บทที่1 มันคงเป็นพรหมลิขิต (มั้ง) 3/3
บทที่ 1
เสี่ยดำเกิงร้องลั่นห้องแล้วหันไปมองพ่อของเธอตาเหลือก โกรธจนหน้าดำหน้าแดงไปหมด ต่างจากลูกชายที่ยิ้มแป้นแบบไม่เกรงใจความตึงเครียดของใครเลย
“พี่คิดจะเอาลูกสาวใส่ตะกร้าล้างน้ำให้ลูกผมเหรอ แค่ไม่ชอบลูกเขยก็ไม่เห็นต้องทำกันถึงขนาดนี้เลย ปัดโธ่!”
คนโดนหลอกซ้ำซ้อนกระทืบเท้าออกจากห้องไปอย่างหัวเสีย โดยมีลูกชายรีบเดินตาม ทิ้งเสียงหัวเราะคิกคักไว้เบื้องหลัง หญิงสาวแสยะยิ้มไปด้วยอีกคน ดูท่าเสี่ยดำเกิงคงยังไม่รู้เรื่องที่พ่อของเธอจะหลอกเอาเงินสินสอดถึงได้เข้าใจแบบนั้น แต่ไปเสียก็ดีจะได้ไม่ต้องแต่งงานแลกเงินค่าสินสอด
“นี่มันอะไรกันนุ้ย!”
คุณป้าถามเสียงแหลม สะบัดตัวให้หลุดจากวงแขนของหลานเขยที่เธอหามาอย่างฉุกละหุก มองค้อนแล้วค้อนอีกให้ชายหนุ่มที่เอาแต่ยิ้มสู้
“โอ๊ย! ผู้ชายดีๆ มีตั้งเยอะแยะ ทำไมต้องคว้าเอาเจ้าเทมส์นี่ด้วยนะ”
“แหม...คุณป้าพูดเหมือนไม่รักผมเลย”
คนที่อุปโลกน์ตัวเองเป็นหลานรักยิ้มกะล่อนใส่ป้าของเธอเหมือนเดิม
“ไม่เจอตั้งหลายปี แทนที่จะบอกว่าคิดถึงผม ทำไมสรรเสริญกันอย่างนี้ล่ะครับ”
“ยังจะมาหน้าระรื่น! นี่ทำนุ้ยท้องก่อนแต่งได้ยังไงเทมส์!”
“คุณป้าจะให้ผมเล่าจริงๆ เหรอครับว่าทำยังไง...โอ๊ย!”
ผู้ชายตัวโตๆ ถึงกับร้องลั่นเพราะถูกคนแก่บิดหู จะว่าขำก็ขำอยู่หรอก ไม่เจอกันตั้งหลายปีแต่คุณชบากับเพื่อนของเธอยังดูสนิทกันเหมือนเดิม แต่เห็นเขาต้องเดือดร้อนเพราะช่วยเธออย่างนี้ก็หัวเราะเยาะไม่ออก เอาเป็นว่าจะช่วยเป็นการตอบแทนน้ำใจก็แล้วกัน
“ป้าปล่อยเทมส์เถอะค่ะ” หลานสาวเข้าไปนั่งยองๆ ใกล้คนที่โดนบิดหู “เกิดเป็นอะไรขึ้นมา ลูกในท้องนุ้ยจะมีพ่อเป็นคนพิการเอานะคะ”
“นุ้ยท้องกับเขาจริงๆ เหรอลูก”
ในความคะนองที่ได้ประกาศอิสรภาพของตัวเอง หญิงสาวก็เพิ่งรู้ว่าพ่อเสียใจ เมื่อหันไปเห็นท่านน้ำตารื้นก็ใจหาย จู่ๆ ต้องมารู้ว่าลูกสาวท้องก่อนแต่งอย่างนี้ใครจะรับได้ แต่ถ้าเธอไม่ทำ บอกว่าทั้งหมดเป็นแค่เรื่องโกหก มีหวังได้โดนจับไปแต่งงานหาเงินสินสอดมาล้างหนี้อีกแน่ แต่ต้องทำให้พ่อเสียใจจริงๆ หรือ ไหนจะแม่อีกคน ถ้ารู้เรื่องนี้เข้าจะรู้สึกอย่างไร
“คุณพ่อไม่ต้องห่วงนะครับ ผมสัญญาว่าจะดูแลนุ้ยให้ดีที่สุด”
ลูกเขยจำเป็นของพ่อบอกเสียงหนักท่ามกลางความสับสนของเธอ
“ที่ผ่านมาผมทำอะไรไม่ถูกไม่ควรไป ผมขอโทษครับ แต่ขอให้เชื่อใจว่าผมจะไม่ทิ้งนุ้ยแน่นอน”
พ่อกับป้านิ่งเงียบอยู่นาน สองพี่น้องสบตากันอย่างครุ่นคิด ทำให้เธอลุ้นไปด้วยว่าท่านจะทำอย่างไรต่อ ตอนนี้เธอชักจะยิ้มไม่ออกเสียแล้วกับเรื่องที่กุขึ้นมาเพื่อเอาตัวรอด นี่เธอเล่นแรงไปหรือเปล่าก็เริ่มไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ใจก็คือเธอไม่อยากให้พวกท่านทำหน้าอย่างนี้เลย
“ถ้าเธอทำลูกสาวฉันเสียใจ ฉันจะเผาร้านเธอ!”
พ่อประกาศเสียงดัง แล้วจ้องอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อเสียให้ได้
“แล้วต่อไปห้ามคบกันแบบหลบๆ ซ่อนๆ อีก ถ้าเธอทำอะไรไม่ให้เกียรติลูกสาวฉันแบบนี้อีก เราจะได้เห็นดีกัน!”
“ครับ”
ชายหนุ่มรับคำเสียงหนักแน่นแต่มันจุกเข้าไปถึงในอกของคนก่อเรื่อง เพราะเธออยากเอาตัวรอดแท้ๆ ถึงต้องลากเขาเข้ามาเกี่ยวด้วย ทำให้เขาเดือดร้อนที่ต้องมารับผิดชอบท้องลมของเธอ แถมยังโดนหมายหัวอย่างนี้ มันไม่ใช่เรื่องสนุกเลย
“ถ้าอย่างนั้นผมขอพานุ้ยไปจดทะเบียนสมรสเลยนะครับ”
“เฮ้ย!”
เห็นใจกันได้ไม่เท่าไร เพื่อนรักก็หักเหลี่ยมโหดทำพิษใส่เสียแล้ว
“จะมาจดอะไร ไม่จด!”
“นุ้ย!” กลายเป็นคุณป้าที่ร้องเสียงดังขึ้นมา “นี่นุ้ยกำลังจะมีลูกกับเขานะ นุ้ยจะไม่แต่งงานกับเทมส์ได้ยังไง”
“ไม่ต้องห่วงครับคุณป้า เดี๋ยวอีกสองชั่วโมงผมจะเอานางเนียงวิภา เลิศบดินทร์ ไปส่งถึงบ้านแน่นอน หรือคุณป้ากับคุณพ่อจะไปอำเภอด้วยกันก็ได้นะครับ”
นางสาวเนียงวิภา สมุทรสุนทร ตาเหลือกโพลงขึ้นมาทันที ตกใจสุดขีดจนลืมหายใจไปแล้วด้วยซ้ำ เนื้อตัวเย็นเฉียบจนพูดไม่ออกสักคำ ตระหนักแล้วว่ากำลังกระตุกหนวดเสือ ผู้ชายคนนี้คงไม่ปล่อยให้ตัวเองถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวแน่
นี่เขากำลังแก้เผ็ดเธออยู่ใช่ไหม จู่ๆ จะให้เปลี่ยนสถานะ เปลี่ยนนามสกุล เพียงเพราะเรื่องตลบตะแลงที่กุขึ้นมาเมื่อครู่นั่นจริงๆ หรือ นี่เวรกรรมมันติดจรวดหรือเปล่า แต่เขาคิดอะไรอยู่ถึงจะมาแต่งงานกับเธอ นี่มันทะเบียนสมรสเชียวนะ ไม่ใช่กระดาษที่จะเอามาชั่งกิโลฯ ขายได้ ถึงจะรู้จักกันมาก่อนชนิดรู้ไส้รู้พุงกัน แต่ไม่เจอกันตั้งหกปี เทียมฟ้าเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าจะแต่งงานกับเธอ!
