ตอนที่ 8
พาฝันมองโหลคุกกี้ในมืออย่างภาคภูมิใจ แม้ผลผลิตที่ได้จะออกมาไม่ค่อยสวยเป๊ะเหมือนต้นแบบที่แม่ทำ ออกจะรูปทรงบู้บี้ไปบ้าง สีช็อกโกแลตเข้มเกินเบอร์ไปหน่อย แต่อย่างน้อยมันก็มาจากความตั้งใจและความรู้สึกที่อยากให้คนรับมีความสุข เด็กสาวประคองโหลใส่ถุงกระดาษสีชมพูสวยหวานอย่างทะนุถนอม ก่อนเดินหน้าบานไปที่ข้างบ้านอย่างอารมณ์ดี แต่แล้ว...
“พี่จิมไปโรงเรียนแล้วเหรอคะ!” เด็กสาวอุทาน หน้าม่อย
“จ้ะ เห็นพี่เขาว่าวันนี้มีซ้อมบาสกับเพื่อนต้องไปเช้าหน่อย อ้าว พี่เขาไม่ได้บอกหนูไว้เหรอลูก” คุณทับทิมมองหลานสาวคนโปรด พลางโกรธเจ้าลูกชายตัวดีตงิดๆ จริงๆ แล้วหากจิรายุจะรออีกแค่นิดเดียวไปพร้อมกันก็ทำได้ แต่คนหัวดื้อกลับไม่ยอม
“ไม่ได้บอกค่ะ” ตอบไปพลางสมองก็แล่นไปถึงภาพที่เห็นเมื่อวาน หรือพี่ชายคนสนิทจะรีบไปรับใครบางคนไปโรงเรียนพร้อมกัน
“แล้วนี่หนูจะไปโรงเรียนยังไงล่ะลูก เดี๋ยวป้าไปส่งดีไหม” ความรักที่มีให้มาตั้งแต่อ้อนแต่ออกทำให้คุณทับทิมอดไม่ได้
“ไม่เป็นไรค่ะคุณป้า เดี๋ยวน้องดรีมเดินไปขึ้นรถตรงหน้าปากซอยเองก็ได้ งั้นน้องดรีมไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ” เสียงนั้นฟังดูหงอยๆ คุณทับทิมรับไหว้พลางมองเจ้าตัวน้อยที่เดินประคองถุงกระดาษสีสวยเดินหน้าหงอยๆ ผ่านไปอย่างเห็นใจ
“มีอะไรหรือคุณ” หญิงวัยกลางคนหันไปมองสามีที่เดินออกมาจากในบ้านก็ได้ที่ลง
“จะอะไรล่ะคะ ก็พ่อลูกชายตัวดีของคุณน่ะสิ ทิ้งน้องอีกแล้ว จะรีบไปไหนก็ไม่รู้ รอนิดรอหน่อยเป็นไม่ได้ สงสารหนูดรีมอุตส่าห์มาหาแต่เช้า หน้าจ๋อยไปเลย”
คุณจอมพลถอนหายใจเบาๆ ใช่ว่าเขาจะไม่เอ็นดูสาวน้อยคนโปรดของภรรยา แต่ทว่าก็เข้าใจลูกชายตัวเองดีเช่นกัน จิรายุเป็นคนหัวดื้อ แถมดื้อเงียบเสียด้วย ยิ่งห้ามยิ่งยุ แต่พอถูกยุมากๆ เข้าเจ้าตัวดีก็จะทำขวางลำไม่ยอมให้บังคับกันง่ายๆ
ตั้งแต่เด็กๆ ใครต่อใครก็พยายามกรอกหูว่าอยากให้ลูกชายลูกสาวทั้งสองบ้านเกี่ยวดองกัน ภรรยาเขาแหละตัวตั้งตัวตีอันดับหนึ่งถึงขั้นขอหมั้นลูกสาวข้างบ้านไว้ตั้งแต่พาฝันเพิ่งคลอดด้วยซ้ำ
“เอาน่าคุณ เรื่องของเด็กๆ เขา เราอย่าไปกะเกณฑ์อะไรลูกมากนักเลยนะ”
“คุณน่ะ ให้ท้ายลูกอีกแล้ว” คุณทับทิมบ่นกระปอดกระแปด แต่ใจลึกๆ ก็อดคาดหวังไม่ได้
“ผมไม่ได้ให้ท้ายเจ้าจิม แค่คิดว่าหากคู่กันแล้วก็คงไม่แคล้วกัน เหมือนคุณกับผมไง” พูดจบคนพูดก็ก้มลงหอมแก้มภรรยาสุดที่รักฟอดใหญ่
“แต่ฉันกลัวนี่คะ หากในอนาคตตาจิมไปคว้าใครมาเป็นเมีย แทนที่จะเป็นหนูดรีมของเราล่ะ”
“นั่นก็คงต้องแล้วแต่ลูก ชีวิตเป็นของเขานี่นา เราก็แค่เฝ้ามองพวกเขาก็พอเถอะนะคุณทับทิม” สองสามีภรรยามองหน้ากันอย่างปลงๆ
“อ้าว! น้องดรีมมาหาเจ้าจิมเหรอ”
นัฐพลทักเด็กสาวที่ยืนเก้ๆ กังๆ หน้าห้อง เด็กหนุ่มเดินออกมาหาน้องสาวเพื่อน เสื้อนักเรียนของเขามีสติ๊กเกอร์รูปหัวใจติดเต็มตัวบ่งบอกถึงความฮอตไม่แพ้สุดหล่อประจำห้องอย่างจิรายุ
“พี่จิมไปไหนเหรอคะ” พาฝันชะเง้อมองหา
“ไม่อยู่หรอก เห็นเมื่อกี้มีสาวมาเรียกไป สงสัยว่าจะให้กุหลาบสารภาพรักมั้ง” ความคะนองทำให้เด็กหนุ่มเผลอหลุดปาก
“สารภาพรักเหรอคะ” ใบหน้าพริ้มเพราง้ำงอทันใด มือที่ประคองของสำคัญสั่นนิดๆ เมื่อคิดว่ามีคนมาตัดหน้า
“อืม รายที่สามของวันแล้วล่ะมั้ง ตั้งแต่เช้าก็มีแต่คนเอากุหลาบกับช็อกโกแลตมาให้ นั่นไงกองเต็มโต๊ะเลย”
พาฝันปรายตามองบนโต๊ะของพี่ชายคนสนิทก็เห็นจริงตามที่อีกฝ่ายบอก ใจดวงน้อยก็อดหวงไม่ได้
“แล้วพวกเขาเรียกพี่จิมไปที่ไหน พี่นัฐพอรู้ไหมคะ”
“อืม ได้ยินว่าหลังโรงเรียนนะ แถวๆ สนามบาสนั่นแหละมั้ง อ้าว! น้องดรีม” นัฐพลอุทานเมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินจ้ำอ้าวไปไม่เหลียวหลัง
“เฟิร์นชอบพี่จิมค่ะ”
เสียงนั้นทำให้คนเดินจ้ำอ้าวมาชะงักเท้า ชาวาบไปทั้งตัว อาศัยว่ามีพุ่มไม้หนาพรางไว้ทำให้ไม่มีใครมองเห็นเธอที่ยืนอยู่ตรงนี้ พาฝันมองไปที่แผ่นหลังกว้างของพี่ชายคนสนิท และเด็กสาวรุ่นพี่ม.4 ที่เธอเคยเห็นมาแอบมองจิรายุที่สนามบาสตอนเขาซ้อมหลังเลิกเรียนอยู่สามสี่หน
