บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 ปีศาจลามก[2]

แต่เรื่องเน่าเฟะของตระกูลจวงกลับเป็นเรื่องที่จวงหวั่นอี้พอใจ ไหนๆ ก็รู้ความลับของผู้เฒ่าจวงแล้ว คงต้องสืบเรื่องพ่อบ้านสงกับฮูหยินผู้เฒ่าด้วยจะดีกว่า จะได้จัดการทีเดียวพร้อมกันเลย

คืนนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง และเป็นคืนที่จวงหวั่นอี้ตั้งตารอใครบางคนอย่างตั้งใจ นางต้องคุยกับคนผู้นั้นให้รู้เรื่อง

"รอข้า?"

ร่างสูงในชุดคลุมสีดำโผล่มาไม่ให้สุ้มให้เสียงอีกตามเคย มิหนำซ้ำยังไม่พูดพร่ำทำเพลงก็จะจับนางเปลื้องผ้าเสียแล้ว

"นี่! ท่านหยุดหื่นสักคืนจะได้หรือไม่! ท่านให้เวลาข้าแค่ร้อยราตรี แต่กลับมาหลับนอนกับข้าจนเช้าทุกคืนเช่นนี้ แล้วจะให้ข้าเอาเรี่ยวแรงที่ไหนไปแก้แค้นเล่า!"

"ถ้าอย่างนั้นครึ่งคืนก็คงได้กระมัง"

"__" 

หวั่นอี้ไม่รู้จะด่าปีศาจน่าตายผู้นี้ว่าอะไรดี หากนางรู้ว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ คงจะเรียนรู้คำด่าเอาไว้แต่แรก

"ดะ..เดี๋ยว พวกเราต้องคุยกัน อื้ออออ"

"ไว้เสร็จแล้วค่อยคุยก็ได้"

"ยะ..อย่าพึ่ง อ๊าาา ปีศาจลามก!!!"  

ยังดีที่อีกฝ่ายไม่ได้โกหก ยอมหยุดเพียงครึ่งคืนจริงๆ ร่างเปลือยเปล่านอนหายใจหอบเหนื่อยอยู่บนตั่งด้วยใบหน้ายุ่งเหยิง ไร้เรี่ยวแรงจะต้านทานฝ่ามือเย็นชืดที่ลูบไล้หน้าท้องของตนเอง     

พอหายหูอื้อตาลาย หวั่นอี้ก็พลิกกายหันกลับมาเผชิญหน้า โดยไม่สนอกอวบอิ่มที่เบียดเข้ากับแผงอกกำยำ

"เจ้าทำเช่นนี้ ไม่กลัวว่าจะปลุกอารมณ์ข้าหรือ?"

"เฮอะ! ต่อให้ไม่ทำ ท่านก็มีอารมณ์อยู่ดี ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง พวกเรามาตกลงกันได้แล้ว และอีก.. อื้อออ ทำอะไรของท่านเนี่ย!"

เด็กสาวยังเอ่ยไม่ทันจบ ก้นนุ่มนิ่มก็ถูกลูบไล้จนขนลุกขนชัน

"นี่ท่าน!"

"หึหึ นุ่มมือชะมัด"

ปึก! เมื่อด่าไม่เป็น กำปั้นเล็กเลยทุบที่อกเข้าให้ " ฮึ่ย! ฟังข้าพูดก่อนได้ไหม!"

"เจ้าอยากพูดก็พูดสิ" 

"ก็ท่านเอาแต่จับนู่นขยำนี่อยู่นั่น!" 

"ฮ่าๆ สาวน้อย เจ้านี่มันช่างน่ารักดีจริงๆ"

รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคนตรงหน้า ทำให้หัวใจของหวั่นอี้เต้นแรงจนพูดไม่ออก และเหมือนอีกฝ่ายจะรู้

"เจ้ากำลังหลงเสน่ห์ข้า?"

"ไม่ใช่เช่นนั้นเสียหน่อย ข้าพึ่งจะรู้ว่านอกจากท่านจะเป็นปีศาจราคะแล้ว ยังเป็นคนหลงตัวเองด้วย"

ร่างบอบบางพยายามขยับกายถอยห่างจากการแนบชิด เพราะเริ่มรู้สึกถึงความร้อนของผิวกายที่เสียดสีกัน

"มีอารมณ์?" 

หวั่นอี้ส่ายหน้าปฏิเสธรัวๆ ด้วยความอับอาย รีบเอ่ยถามเพื่อเปลี่ยนเรื่อง "ท่านเป็นใครกันแน่"

"เจ้ารู้แล้วไม่ใช่หรือ"

"ท่านมีนามว่าอะไร ข้าจะได้เรียกถูก" 

"อวิ้นเยว่" 

"เสียงแห่งจันทรา?"

"ข้าว่าคำถามในหัวของเจ้ามีมากมายเกินไปนะสาวน้อย หากจะถามตอบกันไปทั้งคืน สู้พวกเรามาทำอย่างอื่นกันไม่ดีว่าหรือ"

"นี่! อื้ออออ ยะ..อย่ากัด"

คุยกันได้ยังไม่ทันไร ยอดอกสีชมพูอ่อนก็ถูกขบกัดเสียแล้ว หวั่นอี้รู้สึกเหนื่อยอกเหนื่อยใจที่จะห้ามปรามปีศาจบ้ากามผู้นี้จริงๆ

แต่ราวกับอีกคนจะรู้ ถึงไม่ได้รังแกนางจนเกือบฟ้าสางเช่นเคย เช้านี้ถือว่าเป็นเช้าที่หวั่นอี้ตื่นมาปกติที่สุดในสามราตรีที่ผ่านมา

"คุณหนู วันนี้ครบกำหนดสามวันแล้ว ท่านว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะเอาสินเดิมของท่านมาคืนหรือไม่เจ้าคะ"

"ฮึ! หากเอามาคืนก็แปลกแล้ว!"

อินฉีมวยผมให้ผู้เป็นนายเสร็จ ก็รินชาส่งให้อีกฝ่าย "ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะทำอย่างไรกันดีเจ้าคะ"

"ฟ้องศาล"

"เอ่อ ต้องถึงขั้นนั้นเลยหรือเจ้าคะ ถ้าทำอย่างนั้น ชื่อเสียงของท่านอาจจะ..."

"ข้าไม่มีอะไรต้องเสียแล้วพี่อิน เสียชื่อแล้วอย่างไร ในเมื่อท่านพ่อท่านแม่ก็ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว ลำพังข้าคนเดียวยังต้องกลัวอะไรอีก"

อินฉีพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ในใจลึกๆ รู้สึกดีใจไม่น้อยที่คุณหนูของนางไม่ได้อ่อนแอเหมือนก่อน "ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น บ่าวจะอยู่เคียงข้างท่านเจ้าค่ะ"

"ขอบใจมากนะพี่อิน ท่านก็เหมือนพี่สาวของข้า พวกเราถือเป็นคนในครอบครัว"

อีกด้านหนึ่ง จวงจิ้งเหยาที่ค้างในเรือนอนุสองก็ถูกตามตัวไปเรือนฮูหยินผู้เฒ่าแต่เช้าเพราะเรื่องสมบัติของหวั่นอี้

ไม่เพียงแค่คุณชายจวงเท่านั้น ทุกคนในตระกูลก็ต่างมารวมตัวอยู่ที่นี่เช่นกัน รวมไปถึงอนุทั้งสี่ก็ด้วย

"อาจิ้ง! แม่สั่งให้เจ้าไปค้างกับนางนั่น เหตุใดถึงไม่ยอมทำตาม!"

เมื่อบุตรชายมาถึง ฮูหยินผู้เฒ่าจวงก็ตวาดใส่ทันที

 "โธ่! ท่านแม่ขอรับ ท่านก็เห็นแล้วว่านางเปลี่ยนไป ยามที่เข้าใกล้นาง ข้ารู้สึกเหมือนนางไม่ใช่หวั่นอี้คนเดิม แววตาของนางดูน่ากลัวอย่างไรก็ไม่รู้"

"ที่หลานจิ้งพูดมาก็มีเหตุผลนะเจ้าคะ ข้าเองก็รู้สึกเหมือนกัน"

วาจาของสะใภ้บ้านรองทำให้ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ ทุกคนต่างมองหน้ากันไปมา

"หรือว่านางจะถูกผีเข้า?" 

"หลีเอ๋ออย่าได้พูดจาส่งเดช!" นายผู้เฒ่าจวงนิ่วหน้าดุบุตรสาวคนเล็ก ก่อนจะเผลอมองไปที่พ่อบ้านสงโดยไม่รู้ตัว คิ้วสีดอกเลายิ่งขมวดมุ่นกว่าเดิม

 "แต่ที่นางพูดมันก็มีเหตุผลไม่ใช่หรือ" ฮูหยินผู้เฒ่ารีบเอ่ยปากเพื่อช่วยบุตรสาวทันที ซ้ำยังมองค้อนสามีที่นั่งข้างกาย

"ข้าว่า พวกเจ้าควรคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะไม่ให้นางออกจากจวนไปฟ้องศาลได้จะดีกว่ากระมัง ดีกว่ามานั่งคิดเรื่องไร้สาระกันอยู่เช่นนี้"

ความคล้ายคลึงของบุตรสาวกับพ่อบ้านคนสนิท ทำให้นายผู้เฒ่าจวงเกิดอารมณ์เสียขึ้นมากะทันหัน แต่วาจาเมื่อครู่ก็ทำให้ทั้งห้องต้องตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง

"พวกเราหาทางใส่ร้ายนาง เพื่อทำโทษกักบริเวณดีหรือไม่พี่ใหญ่"

"แล้วเจ้าจะกักขังนางได้สักกี่วันเล่าน้องรอง" 

"จริงอย่างท่านพ่อว่าขอรับอารอง"

"นั่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ ก็ฆ่าทิ้งไปเลยก็สิ้นเรื่อง"

"เย่าหลี!!!" 

คำพูดโหดร้ายเช่นนี้ แทบไม่น่าเชื่อว่าจะออกจากปากเด็กสาววัยราวสิบหกสิบเจ็ด

มิหนำซ้ำนางยังพูดเรื่องคร่าชีวิตผู้อื่นได้อย่างหน้าตาเฉย ท่าทางของนางแทบจะถอดออกมาจากพ่อบ้านเก่าแก่ของตระกูลจวง เหมือนจะตอกย้ำความคลางแคลงใจให้นายผู้เฒ่าจวงเข้าไปอีก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel