บทที่ 3
เสียงแหบพร่ากระซิบบอกที่หูนุ่มนิ่มก่อนจะค่อยๆ ขยับสะโพกเข้าออกอย่างช้าๆ เป็นจังหวะตามใจปรารถนา
อินทิราร้องกระเส่าอย่างไร้ซึ่งยางอายทันทีที่ความเสียวซ่านเข้ามาแทนที่ ความเจ็บปวดที่เคยมีค่อยๆ จางหายไปอย่างช้าๆ แปรเปลี่ยนมาเป็นความสุขล้นที่ไม่เคยพาลพบมาก่อนในชีวิตที่กำลังเล่นงานเธออย่างหนัก มือเล็กปัดป่ายไปมาก่อนจะจบลงที่คอแข็งแกร่งของคนตรงหน้าราวกับต้องการหาที่ยึดเหนี่ยว...
บทบรรเลงเพลงรักที่ตอนแรกเริ่มเปรียบได้ดั่งเพลงคลาสสิกอันแผ่วเบาค่อยๆ ทวีคูณเพิ่มจังหวะให้รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ มือหนาสากจับสะโพกของอีกฝ่ายไว้แน่น ตรึงมันเอาไว้ด้วยมือข้างเดียวก่อนจะที่ส่วนแข็งขืนจะกระแทกเข้าออกแรงขึ้นเรื่อยๆ ราวกับควบคุมตัวเองไม่ได้และไม่คิดที่จะควบคุมมันอีกต่อไป
อินทิรากรีดเสียงร้องไม่เป็นภาษาเมื่อบทสวาทที่เริ่มจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเมื่อร่างกำยำกระตุกอยู่นานหลายต่อหลายครั้งพร้อมๆ กับบางสิ่งที่ไหลย้อนเข้าสู่ร่างกายของหล่อน รวมไปถึงเลือดจางๆ ที่บ่งบอกว่าเธอนั้นยังสะอาดหมดจด และเขาก็คือคนแรกที่ได้ครอบครองสิ่งที่แสนวิเศษนี้ ไปพร้อมๆ กับทำลายมันลงด้วยน้ำมือของตัวเขาเอง
กระทั่งเมื่อพายุรักสงบลงชายหนุ่มก็พลิกตัวหวังจะหลับตามหญิงสาวที่กำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่ข้างๆ ไปบ้างแต่สายตาของเขากลับต้องหยุดชะงักลงชั่วครู่ก่อนจะนิ่งค้างอยู่เช่นนั้นไปนานหลายนาทีเมื่อสังเกตเห็นรอยหยดเลือดจางๆ ที่ติดผ้าปูที่นอนสีขาวของตนเองเข้า สิ่งนี้เป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีเยี่ยมว่าเขาคือคนแรกของเธอ
ความรู้สึกดีที่เกิดขึ้นอย่างน่าประหลาดทำเอาชายหนุ่มแทบจะฝันดีไปตลอดทั้งคืน หากแต่เขาไม่ได้รู้ว่าเลยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้นั้นจะกลายมาเป็นฝันร้ายที่หลอกหลอนเขาและเธอไปจนวันตาย...
อินทิรารู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งพร้อมๆ กับความเจ็บปวดไปทั่วร่างราวกับร่างกายนั้นกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ดวงตากลมโตกระพริบถี่ขึ้น ราวกำลังเรียกสติของตัวเองให้กลับคืนมาเมื่อพบว่ามีบางสิ่งเกิดขึ้นกับร่างกายของตัวเอง ก่อนจะสำรวจไปรอบๆ ห้องที่ดูแปลกตาต่างจากห้องพักในโรมแรมของตนเองไปอย่างสิ้นเชิง
ก่อนที่สายตาเธอจะไปหยุดอยู่ที่ร่างกำยำของใครอีกคนที่กำลังนอนหลับอยู่ข้างกาย ดวงตาใสก็เบิกโพลงขึ้นอย่างตกใจสุดชีวิตก่อนจะลอบสำรวจตัวเองอีกครั้งอย่างรวดเร็ว ‘น้ำตาตกใน’ เป็นเช่นไรหญิงสาวก็เพิ่งจะกระจ่างแจ้งแก่ใจตัวเองในวันนี้ เมื่อหันมาพบกับสภาพของตัวเองที่เปลือยเปล่า เนื้อตัวเขียวช้ำเป็นจ้ำเหมือนจะบอกให้เธอได้รับรู้ว่าค่ำคืนที่แสนเลวร้ายที่สุดในชีวิตที่ผ่านมานั้น เกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง
และแน่นอนว่ามันจะเป็นใครไปไม่ได้ทั้งนั้นที่ทำเลวระยำกับเธอได้ถึงขนาดนี้หากไม่ใช่เจ้าของร่างกำยำในสภาพเปลือยเปล่าที่กำลังหลับอยู่ข้างๆ กัน...
“กรี๊ดดดด! แก! ไอ้เลว แกทำอะไรฉัน!!” ทันทีที่ได้สติเสียงหวีดร้องก็ดังขึ้นราวกับควบคุมตัวเองไม่ได้ มือเรียวเล็กที่ทั้งทุบทั้งจิกคนตรงหน้านั้นส่งผลให้ชายหนุ่มที่กำลังหลับลึกอย่างเป็นสุขตื่นขึ้นเต็มตาแทบจะทันที ก่อนจะลุกขึ้นนั่งและรวบเอามือเล็กทั้งสองข้างที่กำลังระดมทุบแผงอกของเขาอย่างเอาเป็นเอาตายของหล่อนเอาไว้แน่นก่อนจะเพิ่มแรงบีบขึ้นไปอีกจนคนตรงหน้าเริ่มจะกรีดร้องไม่เป็นภาษาเมื่อความเจ็บปวดนั้นมาเยือน
“หยุด! นี่ทำบ้าอะไรของคุณ!” เสียงเข้มกระชากถามอย่างหัวเสีย คิดไม่ถึงเลยว่าตื่นขึ้นมาหล่อนจะพยศได้ร้ายกาจถึงเพียงนี้ เพราะหากรู้ก่อนล่วงหน้า เขาคงเลือกที่จะทิ้งให้หล่อนถูกลากไปรุมโทรมเสียให้เข็ด
“ฉันสิที่ต้องเป็นคนถามว่าแกทำอะไรฉัน!” อินทิราตวาดถามกลับทั้งน้ำตาก่อนจะจ้องมองคนตรงหน้าด้วยสายตาแสนเกลียดชังจับใจ หมดสิ้นแล้วทุกๆ สิ่งที่เฝ้าเพียรอุตส่าห์ถนอมมาตลอดครึ่งชีวิต หมดสิ้นแล้วจริงๆ
