ตอนที่ 4 ชื่อมะปราง ไม่ใช่นกหวีด!
“แต่ว่า”
“จะเอาไหม กุญแจห้องน่ะ”
เธอเดินตามเขาไปที่รถสปอร์ตหรู แต่พอมานึกดูอีกที เพื่อนเธอบอกว่าเขาเป็นลูกชายเจ้าของบริษัทรถหรูนี่นา เมื่อเดินไปถึงเขาก็กดกุญแจปลดล็อกทันที
“ขึ้นไปสิไม่ต้องกลัว พี่ไม่เอาเราไปขายหรอก ถึงจะรูปร่างดีหน้าตาน่ารัก แต่ก็…”
“หยาบคาย!”
เขายกพวงกุญแจกระต่ายขึ้นมา นั่นยิ่งทำให้เธอโกรธจนหน้าแดง แต่กลับทำให้ตะวัน รู้สึกอยากแกล้งเธอมากขึ้นไปกว่าเดิม
“ขึ้นรถสิ ถ้าไม่ไปตอนนี้จะสายจริง ๆ แล้วนะ ได้ข่าวว่าที่คณะถ้าไปสาย จะถูกตัดคะแนนความประพฤติด้วยนี่ อย่าเสี่ยงจะดีกว่า”
มะปรางยอมขึ้นรถไปทันที เธอตั้งใจปิดประตูด้วยเสียงที่ดังเกินปกติ จนคนที่ยืนอยู่ ถึงกับหลับตาและขำออกมา
“ช่างรุนแรง จนน่าจะจับไปทำอย่างอื่นจริง ๆ”
เมื่อเขาสตาร์ทรถและเริ่มขยับเกียร์ เธอก็อดไม่ได้ที่จะแอบกลืนน้ำลาย เขาไม่เพียงแค่หล่อแต่ยังเซ็กซี่ด้วย รูปร่างที่สมส่วนกับความสูงเกือบ 190 เซนติเมตรนี้ ที่ทำให้สาว ๆ คลั่งไคล้ แต่ใครจะคิดว่าคนเงียบ ๆ แบบนี้ เวลาพูดออกมาจะกวนขนาดนี้ อีกทั้ง….
“กรี๊ด!!! พี่จะรีบไปหาพ่อพี่เหรอ”
“ฮ่า ๆ ไม่ต้องรีบขนาดนั้น ยังต้องเรียนกันอยู่เลย เรื่องอนาคตค่อยว่ากันเถอะ”
“ไอ้บ้า! ขับช้า ๆ ลงหน่อยสิ กลัวไม่ตายเร็วหรือไง”
“ช้ากว่านี้ก็ไปไม่ทันสิ เลือกเอานะว่าจะไปให้เร็ว มีเวลาเดินเข้าไปในคณะ หรือว่าจะเป็นข่าวกับพี่ ที่ไปส่งเราถึงหน้าคณะ”
“อะ ไอ้บ้า! กรี๊ดดด….”
ไม่รู้ว่าทำไม ปกติตะวันไม่ชอบเสียงกรี๊ดที่น่ารำคาญของพวกผู้หญิง แต่วันนี้เขากลับอยากให้เธอกรี๊ดไปตลอดทาง คนอะไรน่ารักชะมัด ยิ่งเห็นเขาก็ยิ่งอยากจะแกล้ง
หน้าคณะมนุษยศาสตร์
“ถึงแล้ว ลืมตาได้แล้ว ไม่ใช่กลัวจนฉี่ราดบนรถไปแล้วละ”
“ไอ้…”
“เอ๊ะ ๆ เบาหน่อย เอาละรีบลงเถอะ ใกล้จะเข้าเรียนแล้ว”
“กุญแจฉันละคะ”
“เอาไว้เลิกเรียน แล้วค่อยมาเอา”
“แต่ว่า!”
“ห้องก็ล็อกสายยูเอาไว้แล้วนี่ ไม่ต้องกลัวหรอกน่า”
“พี่ไม่ทำตามที่ตกลง”
“พี่บอกตอนไหนว่าจะทำตอนนี้ คืนให้แน่ไม่โกงหรอกน่า”
“กำลังทำชัด ๆ”
“ไม่รีบไปเดี๋ยวสายจริง ๆ ละนะ จะเอายังไง”
“พี่จะเอายังไง”
“เอาเบอร์มาก่อนสิ”
“ไม่ให้”
“งั้นกุญแจ”
“โอ๊ย!”
เขายั่วโมโหจนเธอ จนหัวแทบจะระเบิดออกมา ไม่คิดมาก่อนเลยว่าชื่อเสียงของคณะวิศวะ ที่บอกว่าปากหมาทุกคน จะเป็นเรื่องไม่เกินจริง แต่ไม่ให้เบอร์ก็คงไม่จบ
“เอาไป!”
“เลิกเรียนแล้วเจอกันนะ… ชื่ออะไรนะนกหวีด”
“ชื่อมะปราง! ไม่ใช่นกหวีด”
“อ้าวเหรอนึกว่าใช่ เห็นกรี๊ดเสียงดังจนขี้หูเต้นระบำได้”
“ไปก่อนนะคะ แล้วอย่าลืมเรื่องข้อตกลง”
“ได้ เจอกันเย็นนี้นะมะปราง”
มะปรางลงจากรถได้ ก็ปิดประตูอย่างแรงอีกครั้ง รถหรูขับออกไปแล้ว เธอจึงรีบเดินเข้าไปที่คณะ แต่สายตาของบางคนทันเห็นเข้าพอดี โดยที่เธอไม่ทันได้สังเกต
“นั่นมะปรางไม่ใช่เหรอ มีคนใหม่เร็วดีนะ รถนั่นราคาไม่ต่ำกว่า 3 ล้านแน่นอน ฉันเคยเห็นไม่กี่คันหรอกในมหาลัย”
"หึ หรือว่าอกหักจากพี่จักร แล้วจะหนีไปซบเสี่ยที่ไหนหรือเปล่า ได้ข่าวว่าย้ายไปอยู่คอนโดหรูเลยไม่ใช่เหรอ พี่จักรคะ"
“พี่ไม่รู้ ไปเถอะได้เวลาเข้าเรียนแล้ว”
“ตาลพูดอะไรผิดคะ หรือว่าพี่จักรยังลืมมะปรางไม่ได้ ตอนนี้ตาลเป็นแฟนพี่นะ”
“เลิกพูดถึงคนอื่นเสียที วัน ๆ เอาแต่นินทาคนอื่นสนุกนักเหรอ รีบเข้าเรียนได้แล้วตาล พวกเธอด้วย”
เพื่อน ๆ ของตาล รีบเดินกลับไปคณะบริหารทันที “ตาล” แฟนคนใหม่ของจักรชักสีหน้าใส่เขาทันที แต่เธอยังไม่ได้ตามเพื่อน ๆ ไป
“ทำไมพี่จักรต้องตะคอกตาล ต่อหน้าเพื่อนด้วยละคะ”
“แล้วที่พี่พูดมันไม่จริงเหรอ วัน ๆ เอาแต่จับกลุ่มนินทาคนอื่น ไม่เบื่อบ้างหรือไง”
“ทีกับคนอื่นไม่เห็นว่าพี่จักรจะมีอารมณ์ ทำไมกับอีบ้าคณะมนุษย์นี่ต้องเป็นแบบนี้ทุกที จะให้ตาลคิดยังไง”
“คิดยังไงก็เรื่องของตาลเถอะ พี่ไปก่อนละ”
“พี่จักร!”
จักรเรียนคณะทันตแพทย์ เขาเดินกลับไปที่คณะทันที โดยไม่หันมามองตาลอีก เธอเรียนคณะบริหาร ซึ่งทั้งคู่เจอกันที่ผับของเพื่อน และพลาดมีอะไรกัน จนมะปรางจับได้หลังจากนั้น เขาเลยต้องเลิกกับเธอ
คลาสเรียน
“มะปรางแกเป็นอะไร เมื่อกี้ตอนพรีเซ็นงานแกเอาแต่พูดติด ๆ ขัด ๆ ไม่เหมือนแกเลย”
“นั่นสิ เกิดอะไรขึ้น หรือว่าแกเจอไอ้เลวนั่น”
“ไม่ใช่หรอก เรื่องอื่นนะช่างมันเถอะ เที่ยงแล้วไปกินข้าวกัน”
“ไปสิ”
โรงอาหาร
วันนี้โรงอาหารของคณะมนุษยศาสตร์ คนเยอะกว่าทุกวัน พวกเธอเดินเข้ามาก็ต้องแปลกใจ เพราะปกติเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่คนจะเยอะ แต่คงเพราะมีคนคณะอื่นมากินข้าวที่นี่ละมั้ง
“นั่งนี่เถอะ”
“อืม แกเอาอะไร”
“ฉันไปซื้อน้ำก่อนนะ”
มะปรางเดินมาซื้อน้ำ ส่วนเพื่อน ๆ ของเธอแยกกันไปซื้อข้าว เหลืออันตราเฝ้าโต๊ะเพื่อจองที่นั่งคนเดียว มะปรางพึ่งจะเห็น ตอนที่เธอยกน้ำของทุกคนกลับออกมาว่า สาเหตุที่โรงอาหารของคณะคนเยอะเพราะอะไร
“ดูนั่นสิ พี่ ๆ เขามาทำอะไรที่นี่เหรอ”
“หรือว่ามารอใครหรือเปล่า”
“เห็นว่ามาเรียนวิชาภาคบ่ายมั้ง โชคดีจังที่มากินข้าวเวลานี้พอดี”
มะปรางแทบจะกินอะไรไม่ลง เมื่อรู้ว่าจตุรเทพของคณะวิศวะ มานั่งกินข้าวที่โรงอาหารในคณะ เธอเลือกนั่งหันหลังให้พวกเขา แต่ก็ไม่พ้นกับหัวข้อสนทนานี้
“ไม่เคยเห็นพวกเขาที่นี่มาก่อนเลย วันนี้แปลกแฮะ หรือว่ามาจีบใครในคณะเรา”
""ไม่รู้สิ""
มะปรางและอันตราพูดขึ้นมาพร้อมกัน ทรายและเนตรหันไปมองทั้งคู่ ซึ่งเป็นคนที่นั่งหันหลังให้กับทั้งสี่คน
“อะไรกัน พวกแกใจตรงกันเกินไปมั้ย”
“รีบกินเถอะ เหลือเวลาแค่ 40 นาทีเอง”
มะปรางพยายามไม่สนใจพวกเขา แต่พวกเขาเองก็ไม่ได้สนใจพวกเธอเหมือนกัน เมื่อลุกจากโต๊ะไป เสียงมือถือของมะปรางก็ดังขึ้นมา เธอรีบยกขึ้นมาดูอีกครั้ง
“เย็นนี้รอพี่หน้าคณะ เดี๋ยวกลับบ้านพร้อมกัน”