ตอนที่ 5 “ข้าช่วยเขาได้!”
“อะไรนะเจ้าคะ แต่ว่าท่าน”
“ข้าจะไปดูว่าพอจะช่วยอะไรได้บ้าง เมื่อช่วงบ่ายเจ้าก็เห็นแล้วว่า จำนวนคนป่วยกับหมอที่เขามี ไม่พอในการดูแล ข้าจะไปดูสักหน่อย”
“คุณหนูเจ้าคะ”
เมื่อเห็นว่าฟ่านถิงเฟย วิ่งออกไปจากงานเลี้ยง หลี่ชุนฮวาก็ได้แต่มองตาม ที่เดียวที่นางจะไม่ไปเลย ก็คือกระโจมผู้บาดเจ็บ เพราะที่นั่นบิดาของนาง ได้สั่งห้ามเอาไว้ว่าอย่าเข้าไป เพราะมันทั้งสกปรก และเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด อีกทั้งตัวนางเอง ก็ไม่ได้นึกอยากจะไปเท่าใดนัก
กระโจมผู้ป่วย
“อ๊ากกก”
“หานลี่! ทำใจดี ๆ เอาไว้ นี่มันเกิดอะไรขึ้น”
“ทูลท่านอ๋อง องครักษ์หานออกไปตรวจสอบและตรวจหน่วยลาดตระเวนรอบ ๆ ค่าย แต่กลับถูกลูกธนูของศัตรูลอบยิงใส่ เห็นทีว่าครั้งนี้เราอาจจะถูกพวกมันหลอกเสียแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“ช่างเถอะ ตอนนี้ต้องช่วยหานลี่ก่อน ท่านหมอท่านคิดว่าอย่างไร”
“เอ่อ… ทูลท่านอ๋อง ลูกธนูฝังอยู่ลึก แม้ว่าจะหักก้านออกแล้ว แต่อย่างไรก็ต้องดึงปลายศรออกมาก่อน เพื่อจะได้ทำแผล แต่ว่า…”
“เลือดออกมาจากแผลมากเกินไป องศาและความลึกที่ลูกศรยิงเข้า เฉียดอวัยวะสำคัญภายใน หากไม่รีบผ่าออก อย่าคิดว่าเขาจะรอดเลย”
ท่านอ๋องหันมา และเห็นว่าผู้ที่พูดอยู่คือฟ่านถิงเฟย ซึ่งนางมองดูแผลขององครักษ์ข้างกายเขา
“เจ้า! เหตุใดจึงมาที่นี่ พานางออกไป อย่ามาเกะกะที่นี่ หมอหลวงรีบช่วยเขาสิ”
“คือเรื่องนี้ กระหม่อมคิดว่า…”
“แม้แต่ท่านก็ไม่มีทางช่วยเขาหรือ”
“แต่ข้าช่วยเขาได้!”
“คุณหนูฟ่าน เอ่อ ท่าน…ท่านไม่มีความรู้วิชาแพทย์ ท่าน…”
“หึ เจ้าน่ะหรือจะช่วยเขาได้ อย่าคิดว่าเจ้ามีบิดาเป็นแพทย์หลวงอันดับหนึ่ง แล้วเจ้าก็จะสามารถเป็นได้เพียงชั่วข้ามคืน ออกไปจากที่นี่ มิเช่นนั้นข้าจะสั่งโบยเจ้า”
“แต่หากไม่รีบตัดสินใจผ่าในตอนนี้ เขาจะตายแน่นอน ท่านดูบาดแผลของเขาสิ ลูกธนูนี้พุ่งเข้ามาเฉียดหัวใจเขาเพียงนิดเดียว หากว่ายังปล่อยเอาไว้ เลือดของเขาก็จะไหลออกมาจนหมดตัว แต่หากผ่าและดึงออกไม่ถูกวิธี เขาก็จะตายเช่นกัน”
“หมอหลวง!”
“พ่ะย่ะค่ะ”
“เจ้าคิดว่าอย่างไร”
“กระหม่อม…เอ่อ ที่คุณหนูฟ่านกล่าวมา เอ่อ ล้วนเป็นเรื่องจริงพ่ะย่ะค่ะ อีกทั้งตอนนี้กระหม่อมเองก็คิดว่า หากไม่รีบผ่าปลายลูกธนูออกมา ใต้เท้าหานอาจจะ ไม่รอดถึงพรุ่งนี้”
“ว่าอย่างไรนะ”
ท่านอ๋องหันมามองสีหน้าของฟ่านถิงเฟย ที่หันมามองเขาด้วยสีหน้าอวดดี แต่เมื่อได้ยินเสียงไอของ “หานลี่” และเริ่มกระอักเลือดออกมา นางก็ตกใจ
“แย่แล้ว โดนเส้นเลือดใหญ่ ท่านจะเอาอย่างไร! จะปล่อยให้เขาตายก่อนหรือ ถึงจะให้ข้าลงมือ”
“เจ้า! ข้า… ข้าไม่เชื่อใจเจ้า ไม่เลยสักนิด”
“ท่านอ๋อง! เลือดของใต้เท้าหาน ไหลไม่หยุดเลยพ่ะย่ะค่ะ ทำอย่างไรดี ท่านหมออวี้ รีบช่วยเขาหน่อยสิ!”
“เติ้งซิง” องครักษ์ข้างกายท่านอ๋องอีกคน รีบหันไปขอร้องท่านหมอหลวง ที่ยืนก้มหน้า ส่ายหัวให้กับอาการ ที่เกินวิชาแพทย์ของเขา ถิงเฟยเห็นว่าหานลี่คงทนต่ออีกไม่ได้แล้ว จึงได้ตัดสินใจ ทำตามสัญชาตญาณทันที
“เนี่ยฝู!”
“เจ้าค่ะคุณหนู”
“เจ้าไปหาผ้าสะอาดมา น้ำอุ่นจัด แล้วก็…”
“ใครใช้ให้เจ้าทำ เรื่องแบบนี้”
“หากท่านทำอะไรไม่ได้ก็หลีกไป! คนจะตายอยู่ตรงหน้า ยังจะมาอวดดี ใช้อำนาจอะไรอยู่ตรงนี้”
“เจ้า! หมอหลวง เจ้าเป็นคนทำ”
“ท่านอ๋อง กระหม่อม… ไร้ความสามารถ หากว่าบาดแผลไม่ลึกมาก ก็คงจะทำได้ แต่บาดแผลลึกและเสี่ยงถึงชีวิตเช่นนี้ กระหม่อม…”
“เจ้าจะบอกว่า เจ้าช่วยหานลี่ไม่ได้งั้นหรือ”
“ด้ายกับเข็ม แล้วก็... รีบไปตามหลิวจางหมิงมา เร็วที่สุด”
“เจ้าค่ะคุณหนู”
ท่านอ๋องหันไปมองฟ่านถิงเฟย ที่เริ่มหันไปสั่งให้ทหารเริ่มยกเครื่องมือมาวาง และเริ่มดูว่าจะใช้สิ่งใดได้บ้าง ตอนนี้มีอยู่สองทางเลือก คือให้นางลงมือช่วยชีวิตหานลี่ องครักษ์ข้างกายของเขา กับปล่อยให้หมอหลวงช่วย ซึ่งโอกาสรอด มีเท่ากัน
“มีดนี่ใช้ได้ มีเล็กกว่านี้อีกหรือไม่ ข้าถามว่ามีอีกไหม!”
“เอ่อ มะ มีมีดสั้นขอรับ”
“ได้ เช่นนั้นรีบไปเอามา เร็วเข้าสิ!”
“นี่เจ้าจะทำอะไร ข้าอนุญาตแล้วหรือ”
“โอ๊ย!”
ท่านอ๋องดึงข้อมือของถิงเฟยเอาไว้ นางหันมามองหน้าเขาอีกครั้ง ไม่นานหลิวจางหมิง ก็วิ่งเข้ามาในกระโจม หลังจากที่เนี่ยฝูไปตามเขามา
“เกิดอะไรขึ้น นี่มัน…ซานเฉินท่านใจเย็นก่อน”
“หากท่านไม่อยากเห็นเขาตาย ก็จงรีบปล่อยมือข้า จะได้เริ่มลงมือเสียที หาไม่แล้ว ก็จับข้าโยนออกจากกระโจมนี้ แล้วปล่อยให้เขาตายต่อหน้าท่านตอนนี้ได้เลย”
“หากว่าเขาตาย เจ้าก็อย่าหวังว่าจะมีชีวิตรอด!”
“ถือว่าข้ารับเดิมพันนี้ของท่าน ทีนี้ปล่อยข้าได้หรือยัง”
ท่านอ๋องสะบัดข้อมือเล็กของนางออกทันที ถิงเฟยได้แต่มองเขาด้วยสายตาคาดโทษ น้ำตาเริ่มคลอเล็กน้อยเพราะความเจ็บ แต่ก็รีบหันไปมองหลิวจางหมิงทันที
“ใต้เท้าหลิว ท่านฝังเข็มได้ใช่หรือไม่”
“เอ่อ… ข้า ใช่ ๆ ได้สิ แต่ข้าใช้มีดไม่เป็นนะ”
“ไม่เป็นไร ท่านช่วยข้าฝังเข็ม เพื่อหยุดเลือดบางจุดในร่างกาย และทำให้เขาสลบได้ชั่วคราว ใช่หรือไม่”
“ได้สิ ถ้าเรื่องนี้ข้าทำได้”
“เช่นนั้นเรามาเริ่มกันเลย ท่านฝังเข็มเสร็จ ก็เรียกข้า”
หลิวจางหมิงหันมามองหน้าท่านอ๋อง ที่ยังจ้องฟ่านถิงเฟยไม่ละสายตา แล้วก็รีบเดินไปหาหานลี่ที่เตียงทันที
“ให้ตายเถอะ ทำไมถึงสาหัสเช่นนี้ ทั้งอาวุธลับแล้วยังมีแผลภายนอก และถูกธนูยิงอีก”
ฟ่านถิงเฟยกะพริบตา และรีบเช็ดน้ำตาทันที นางหันไปสั่งทหารที่ยืนนิ่งเพราะตกใจอยู่ด้านหลัง
“ข้าต้องการสุรา เอาที่แรงที่สุด”
“เจ้าจะเอาสุรามาทำสิ่งใด”
ท่านอ๋องเอ่ยถาม แต่นางไม่ได้ตอบ และหันไปตะคอกเสียงใส่ทหารที่ยังยืนนิ่งอยู่
“รีบไปสิ!”
“ขอรับ ๆ ไปเดี๋ยวนี้ขอรับ”
เมื่อทหารวิ่งออกไปแล้ว นางก็หันมาดูอุปกรณ์ที่หมอหลวงใช้อยู่ทันที บางอันนางเลือกออกมาแยกเอาไว้ และบางอันก็โยนทิ้งกองไว้อีกที่ ไม่นานเนี่ยฝูก็วิ่งมาพร้อมกับน้ำอุ่นและผ้าสะอาด
“มาแล้วเจ้าค่ะคุณหนู”
"วางลง"
ท่านอ๋องไม่ได้เอ่ยถาม แต่มองนางแทน เมื่อเห็นว่าฟ่านถิงเฟย เริ่มใช้หลังมืออังน้ำ และเอาอุปกรณ์ทั้งหมดลงไปแช่ในน้ำร้อนจัด ส่วนนางเดินมาล้างมือในอ่างที่ผสมน้ำ ท่าทางที่คล่องแคล่วของนาง ทำเอาท่านอ๋องนึกแปลกใจ
‘มิใช่ว่าสตรีผู้นี้ไม่มีความรู้มิใช่หรือ เหตุใดจู่ ๆ ถึงได้เปลี่ยนไป หรือว่าก่อนหน้านี้นางเสแสร้งอยู่งั้นหรือ’
“หลีกไป”
“เจ้าไล่ข้าหรือ”
“ท่านยืนเกะกะเช่นนี้ ข้าจะรักษาเขาได้อย่างไร”
“ข้าไม่ไป ข้าจะเฝ้าดูอยู่ตรงนี้ จะไม่ยืนเกะกะ หากว่าเจ้าทำให้เขาตาย ข้าจะ…”
“ช่างเถอะ อยากทำอะไรก็ทำ ขี้เกียจเถียงแล้ว”
“สุรามาแล้วขอรับ”
“เนี่ยฝู เทน้ำร้อนทิ้ง”
“เจ้าค่ะ”
นางทำตามคำสั่งทันที เมื่อน้ำร้อนถูกเททิ้ง ถิงเฟยก็สั่งอีกครั้ง
“เทสุราลงไปในอ่าง”
“ขอรับ”
ท่านอ๋องได้แต่ยืนมองและนิ่งไป เขาคิดไม่ถึงเลยว่า ผ่านไปชั่วข้ามคืน สตรีที่ไม่เอาไหน และรักสวยรักงามอย่างฟ่านถิงเฟย จะลุกขึ้นมาเปลี่ยนท่าทีแบบนี้ แต่ตอนนี้ชีวิตของหานลี่สำคัญกว่า เขาไม่มีเวลามาสนใจ ความเปลี่ยนไปของฟ่านถิงเฟย
“คุณหนูฟ่าน เขาสลบไปแล้ว ตอนนี้ข้าฝังเข็มระงับความปวด”
“นานเท่าใด”
“หา เจ้าหมายความว่า อ๋อ ประมาณสองชั่วยาม”
“น่าจะพอ”
“เอ่อ… แล้วข้า”
“ท่านอยู่ก่อน ท่านหมอข้าต้องการให้ท่านช่วย”
“ข้าหรือ แต่ว่าข้าไม่เคยผ่าแผลที่ลึกเช่นนี้มาก่อน คุณหนูฟ่านครั้งนี้หากว่าทำพลาดล่ะก็… บิดาของท่านก็มิอาจช่วยได้นะ คิดให้ดีอีกครั้งดีหรือไม่”
“คนจะตายอยู่ตรงหน้า ยังมีเวลาคิดสิ่งใดอีก ถอดเสื้อเขาออก เนี่ยฝูเจ้ามารวบผมให้ข้าที คนที่ไม่เกี่ยวข้อง ออกไปให้หมด”
“เจ้าค่ะ”
สายตาของนาง จงใจมองไปยังท่านอ๋อง ซึ่งหันมามองนางด้วยท่าทีที่ไม่ไว้ใจ เนี่ยฝูรวบผมให้นางแล้ว ก็ถูกสั่งให้ออกไปจากกระโจมเช่นกัน ถิงเฟยเดินมา และเริ่มหยิบมีดที่แช่อยู่ในอ่างสุราออกมา
“ให้ตายเถอะ กลิ่นสุรานี่แรงจริง ๆ แรงกว่าแอลกอฮอล์เสียอีก”
“เจ้าพูดว่าอย่างไรนะ ข้าได้ยินไม่ชัด เมื่อครู่….”
นางเงยหน้าขึ้นมามองเขา สายตาที่เด็ดเดี่ยวของนางที่มองมา ทำเอาหัวใจของท่านอ๋อง เต้นไม่เป็นจังหวะ แต่ก็หุบปากลงทันที เขามั่นใจว่านางคือฟ่านถิงเฟย แต่ในตอนนี้ท่าทางของนาง ทำให้รู้สึกราวกับว่า ไม่เคยรู้จักสตรีตรงหน้านี้มาก่อนเลย
“มีดผ่า คีม กรรไกร เอ็นสำหรับเย็บ น่าจะครบแล้ว มีแค่นี้ก็พอ”
“เจ้าพึมพำอะไรของเจ้า”
“ท่านอ๋องเพคะ หากจะอยู่ก็รบกวนเงียบปาก และอย่ารบกวนการผ่าตัด หากท่านกล้าพูดอีกเพียงคำเดียว ข้าจะใช้เข็มนี่เย็บปากท่านเสีย เข้าใจหรือไม่ หลีกไปยืนข้าง ๆ อย่ามาเกะกะ”
“เจ้า!”
“มานี่ ๆ ท่านมาอยู่กับข้าตรงนี้ ยืนตรงนี้ได้ใช่หรือไม่คุณหนูฟ่าน”
นางหันมามองทั้งท่านอ๋องและหลิวจางหมิง ที่ยืนยิ้มให้นางอยู่
“จับเขาเอาไว้ให้ดี เอาล่ะ จะเริ่มแล้วนะ ขุนพลกล้า ท่านต้องอดทนหน่อย ไม่นานหรอก ข้าจะช่วยท่านให้ได้”