ตอนที่ 6
หากทว่ายังไม่ทันที่เขาจะก้าวพ้นประตูรั้วก็เห็นคนที่ทุกคนกำลังเป็นห่วงเดินจูงจักรยานเดินกะเผลกๆ เข้ามา
“อ้าว! น้องดรีมมาพอดีเลยลูก” คุณทับทิมรีบปราดเข้าไปหาสาวน้อยคนโปรด
พาฝันตั้งขาตั้งจักรยานพลางยกมือไหว้คุณป้าและมารดา ใบหน้าใสดูหงอยๆ แต่ก็ยังฝืนยิ้มเพื่อไม่ให้ใครเป็นห่วง
“น้องดรีมเอารถจักรยานมาคืนค่ะ” คนพูดพยายามไม่หันไปมองพี่ชายที่เดินตามหลังมา เพราะกลัวว่าจะกลั้นน้ำตาแห่งความน้อยใจไว้ไม่ได้
“เอ๊ะ! นั่นทำไมเดินแบบนั้นล่ะลูก”
“ไม่ได้เป็นอะไรค่ะคุณป้า กำลังทำขนมอะไรกันคะ น้องดรีมหิ๊วหิว” พาฝันรีบเปลี่ยนเรื่องเพื่อไม่ให้ใครเป็นห่วง
“ทำขนมจีบกุ้งของโปรดหนูไงจ๊ะ ไปล้างหน้าล้างตาแล้วมากินพร้อมพี่เขาสิไป”
“ค่ะ”
จิรายุเหลือบมองแม่น้องน้อยที่วันนี้ไม่คุยจ้อเหมือนเคย แถมไม่ยอมทักเขาสักคำ ก็นึกแปลกใจ พอเห็นท่าเดินกะเผลกๆ นั่นก็อดสงสัยไม่ได้
“อูย...ซี้ดดด” เสียงสูดปากด้วยความแสบระบมทำให้คนที่เดินตามหลังมาชะงัก เพราะเห็นว่ามีใครบางคนนั่งหลบมุมง่วนทำอะไรบางอย่างอยู่ ก็อดไม่ได้จึงเตร่เข้าไปดู
“นั่น หัวเข่าไปโดนอะไรมาอีกล่ะ”
“อุ๊ย!”
เจ้าตัวน้อยถึงกับสะดุ้งสุดตัว หันขวับมือที่ถือสำลีชุบแอลกอฮอล์ล้างแผลชะงักค้างอย่างตกใจ
“พี่จิม!”
“หัวเข่าไปโดนอะไรมาน่ะ” เด็กหนุ่มปราดเข้าไปใกล้ แต่พาฝันกลับรีบปิดชายกระโปรงนักเรียนคลุมแผลไว้ทำท่าจะขยับหนี หากทว่าก็ไม่ทันมือที่ยื่นมาตรงหน้า
“โหย เป็นแผลถลอกลึกเสียด้วย ถ้าแผลเน่าเห็นทีคงต้องตัดขาทิ้งแล้วล่ะ”
คำนั้นทำให้ใบหน้าใสง้ำงอ รู้ดีว่าโดนแกล้งขู่
“ก็ถ้าใครบางคนไม่ทิ้งให้ดรีมปั่นจักรยานกลับมาคนเดียว รถคงไม่ล้ม หัวเข่าก็ไม่ต้องถลอกเลือดซิบๆ แบบนี้หรอก อุ๊ย! อูย...เบาๆ หน่อยสิคะ น้องดรีมเจ็บนะ...” ท้ายประโยคพาฝันครางเบาๆ ตามองมือเรียวที่ทำแผลให้อย่างคล่องแคล่ว
ตั้งแต่เด็กจนโตนอกจากแม่แล้ว จิรายุคือมือวางอันดับหนึ่งในการทำแผลให้น้องสาวจอมซุ่มซ่ามอย่างเธอมาตลอด ทั้งที่ไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่ก็อดไม่ได้ทุกที
“เอาล่ะเสร็จแล้ว” พาฝันมองหน้าพี่ชายคนสนิทพลันนึกถึงภาพที่เห็นเขาเดินกลับบ้านพร้อมนัฐมลเมื่อตอนเย็น
“พี่จิมคะ...” ปากที่จะขยับถาม พอเห็นสายตาเย็นชามองมานิ่งๆ คำถามก็ถูกกลืนลงคอไป เพราะเกรงว่าเขาจะหาว่าเธอทำตัวจุ้นจ้านน่ารำคาญอีก
“เรียกทำไม มีอะไรก็พูดมาสิ”
“เปล่าค่ะ แค่จะบอกว่าอย่าให้แม่กับคุณป้ารู้นะคะว่าน้องดรีมเอาจักรยานไปล้มมาอีกแล้ว เดี๋ยวพวกท่านจะเป็นห่วง”
“อืม ไม่บอกหรอก เธอก็รู้ว่าพี่ไม่ได้ขี้ฟ้องเหมือนใครบางคน”
“ขอบคุณค่ะ” คร้านจะเถียง เด็กสาวจึงกัดฟันตอบรับดื้อๆ เธอมันน่ารำคาญ แถมเป็นเด็กขี้ฟ้อง ใครมันจะไปน่ารักเหมือนพี่นัฐมลคนนั้นล่ะ ยิ่งคิดดวงตาคู่สวยก็ร้อนผ่าวๆ
ในสายตาพี่ชายคนนี้น้องสาวข้างบ้านอย่างพาฝันมีอะไรดีบ้างนะ ทั้งที่สำหรับเธอแล้ว พี่จิมคือคนเดียวที่อยู่ในสายตา เป็นคนที่สำคัญสำหรับเธอเสมอ
“นั่นจะไปไหน ไม่ไปกินขนมจีบเหรอ”
“น้องดรีมไม่หิวค่ะ จะไปอ่านหนังสือพรุ่งนี้มีสอบภาษาอังกฤษ” ว่าแล้วก็ผละไปโดยไม่เหลียวหลัง ทำให้คนเป็นพี่ชักงง
ยัยตัวยุ่งเป็นอะไรไป แต่ช่างเถอะ แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ยัยนั่นจะได้ไม่มาวุ่นวายให้เขารำคาญใจ
เช้าวันถัดมาจิรายุก็ต้องแปลกใจเมื่อเจ้าตัวป่วนไม่ได้มาปลุกถึงห้องอย่างเคย พอคิดว่าพาฝันคงจะมารอไปโรงเรียนพร้อมกันเหมือนอย่างเคย แต่ก็เปล่า
“มองหาใครล่ะตาจิม”
“เปล่าครับ” คนเป็นแม่มองอย่างรู้ทัน แต่ก็อดหมั่นไส้ไม่ได้กับความปากแข็งของลูกชายตัวดี
“น้าต้องตาบอกว่าวันนี้น้องดรีมไม่สบาย ขอลาหยุดวันหนึ่ง”
“ไม่สบาย แค่รถล้มเข่าถลอก ถึงกับไม่สบายเลยเนี่ยนะครับ”
“หืม! รถล้มอะไร เข่าถลอกอะไรกัน” จิรายุอยากจะกัดลิ้นตัวเองค่าที่ตกใจจนเผลอหลุดปาก
“เปล่าครับ ไม่มีอะไร งั้นเดี๋ยวผมรีบไปโรงเรียนก่อนนะครับ เดี๋ยวจะสาย”
