ตอนที่ 3 ข้าไม่สนใจนาง
ริมฝีปากบางเผยอขึ้นมา ประกบปากของท่านอ๋องโดยไม่ได้ตั้งใจ จวินซานเฉินเองก็ตกใจ จนไม่ทันระวัง ไม่นานหลังจากนั้น นางก็ปล่อยเขาและนอนนิ่งไปทันที
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรอีกละนี่!”
ท่านอ๋องรีบลุกขึ้นมาทันที เขารู้สึกเหมือนกับจะติดไข้จากนางมา เพราะตอนนี้ใบหน้าเริ่มร้อนผ่าว หัวใจเต้นแรงผิดปกติ และรู้สึกร้อนที่ใบหูทั้งสองข้าง อาการเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เขาจึงรีบเดินออกมาจากกระโจมของนางทันที
“เจ้าเข้าไปดูนางหน่อย นาง…”
“นี่ท่านทำอะไรนาง คงจะไม่ได้ลงโทษรุนแรงหรอกใช่หรือไม่”
“ข้าเปล่านะ! นางก็แค่… มีไข้ แล้วก็สลบไป”
“อะไรนะ ไข้กลับงั้นหรือ เช่นนั้นข้าจะเข้าไปดูสักหน่อย”
“รีบไปเถอะ ข้าจะกลับล่ะ”
“อ้าวเหตุใดท่าน… ช่างเถอะ เรารีบเข้าไปกันเถอะ”
“เจ้าค่ะท่านหมอ”
กระโจมท่านอ๋อง
เมื่อจวินซานเฉินกลับมาถึงกระโจม เขาพบว่ายากมาก กว่าที่จะทำให้จิตใจสงบลงได้ ไม่คิดเลยว่าจะถูกปล้นจูบไปง่าย ๆ เช่นนี้ อีกทั้งฝ่ายที่เป็นคนทำ ก็ไม่ได้รู้สึกตัวเลยสักนิด แต่หัวใจของเขากลับเต้นแรง ราวกับกองศึก ทำอย่างไรก็ไม่หาย จนกระทั่งจางหมิงกลับมาที่กระโจม เพื่อแจ้งอาการของฟ่านถิงเฟย
“นางมีไข้อ่อน ๆ กลับมา คิดว่าน่าจะมาจากท่านนะ”
“ข้างั้นหรือ ข้าก็แค่คุยกับนาง”
“ท่านแน่ใจหรือว่าแค่คุยกัน แล้วบาดแผลที่รอบต้นคอของนาง มาจากไหนกันเล่า”
“นั่นเพราะนาง… เอาแต่เถียงข้า สตรีอะไรเถียงคำไม่ตกฟาก หากว่าเป็นผู้อื่น นางคงตายไปแล้ว”
“ท่านเองก็ใจร้อนเกินไป นางพึ่งจะฟื้นไข้ได้ไม่นาน สภาพจิตใจยังไม่ปกติเท่าไหร่ เจอท่านตะคอกไปเช่นนั้น ก็ไม่แปลกที่จะสติแตกเช่นนั้น”
“แล้วตอนนี้... นางเป็นอย่างไรบ้าง”
“ข้าให้ดื่มยาไปแล้ว และฝังเข็มให้เพื่อระงับจิตใจ คืนนี้ให้นางนอนพักผ่อนไปยาว ๆ ส่วนแผลที่คอ ข้าให้คนเอายาไปให้สาวใช้จัดการแล้ว พรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที”
“อืม”
“เฮ้อ ท่านก็อย่าได้อคติกับนางนักเลย อีกอย่างที่นางมาที่นี่ ก็ล้วนเป็นบัญชาของฝ่าบาท ท่านเองก็น่าจะตัดสินใจไม่ยากมิใช่หรือ ระหว่างบุตรสาวแม่ทัพ กับบุตรสาวหมอหลวงอันดับหนึ่ง”
“ข้า… ไม่สนใจเรื่องไร้สาระเหล่านี้ ข้าสนใจแต่บ้านเมืองและแผ่นดินเท่านั้น การศึกครั้งนี้ไม่ง่ายเลย มิเช่นนั้นเสด็จพ่อ คงจะไม่ให้ข้าลงมา ช่วยสกุลหลี่ตั้งรับถึงที่นี่”
“เฮ้อ เรื่องแผ่นดินก็อีกเรื่อง ท่านจะเอามารวมกันหาได้ไม่ หากเป็นเช่นนี้ต่อไป พวกนางคงมิได้ออกเรือน ท่านอย่าลืมสิว่า ทั้งคู่มาที่นี่เพื่อจุดประสงค์อะไร หากท่านไม่ชอบคุณหนูฟ่าน ก็รีบปฏิเสธนางไปเถอะ นางจะได้ตัดใจ”
“ข้าพูดแล้วมีประโยชน์อันใด เจ้าไม่เห็นท่าทีของนางงั้นหรือ ทั้งจองหอง ทั้งยโสโอหังเช่นนั้น นางกลัวข้าที่ไหนกัน ขนาดดาบพาดอยู่ที่คอ ยังไม่คิดจะถอยให้ข้าเลย”
“นี่ท่านอย่าบอกนะว่า แผลที่คอของนาง….”
“หึ สตรีอวดดีเช่นนี้ ข้าเกลียดที่สุด”
“เอาเถอะ ๆ รอให้นางหายดีก่อน แล้วค่อยว่ากัน จริงสิหมอและยาที่ท่านขอไปที่ราชสำนัก มีข่าวแล้ว”
“ว่าอย่างไร”
“ฝ่าบาทจะส่งหมอหลวงมาพร้อมกับยา และเสบียงอีกส่วนหนึ่ง แต่ว่า…”
“ว่าอย่างไร”
“ไม่อนุญาตให้คุณหนูฟ่าน และคุณหนูหลี่กลับเมืองหลวง จนกว่าจะจบศึกครั้งนี้ให้ได้”
“หึ นึกแล้วเชียว เสด็จพ่อคงอยากให้ข้าแต่งงาน เพื่อจะได้ลดความหวาดระแวงในการแย่งชิงอำนาจ ที่ข้าไม่เคยสนใจนี้สินะ”
“เอาเถิด ถึงอย่างไรฝ่าบาท ก็ทรงเป็นห่วงท่านไม่น้อย มิเช่นนั้นคงไม่ส่งหมอหลวงกับยามาให้ ตามที่ท่านขอหรอก”
“จริงสิจางหมิง”
“ว่าอย่างไรหรือ”
“เจ้า… เคยเรียกผู้ใดว่า “รุ่นพี่” หรือไม่”
“หา! ท่านว่าอย่างไรนะ”
“ช่างเถอะ ข้าอาจจะฟังผิดไป ไม่มีอะไรหรอก”
“ท่านติดไข้จากคุณหนูฟ่านมาหรืออย่างไร พูดจาเรื่อยเปื่อย”
กระโจมของถิงเฟย
กว่าฟ่านถิงเฟยจะฟื้นก็เกือบสองชั่วยาม เมื่อตื่นขึ้นมา นางก็พบแต่สาวใช้ที่คอยเช็ดตัวให้
“คุณหนูท่านตื่นแล้วเหรอเจ้าคะ”
“เนี่ยฝูนี่ข้าหลับไปนานเท่าใด ข้าจำได้ว่า ยืนเถียงอยู่กับเจ้าอ๋องปากหมา บ้าน้ำลายนั่น”
“คุณหนู! เหตุใดจึงพูดเช่นนั้นเจ้าคะ หากมีผู้ใดได้ยินเข้า อาจจะถูกลงอาญาด้วยการโบยเชียวนะเจ้าคะ”
“อะไรนะ แค่พูดแค่นี้ถึงกับตีเลยเหรอ โหดร้าย ป่าเถื่อนจริง ๆ ด้วย”
“คุณหนูเบาเสียงหน่อยเถิดเจ้าค่ะ ท่านหมอต้มยาลดไข้มาให้ท่าน ดื่มก่อนนะเจ้าคะ”
นางรับยาจากเนี่ยฝูมาดื่มจนหมด ยานั้นขมและได้กลิ่นสมุนไพรจนฉุนจมูก แต่นางก็ทนกินจนหมด นี่ทำให้เนี่ยฝูถึงกับแปลกใจ เพราะก่อนหน้านี้ ฟ่านถิงเฟย เอาแต่โวยวายว่ายาขมไป กลิ่นเหม็นจนไม่ยอมกิน ไข้จึงลุกลามทำให้อาการนางสาหัสเจียนตาย แต่มาวันนี้ คุณหนูของนางกลับยกยา ที่เคยบอกว่าทั้งเหม็นและขม ดื่มรวดเดียวจนหมด
“นี่คุณหนูไม่ขมแล้วหรือเจ้าคะ”
“ขมสิ แต่อย่างไรก็เป็นยามิใช่หรือ”
“ก็ใช่เจ้าค่ะ แต่ก่อนหน้านี้ ทำอย่างไรท่านก็ไม่ยอมดื่ม จนกระทั่งไข้ขึ้นสูง”
“มิน่าล่ะ”
นางเข้าใจแล้วว่า ฟ่านถิงเฟยตัวจริง ได้ตายเพราะฤทธิ์ของไข้ป่าไปแล้ว นางจึงเข้ามาสวมในร่างนี้ได้ หลังจากวันนั้น นางก็ไม่ได้พบกับท่านอ๋องอีกเลย ข่าวว่าศัตรูเริ่มเคลื่อนกองทัพ เข้ามาใกล้แนวชายแดนของแคว้น ท่านอ๋องและกองทัพบางส่วน จึงได้เตรียมการรบ
“คุณหนูเจ้าคะ”
“เสียงกลองดังขึ้นอีกแล้ว กำลังจะรบกันอีกแล้วหรือ”
“เจ้าค่ะ ท่านกุนซือสั่งให้ข้ามาบอกคุณหนูว่า หากว่าเหตุการณ์ยังไม่สงบ ให้ข้าพาท่านไปที่ถ้ำบนเขา ที่นั่นจะปลอดภัยกว่าที่นี่เจ้าค่ะ”
“แล้วคนอื่น ๆ เล่า”
“ล้วนแต่ตั้งกองกำลังรักษาอยู่แนวหน้าเจ้าค่ะ ส่วนสตรีและคนบาดเจ็บอยู่ที่นี่”
ฟ่านถิงเฟยพึ่งจะหายจากไข้ได้เพียงสองวัน ข้าศึกก็เริ่มประชิดเข้ามา ช่วงนี้นางจึงเดินสำรวจรอบ ๆ ค่ายและพบว่า หมอและยาที่มียังไม่เพียงพอในการรักษา อีกอย่างจำนวนคนบาดเจ็บ ที่เพิ่มขึ้นในแต่ละวัน ก็มีเพิ่มจนต้องขยายออกมานอกกระโจม
“คุณหนูหลี่ยอดไปเลย นางคอยช่วยดูแลเรื่องอาหารการกิน และเครื่องมือของทหาร”
“นี่สินะสตรีที่เหมาะสมกับท่านอ๋อง ว่าแต่เห็นว่าครั้งนี้ มีบุตรสาวท่านหมอมาด้วยมิใช่หรือ”
“นางน่ะหรือ หึ ข้าได้ข่าวว่าสตรีสกุลฟ่านผู้นี้ ตอนอยู่ในเมืองก็เอาแต่แต่งตัว ชอบแต่สิ่งสวยงาม ไม่สนใจร่ำเรียน ตั้งแต่มาที่นี่ก็ไม่ค่อยออกจากกระโจมเพราะกลัวว่าผิวจะพังเพราะแดดร้อน เรื่องความรู้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เกิดในตระกูลหมอหลวง แต่กลับไม่มีความรู้อะไรเลย”
“ไม่เอาไหนเช่นนี้ แล้วจะมาให้เป็นภาระทำไมกัน”
“ก็เพราะอยากแย่งชิง ตำแหน่งชายาท่านอ๋องอย่างไรเล่า หึ ดูก็รู้ว่ามีแต่เปลือก ต่างกับคุณหนูหลี่โดยสิ้นเชิง”
ฟ่านถิงเฟยได้ยินที่เหล่าทหารค่อนแคะถึงนาง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็คงจะเป็นเรื่องจริง เพราะแม้แต่สาวใช้ข้างกายก็เอาแต่ก้มหน้า ไม่เถียงเลยสักคำ วันนี้นางให้เนี่ยฝู หาชุดที่เรียบง่ายที่สุด เพื่อจะได้เดินสำรวจรอบ ๆ ค่าย จนมาถึงโรงครัว ซึ่งมีสตรีคนหนึ่งคอยช่วยอยู่
“ยกมาทางนี้ ข้าจัดการเอง”
“แต่ว่าคุณหนูหลี่ ท่านจะเหนื่อยเกินไปแล้ว เมื่อครู่พึ่งจะไปเก็บผักมานะขอรับ”
“ไม่เป็นไร คนอื่นเหนื่อยกว่าข้ามีอีกมากมาย”
ฟ่านถิงเฟยได้แต่มองสตรี ที่ยืนช่วยทำอาหารอยู่ในโรงครัว โดยมีคนของนางช่วยอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับทหาร สตรีที่มีใบหน้าสวย สวมชุดเรียบง่ายและผูกผม กำลังยืนทำอาหารด้วยความตั้งใจ
“นี่สินะ บุคลิกของนางเอกในนิยาย ในเมื่อมีคนแสนดีขนาดนี้อยู่ จะให้ข้ามาอยู่เป็นตัวร้ายทำไมกัน”
“คุณหนู ท่านพึมพำอะไรหรือเจ้าคะ”
“นางก็คือ “หลี่ชุนฮวา” บุตรสาวท่านแม่ทัพสินะ”
“ใช่เจ้าค่ะ”
“ในเมื่อนางทั้งสวย และแสนดีถึงเพียงนี้ เหตุใดข้ายังจะต้องไปสู้กับนางด้วยเล่า ไปกันเถอะ”
“ไปไหนหรือเจ้าคะ”
นางกำลังจะเดินกลับ แต่พลันได้ยินเสียงบางอย่างดังขึ้น ทหารรักษาการณ์ไม่อยู่ เหลือเพียงหลี่ชุนฮวาและสาวใช้ของนาง เมื่อหันกลับไปอีกที ทั้งถิงเฟยและเนี่ยฝู ก็ตกใจกับสิ่งที่เห็น
“พวกเจ้ารีบมาทำสิ โอ๊ย! ร้อนจนหน้าข้าจะไหม้หมดแล้ว หนักชะมัดเลย ให้ตายเถอะ ทำไมท่านพ่อจะต้องมาบังคับให้ข้า ทำอะไรสกปรกแบบนี้ให้พวกชั้นต่ำนี่กินด้วยนะ!”