว่ามาเฟียหนุ่มจะไม่ชอบให้ใครมาลุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวก็เถอะ….แต่เธอคือข้อยกเว้น
“พรุ่งนี้ทางไฮสคูลมีกิจกรรมตั้งแคมป์นอกสถานที่ให้กับนักเรียนต่างชาติในระดับเกรดสิบสอง เมลิซจะบอกว่าพรุ่งนี้เมลิซไม่อยู่นะคะ”
“ฉันไม่อนุญาต!”เสียงเด็ดเดี่ยวตอบกลับ
“ตะ…แต่ว่ามันเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่มีผลต่อคะแนนการเรียนนะคะ”
“ฉันไม่สน และไม่ให้ไปเด็ดขาด”มีอย่างที่ไหนกันให้นักเรียนต่างชาติไปตั้งแคมป์นอกสถานที่ และที่แน่ๆ นั่นคือความไม่ปลอดภัยสำหรับเธอ มิหนำซ้ำเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อไม่ควรออกไปข้างแรมกันที่อื่น
“ทำไมล่ะคะ?”
“อยากไปนอนค้างที่อื่นนักหรือไงกัน ยิ่งมีผู้ชายด้วยอยากไปมากนักหรือไง”
“ไม่ใช่อย่างที่คุณริคคิดนะคะ เมลิซแค่ไปทำกิจกรรมร่วมกันกับเพื่อนๆ เท่านั้น ไม่ได้ไปนอนข้างกับผู้ชายสักหน่อย”เธอพยายามอธิบายให้เขาเข้าใจ
“ฉันไม่ให้เธอไป! คะแนนตกก็ช่างหัวมันสิ!!”
“ไม่ได้นะคะ…คะแนนเมลิซไม่เคยตกเลย”เมลิซายังคงคัดค้านกับคำตอบของเขาที่ไม่ยอมให้เธอออกไปทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ นอกสถานที่เลยสักครั้งเดียว
“อย่าดื้อกับฉันนะเมลิซ! หรือเธอจะไปนอนกับผู้ชายอย่างงั้นหรือ!”ด้วยความหงุดหงิดระคนขัดใจที่เมลิซาดื้อด้านขัดคำสั่งของเขา จินตนาการไปถึงว่าเมลิซานอนซบอกผู้ชายคนอื่นถึงแม้นจะอ้างว่าเป็นเพื่อนสนิท
“แต่เมลิซมีเหตุผลนะคะ”
“เธอไม่มีเหตุจำเป็นต้องไปตั้งแคมป์บ้าๆ อะไรนั่น ไม่ต้องพูดว่าเธอมีเหตุผลเพราะมันไม่มี!!”
“คุณริคนั่นแหละไม่มีเหตุผล!!!”
“ยายเด็กนี่!!”ริคาร์โด้แทบอยากจะบีบคอสวยๆ ให้หักคามือนัก เถียงคำไม่ตกฟาก มันน่าฟาดก้นหลายๆ ครั้งนัก ทว่าเขาทำได้เพียงบีบไหล่มนแน่นระบายความเกรี้ยวกราดเท่านั้น
“โอ๊ย!! มะ…เมลิซจะ…เจ็บ”คนตัวเล็กพยายามสลัดตัวเองให้หลุดจากพันธการของเขา ทว่าฝ่ามือหนาที่บีบช่วงไหล่เธออยู่นั่นกลับไม่ยอมปล่อยให้เธอได้เป็นอิสระ ยิ่งเธอขยับกายดิ้นเร่ามากเท่าไรเขาก็ยิ่งเพิ่มแรงขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
“คราวนี้ยังอยากจะไปอีกไหม!?”เข่นเคี้ยวเขี้ยวฟันถามก่อนจะคลายแรงบีบออกจากไหล่บอบบาง ใบหน้าอาบน้ำตาของเธอทำให้ริคาร์โด้ยอมใจอ่อนปล่อยเมลิซาให้เป็นอิสระ
“อึกๆ ฮื้อๆ เมลิซจะ…เจ็บ”เสียงสะอื้นไห้ร้องโฮทำให้นิ้วแกร่งเอื้อมไปเกลี่ยแก้มนวลที่อาบไปด้วยน้ำตา
“หยุดร้องซะเมลิซ”เขาเกลียดน้ำตาผู้หญิงเป็นที่สุด และไม่ชอบเห็นเมลิซาร้องไห้ สายตาคมมองจมูกรั้นเล็กที่แดงก่ำเนื่องจากเธอร้องไห้อย่างนักก่อนจะไล่มองไปยังปากจิ้มลิ้มที่ขยับไหวตามแรงสะอื้นไห้ นิ้วแกร่งไล้สัมผัสปากบางเกลี่ยสัมผัสเบาๆ พานลอบกลืนน้ำลายสอลงคอ
“งื้อๆ เม…ลิซไม่รัก ฮื้อๆ คุณริคแล้ว~”
“ได้ไงกันเล่า…รักฉันเหมือนเดิมน่ะดีแล้ว”ให้ตายเถอะ! เขาอยากบดขยี้กลีบปากระเรื่อให้บวมเจ่อกว่าเดิมนัก ริคาร์โด้ไม่ชอบการจูบกับผู้หญิงสักเท่าไร ถึงแม้ว่าจะมีเซ็กส์ด้วยกันก็เถอะเขาไม่ชอบให้พวกหล่อนใช้ปากสัมผัสส่วนอื่นของร่างกายนอกเสียจากท่อนเอ็นไร้กระดูกเบื้องล่าง
“ไม่รักแล้ว ต่อจากนี้เมลิซจะ….อืม~”พูดไม่ทันจบประโยคตัดพ้อ ริมฝีปากหยักก็ประกบลงปิดปากระเรื่อ ด้วยความตกใจทำให้เมลิซาเผลอเปิดปากรับจุมพิตของเขาเอาไว้
ริคาร์โด้ผละออกจากกลีบปากระเรื่อด้วยความรวดเร็วทันทีที่เรียกสติตัวเองกลับมา ตัดภาพไปที่เมลิซากำลังเคลิบเคลิ้มกับจูบครั้งแรกในชีวิต
“กลับห้องไปได้แล้ว ฉันจะนอน”
“คะ…คุณริคให้เมลิซไปตั้งแคมป์แล้วใช่ไหมคะ?”เมลิซาลูบท้ายทอยตัวเองเล็กน้อยแก้เก้อเหตุการณ์เมื่อครู่
