บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 : คำมั่นสัญญา 3-1

3

คำมั่นสัญญา

“ลื้อหายหัวไปไหนมา? อั๊วกับอาม่า อาอี๊ [1] โทรไปไม่รับสักสาย?”

ภาษาไทยสำเนียงจีนของหนุ่มสูงวัยบอกผ่านร่างเย็นวูบ พร้อมสีหน้าเกรี้ยวโกรธไม่พอใจ

หญิงสาวกระชับเสื้อกราวน์ทับเสื้อมีปกสีครีมอ่อนข้างในด้วยความรู้สึกเสียวสันหลัง หากบิดาบุกมาหาถึงห้องพักใกล้ที่ทำงานในเวลาห้าโมงเย็น แปลว่าคงมีเรื่องสำคัญจริง ๆ หรือไม่ก็มาหาเรื่องทะเลาะเรื่องเดิม ๆ

มันคือคู่หมั้นคู่หมาย อาตี๋ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ที่คนอย่างเมษาไม่เอามาทำสามีแน่!

“อั๊วเข้ากะไม่เป็นเวลา บางวันเช้าบ่ายดึก มั่วไปหมด... ป๊า... อั๊วงานยุ่งนะ จะมาหาทำไม? บอกแล้วว่ามันเสี่ยง”

“ก็อั๊วมีเรื่องจะคุยกะลื้อ! เรื่องอา...”

“ไม่เอา! อั๊วไม่แต่งกับเจ๊ก!”

“ลื้อไม่ใช่เจ๊กหรือไงวะ!?”

ในระยะห่างของการพูดคุยกันเกินกว่าหนึ่งเมตรทำให้ต้องตะเบ็งเสียงอยู่ตลอด

แขกผู้มาเยือนยังไม่ได้ถอดหน้ากากอนามัย ทั้งที่เจ้าของห้องเป็นลูกสาวแท้ ๆ

บิดาในสภาพอาแปะสวมเสื้อยืดอยู่บ้านกางเกงสามส่วนมีท่าทีระแวดระวังบุคลากรทางแพทย์ซึ่งทำงานในโรงพยาบาล ในช่วงที่บ้านเมืองกำลังมีโรคระบาดอย่าง COVID-19 ถึงขั้นไม่ต้อนรับกลับบ้าน โดยไม่ได้สนใจในความเปลี่ยนแปลงของลูกสาว

ด้วยความเป็นคนตัวเล็กเอวบาง หลายคนคงมองไม่ออกว่าหล่อนมีน้ำมีนวลขึ้นเล็กน้อย

‘เมษา’ เป็นลูกสาวคนเล็กนอกจากชื่อตามคุณแม่คนไทยแท้แล้วหล่อนมีชื่อจีนที่บิดาตั้งให้ตามหน้าตาสะสวยของหล่อนเองคือ ‘ทองที่สวยงาม’ 妙金 เมี่ยวจิน ออกเสียงอย่างจีนกลางแต่ชื่อของหล่อนเป็นสำเนียงแต้จิ๋ว

“วันนี้มีผู้ป่วยมาตรวจเลือดตั้งหลายคนแหนะ เกิดอั๊วติดโควิดโดยไม่รู้ตัว ป๊าจะเดือดร้อนเอานา... กลับไปเหอะ อั๊วไอ๊ขื๊ออุ๊กเหลี่ยว”

หล่อนล้วงมือในกระเป๋าเสื้อ อีกข้างโบกมือไล่บอกว่าจะไปนอนแล้ว ขณะที่บิดาอยากมาพูดเรื่องคู่ครองกับลูกสาวให้เข้าใจกันเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมของครอบครัวใหญ่ ก็ต้องเอาให้ได้

“อาเหมี่ยวกิม เมื่อไรลื้อจะลาออกกลับมาอยู่บ้าน แต่ง ๆ กับอาเฮียจางไป มามากเรื่องมากราวทำงานนอกบ้านทำไม? มาช่วยงานที่บ้านนี่ งานตั้งเยอะแยะ”

“ชีวิตอั๊วป่ะ? ป๊าให้อั๊วเกิดมาแล้ว อย่าทวงน่ะ อั๊วดีดโควิดใส่จริง ๆ เข้ามาเซ่...”

เทคนิคแพทย์สาวทำท่าดีดปลายนิ้วใส่ผู้มาเยือนที่ไม่ได้ตลกกับหล่อน ด้วยวัยหกสิบห้าปี คนแก่ขี้กลัวขี้โรคได้ยินมาว่าติดเมื่อไรเปอร์เซ็นรอดชีวิตค่อนข้างต่ำ

“รับรองได้เลยว่าซี้แหงแก๋... ป๊าไม่แข็งแรง ไม่จำเป็นไม่ต้องมาเยี่ยมอั๊วนา เดี๋ยวอั๊วกลับอั๊วเองแหละ”

“ลื้อพูดแบบนี้มากี่รอบ เดี๋ยวกลับเดี๋ยวกลับ อั๊วแก่หง่อมขนาดนี้ จะอยู่อีกสักกี่ปีหา? ให้รอลื้อกลับมาช่วยงาน ป่านนั้นอั๊วคงได้ไปนั่งเล่นไพ่นกกระจอกกับแม่ลื้อบนสวรรค์แล้ว...”

นายคิมหันต์พูดหน้าตาเฉยกับการจากไปของภรรยาเมื่อสองปีก่อน ด้วยต่างคนแต่งงานกันมาด้วยการคลุมถุงชน

ตามแบบฉบับของคนจีนสมัยก่อน โดยส่วนใหญ่ การแต่งงานเป็นไปตามคำสั่งของพ่อแม่และการชักนำของแม่สื่อ ไม่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจเลือกคู่ครองด้วยตนเอง

ในบางกรณี คู่บ่าวสาวจะไม่ได้เห็นหน้ากันก่อนแต่งงานเลยจนเสร็จสิ้นพิธี เข้าเรือนหอแล้วจึงมีโอกาสเห็นหน้ากัน เพราะระหว่างทำพิธีนั้นเจ้าสาวจะมีผ้าแดงคลุมหน้าไว้

ดังสุภาษิตจีนว่า... หญิงสาวแต่งให้พ่อแม่ หญิงหม้ายแต่งให้ตนเอง

ถึงพวกเขาจะมีโซ่ทองคล้องใจมาด้วยกันสองคน คนเล็กเป็นสาวหัวรั้น ส่วนพี่ชายคนโตก็ไม่เอาอ่าว

“อาป๊ามายุ่งไรกับอั๋วเล่า ให้เฮียตี๋ไปช่วยป๊าทำสิ อั๊วเป็นผู้หญิงไม่เกี่ยวป่ะ... คราวที่แล้วป๊าบอกให้อั๊วลองเข้าไปดูว่าคนที่บ้านทำอะไรบ้าง? อั๊วก็เข้าไปดูแล้วไง ทั้งหน้าเว็บไซต์ ทั้งหน้าบริษัทเลย อั๊วลงทุนใช้บริการจัดหาคู่ระดับแพลตตินั่มเมมเบอร์เลยนะ แต่ก็ไม่ถนัดอ่ะ ไม่ใช่สายอั๊ว...”

เมษาได้เถียงแล้วคงไม่หยุดต่อด้วยภาษาแต้จิ๋วยาว ๆ ให้บิดายืนฟังส่ายหน้าไปมา

เรื่องบริษัทจัดหาคู่ ธุรกิจของครอบครัวของแซ่ลี้ หล่อนเคยเข้าไปดูหน้าบริษัทซึ่งได้รับผลตอบแทนจากค่าสมาชิกรายปี สมาชิกหน้าใหม่ได้กำไรพอสมควรในแต่ละปี

จากฐานข้อมูลเว็บไซต์มีการคัดเกรดบุคคลมีอายุหรือหนุ่มสาว ชนชั้นกลางไปจนถึงฐานะร่ำรวย ระดับการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี อาชีพมีหน้ามีตาในสังคม

แน่ล่ะว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเพื่อแลกกับข้อมูลคู่ครองดี ๆ สักคน รายรับอีกทางหนึ่งมาจากค่าโฆษณาจุกจิกยิบย่อย ในส่วนแอพพลิเคชั่นผ่านมือถือ การันตีคุณภาพด้วยการเป็นเจ้าแรกของเมืองไทย

คนดื้อรั้นอย่างเมษาเลยประชดคนที่บ้าน ด้วยการจิ๊กโปรไฟล์ระดับแพลตตินั่มเมมเบอร์มาใช้บริการเองซะเลย แอพในมือถือก็โหลดเล่นไปงั้น ๆ

“อั๊วบอกตอนไหนว่าให้ลื้อเข้าไปใช้บริการ! อั๊วให้ลื้อไปดูว่าคนที่บ้านทำอะไรกันบ้าง? คนเป็นลูกสาวมันต้องมาช่วยกิจการที่บ้าน ดูอย่างบ้านอื่นซี...”

------------

[1] น้าผู้หญิง - ญาติฝั่งแม่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel