ตอนที่ 4 โหยหาเกินกว่าจะปล่อย
เช้าวันศุกร์
ข้าวฟ่างมัดผมจุกบนศีรษะสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวเนื้อผ้าบางเบาคู่กับกางเกงยีนรัดรูปรองเท้าผ้าใบทะมัดทะแมงจะออกไปดูงานข้างนอกกับต้นอ้อยและเพื่อนในทีม ร่างบางแบกกระเป๋าเป้ใส่โน้ตบุ๊คและแท็บเล็ตไว้ภายใน ส่วนบ่าขวาสะพายกระเป๋ากล้องเดินตรงมาหาต้นอ้อยกับเหมียวที่แต่งกายและมีอุปกรณ์คล้ายกัน หญิงสาวทั้งสามยืนคุยกันรอจักรมารับที่หน้าออฟฟิศ
เมื่อรถของจักรจอดหน้าออฟฟิศ สามสาวเหลือบมองหน้ากันอึกอักว่าใครจะขึ้นไปนั่งข้างหน้า ข้าวฟ่างรีบเดินเลี่ยงไปเปิดประตูหลังกับเหมียว ต้นอ้อยเลยต้องขึ้นนั่งเคียงคู่กับคนขับรถ จักรมองข้าวฟ่างผ่านกระจกหลังตาละห้อยตั้งแต่วันแต่งงานกับแนนนี่เขาก็ไม่มีโอกาสได้คุยกับข้าวฟ่างอีกเลย
รถของจักรแล่นมายังชานเมืองเลี้ยวเข้ารั้วสูงของบ้านหลังใหญ่สไตล์ยุโรปที่ใหญ่เกินกว่าจะเรียกว่าบ้านเพราะมันคือคฤหาสน์ย่อม ๆ ที่ปล่อยรกร้าง คาดว่าน่าจะสร้างมาประมาณแปดสิบปี ทุกคนลงจากรถยืนมองความใหญ่โตแล้วเตรียมหยิบอุปกรณ์กล้องถ่ายภาพแท็บเล็ตขึ้นมาบันทึกข้อมูลแต่ละส่วนของบ้านโดยแยกกันไป ภายในตัวบ้านไม่ได้ทรุดโทรมเหมือนข้างนอกข้าวฟ่างกับต้นอ้อยเดินผ่านห้องโถงต้นอ้อยรับหน้าที่ถ่ายรูปเก็บรายละเอียดส่วนเธอเดินเข้าไปด้านในซึ่งเป็นห้องทำงานความวังเวงทำให้ข้าวฟ่างถ่ายรูปอย่างหวั่น ๆ สักพักเสียงเท้าคนกำลังเดินเข้ามาทำให้เธอสะดุ้งสุดตัวหันขวับไปมองตกใจ
“ไฮ! เบบี๋” ชายหนุ่มลูกครึ่งหล่อร่างสูงยืนยิ้มกริ่มแววตาเป็นประกายที่ได้เจอช่างต่างกับข้าวฟ่างที่ตาโตอ้าปากค้าง
“คุณ! ที่นี่เป็นที่ส่วนบุคคลคุณเข้ามาได้ยังไง หรือว่าเป็นผู้รับเหมา” ดวงตากลมโตกะพริบถี่หันมองซ้ายขวาไม่ไว้วางใจ
“เป็นเจ้าของที่นี่ เป็นคนจ้างพวกคุณมาทำงาน แล้วก็เป็นคนเลือกคุณให้ทำงานนี้ด้วย” เท้าหนักก้าวเดินเข้ามาใกล้สอดสองมือในกระเป๋ากางเกงอย่างสบายใจ
“คุณต้องการอะไร?” เธอเขยิบถอยห่างไปเรื่อย ๆ จนแผ่นหลังชนกับผนังห้องที่มีฝุ่นหนา คิ้วเข้มเลิกขึ้นกระตุกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์
“คุณไง.....เบบี๋ของผม”
“อย่าเข้ามาใกล้ฉัน” หน้าสวยเงยมองประหม่า เขาโน้มลงเข้าใกล้ยกสองมือขึ้นจับดวงหน้าสวยแล้วกดปลายจมูกโด่งสูดหอมแก้มเนียนเข้าเต็มปอดไม่สนว่าเธอกำลังตัวสั่นด้วยความกลัว
“ผมคิดถึงกลิ่นคุณทุกวัน อยากสูดดมแทบบ้า” เสียงทุ้มแหบพร่ากดหอมคลอเคลียผิวหน้า
“ไอ้โรคจิต!”เธอตวาดเสียงสั่นแววตาสั่นระริก ริมฝีปากหนาแทะเล็มพลางสูดดมแก้มสาวอย่างหื่นกระหาย
“ชู่ว........ที่คุณเคยโดนยังไม่ได้ครึ่งของความคลั่งไคล้ที่ผมมีกับคุณ......หื้ม..........เบบี๋จ๋า......ผมอยากกดกระแทกคุณตรงนี้เลย” ข้าวฟ่างหน้าเสียพยายามเบี่ยงหนีหน้าแดงน้ำตาไหลพยายามดีดดิ้นห่างเขาแต่ก็ถูกกายหนาเบียดดันตัวเธอจนหลังชิดผนังห้องกายหนาเสียดสีแก่นกายแข็งกลางหว่างขาของเขาสัมผัสถูไถกับท้องน้อยทำเอาคนตัวเล็กวาบหวามไปพร้อมกับหวาดกลัว
“อย่ายุ่งกับฉัน...”
“ทำไมถึงกลัวผม” หน้าหล่อยังคงคลอเคลียเชื่อว่าอาการของเธอคือการแสดง
“คุณน่ากลัว” เสียงหวานสั่นเครือตัวสั่นจนเขารู้สึกได้เลยผละออกจับจ้องหน้าสวยที่แดงก่ำนองไปด้วยน้ำตา
“มีแต่ผู้หญิงอยากให้ผมเอาแต่คุณกลับไม่ต้องการ” คิ้วเข้มขมวดสายตาขึงขังไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงไม่อยากมีอะไรกับเขา
“คุณทำรุนแรง”
“เอาเบา ๆ จะไปมันอะไร”
“ถ้าไม่มันก็อย่ายุ่งกับฉันเลยนะคะ.... คืนนั้นฉันโดนยาปลุกเซ็กซ์เลยรองรับอารมณ์คุณได้แต่ถ้าตอนปกติฉันนอนแข็งทื่อไม่ใช่อย่างที่คุณต้องการหรอก” เธอพยายามบอกความจริงที่เป็นแค่ต้มจืดไร้รสชาติไม่ได้แซ่บเหมือนผู้หญิงคนอื่นไม่อย่างนั้นแฟนคงไม่ทิ้งไปแต่งงานกับเพื่อนของเธอ คารอสชะงักครุ่นคิดพยักหน้าคล้ายว่าจะเข้าใจในสิ่งที่เธอพูดแต่คำพูดของเขาก็ทำให้เธอหน้าเสีย
“งั้นก็ต้องพิสูจน์”
“ไม่ได้ ปล่อยฉัน!” เธอพยายามดันกายหนาให้ออกห่างแต่เขาไม่ยอม
“ผมโหยหาคุณเกินกว่าจะปล่อยไปตอนนี้” สายตาคมจ้องมองราวจะตะครุบเหยื่อรีบฉกจูบริมฝีปากบางมาครอบครองสอดลิ้นหนาเข้าควานหาความหอมหวานในโพรงปากนุ่ม ข้าวฟ่างหดลิ้นหนีแต่ก็ทำได้ไม่นานเพราะลิ้นหนาที่ตวัดเลียอย่างช่ำชองทำให้เธอเผลอไผลหลงใหลไปกับเขาอย่างว่าง่ายปล่อยให้เขาดูดดุนตวัดหยอกเรียวลิ้นเธอด้วยความกระหายอยากกายหนาเบียดดันแนบชิดถูไถแก่นกายที่แข็งขืนบริเวณท้องน้อยของหญิงสาวกระตุ้นให้เธอเสียวซ่านอยากกระสันรสสวาทของชายหนุ่มแปลกหน้าที่ตอนนี้เธอก็ยังยืนจูบกับผู้ชายที่เคยพลาดมีเซ็กซ์ถึงจุดสุดยอดไปหลายครั้งแต่ยังไม่รู้จักชื่อของเขาเลยด้วยซ้ำ
