บทที่ 3
“ค่ะ” ธัญญาธรเอ่ยตอบรับ หนทางที่เธอเลือกเดินต่อจากนี้แม้จะวุ่นวายด้วยการนำความรักของนันทภพมาพัวพัน ถึงอย่างนั้น ธัญญาธรก็ยอมที่จะทำ และดูเหมือนว่าเรื่องแบบนี้จะอยู่ในความคิดเธอตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ ในใจหญิงสาวกำลังขอโทษชายหนุ่มตรงหน้า แต่หัวใจนันทภพตอนนี้กลับอิ่มเอิบที่ธัญญาธรตอบรับรักและยอมคบหาด้วย เขาทุ่มเทเพื่อเธอมานานหลายปี ในที่สุดธัญญาธรก็ยอมใจอ่อน หรือเหตุการณ์ในวันนี้จะเป็นวันที่ถูกกำหนดไว้แล้ว
“ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มคว้าตัวหญิงสาวเข้ามากอดด้วยความรักเต็มหัวใจ ธัญญาธรนั้นได้แต่ยืนนิ่ง หลังจากนี้เธอจะทำทุกทางให้ได้โรงแรมคืนมา แม้คนอื่นจะมองว่าเธอเอาตัวเองเข้าแลกก็ตาม
ภายในงานวันเกิดครบหนึ่งขวบของภูผาและธารา สองแฝดชายหญิงลูกๆ ของตะวันและพัทธนันท์ที่จัดขึ้นบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้านกำลังครึกครื้น เจ้าของวันเกิดทั้งสองคนอยู่ในอ้อมกอดของพ่อและแม่ต่างยิ้มแย้มแก้มแทบปริ ออกเสียงชัดบ้างไม่ชัดบ้างตามประสา แต่งานนี้คงต้องเป่าเค้กเร็วเสียหน่อยก่อนที่เจ้าตัวเล็กทั้งสองคนจะง่วงนอน ภายในงานมีคู่รักข้าวใหม่ปลามันอย่างพระนายและขวัญข้าวมาร่วมแสดงความยินดี รวมไปทั้งแม่ตะวันที่มีของรับขวัญวันเกิดหลานติดมือมาจากกรุงเทพฯ ด้วย
“เมื่อไหร่จะมีข่าวดีล่ะพี่ขวัญ” อนวัฒน์เอ่ยถามเพื่อนพี่สาว เพราะขวัญข้าวกับพระนายแต่งงานกันมาเกือบปีแต่ยังไม่มีข่าวดีว่าขวัญข้าวตั้งท้องเลย
“ยังจ้ะ…พี่อยากใช้ชีวิตคู่กับพี่พระนายสักปีสองปีก่อนค่อยมีน้อง” ขวัญข้าวหันไปมองหน้าสามีที่กำลังปิ้งย่างอะไรที่มุมบาร์บีคิวอยู่ คนที่ยืนข้างๆ พระนายคือลุงเดชที่วันนี้มาแต่หัวค่ำเพื่อเตรียมงานให้เหลนทั้งสองคน
“อยากให้แม่มาด้วยจัง” พัทธนันท์เปรยขึ้น วันนี้เธอโทรศัพท์ไปบอกแม่แต่เช้าว่าเป็นวันเกิดหลานทั้งสองคน แม่จึงอวยพรมาหลายนาที อาการของแม่เธอนับวันยิ่งทรุดลง ตั้งแต่คลอดเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนเธอก็ขึ้นไปเยี่ยมท่านที่ปายบ้าง แต่พักหลังๆ ยุ่งเรื่องนั่นนี่บ้างจึงไม่ได้ขึ้นไปเยี่ยมเยียนอย่างที่ใจต้องการนัก
“เราค่อยหาเวลาว่างขึ้นไปเยี่ยมท่านแล้วกันนะฟ้า รอให้ผมเคลียร์งานก่อน” ตะวันหันมารับปาก พัทธนันท์จึงพยักหน้าให้สามีก่อนหันมาชวนเพื่อนรัก
“ไปด้วยกันนะขวัญ”
“ดีเลย เราก็อยากไป” ขวัญข้าวเอ่ยสมทบ เพราะที่รีสอร์ทแห่งนั้นมันมีความทรงจำของเธออยู่ด้วย ก่อนที่จะหันไปยิ้มหวานให้ผู้เป็นสามี
“พี่พระนายเองก็ต้องรีบเคลียร์งานด้วยรู้หรือเปล่า”
“ครับ…คุณภรรยาที่รัก” คำพูดของพระนายสร้างรอยยิ้มให้ทุกคนที่ได้ยิน เพราะพระนายเองก็อยากไปพักผ่อน อยากอยู่กับขวัญข้าวในบรรยากาศดีๆ บ้างเหมือนกัน
“ไอ้คลื่น เข้าไปยกเค้กในครัวมาหน่อย ลูกๆ ข้าชักจะง่วงแล้ว” ตะวันมองหน้าลูกสาวในอ้อมกอดที่หาวติดกันหลายครั้งพร้อมยกมือน้อยๆ ขึ้นขยี้ตาไปมาหลังจากนั่งเล่นมานาน บ่งบอกว่าเวลานอนใกล้มาถึงแล้ว เพราะแฝดทั้งคู่จะนอนประมาณทุ่มสองทุ่ม ซึ่งนี่ก็ใกล้จะถึงเวลา
“เออ…” อนวัฒน์เอ่ยออกไปก่อนจะปลีกตัวไปยกเค้กวันเกิดฝีมือขวัญข้าวออกมาให้ตามที่ตะวันบอก พร้อมกับจุดเทียนออกมาด้วย เมื่อเห็นแสงเทียนทุกคนในงานต่างร้องเพลงวันเกิดให้เด็กทั้งสองคน แม้จะฟังไม่รู้เรื่องแต่ภูผากับธาราก็ยิ้มให้ ปรบไม้ปรบมือตามจังหวะที่ได้ยินไปด้วย
“สุขสันต์วันเกิดค่ะลูก” พัทธนันท์หอมแก้มลูกชาย สลับกับลูกสาวในอ้อมกอดตะวันไปมาอย่างรักใคร่ ก่อนจะพาลูกไปเป่าเทียนเด็กน้อยทำท่าจะเล่นแสงไฟและยังเป่าอะไรไม่เป็นนัก พัทธนันท์กับตะวันจึงเป็นคนเป่าเทียนนั้นให้แทน
“ขอบคุณที่มีลูกน่ารักๆ ให้ผม” เมื่อเป่าเทียนเรียบร้อยตะวันก็เอ่ยขึ้นก่อนจะหอมแก้มภรรยาเบาๆ เพราะวันที่ลูกๆ เกิดมา มันคือวันที่พัทธนันท์เจ็บปวดที่สุดเช่นเดียวกัน ความน่ารักของคนทั้งคู่ทำให้ลุงเดชยิ้มให้ ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีตะวันยังดูแลพัทธนันท์ดีเช่นเดิม
เด็กแฝดทั้งสองคนเล่นในอ้อมกอดพ่อและแม่ฉลองงานวันเกิดปีแรกสักพัก พัทธนันท์เห็นว่าลูกๆ ง่วงนอนมากจนงอแงแล้วจึงปลีกตัวพาขึ้นไปนอน ซึ่งตะวันก็อุ้มธาราตามไป ทั้งคู่กล่อมลูกให้หลับก่อนจะกลับลงมาคุยกับทุกคนที่สนามหญ้าหน้าบ้านอีกครั้ง เพราะนานๆ กว่าจะมารวมตัวกันครบแบบนี้ จะขาดก็แค่แม่เธอเท่านั้นที่ตอนนี้ป่วยมาก ซึ่งเธอจะขึ้นไปเยี่ยมในเร็วๆ นี้เช่นกัน
“ลูกๆ หลับแล้วหรือจ๊ะ” แม่ตะวันเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นคนทั้งสองเดินลงมา
“ครับแม่ หลับปุ๋ยไปแล้วฮะ” ชายหนุ่มเอ่ยบอกแม่ก่อนจะเข้าไปนั่งข้างๆ
“งั้น…เชิญคุยกันตามสบายนะจ๊ะ แม่ขอขึ้นไปอยู่กับหลานๆ ก่อน เผื่อแกจะตื่นมากลางคัน ที่สำคัญไม่ได้เจอหน้าตั้งหลายเดือน ขอนอนมองให้หายคิดถึงหน่อย”
“ขอบคุณค่ะแม่” พัทธนันท์เอ่ยบอกแม่สามี แม่ตะวันคงอยากอยู่กับหลานๆ บ้างหลังจากไม่ได้เจอหน้ามาหลายเดือนตามที่บอก เพราะแม่ตะวันอยู่ที่กรุงเทพฯ สองสามเดือนก็ลงมาเยี่ยมตะวันกับเธอที่นี่ แต่พอมีเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนก็ดูเหมือนจะเป็นขวัญใจย่าไปเสียแล้ว
ทั้งหมดคุยกันเรื่องนั้นเรื่องนี้ สร้างเสียงหัวเราะออกมาเป็นระยะๆ เหมือนเล่าเรื่องราวในช่วงที่ไม่ได้เจอกันให้กันและกันฟัง แม้จะเป็นเพื่อนเป็นน้อง แต่ต่างก็โตขึ้นมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบแตกต่างกันออกไป ตะวันกับพัทธนันท์ พระนายกับขวัญข้าว ก็แต่งงานในเวลาไล่เลี่ยกัน ต่างก็มีชีวิตคู่ที่อบอุ่น แม้พัทธนันท์กับขวัญข้าวจะเป็นหุ้นส่วนธุรกิจโรงเรียนสอนทำอาหาร เจอกันในที่ทำงานบ้างแต่นั่นมันก็ไม่เหมือนการได้นั่งคุยอย่างตอนนี้
อนวัฒน์หลังจากเรียนจบก็ออกมาทำงานใช้ทุนให้กับรัฐ เพราะเขาเป็นนักเรียนทุกอันดับต้นๆ ส่วนลุงเดชก็ยังทำงานหนักเช่นเดิม จนอนวัฒน์อดห่วงเรื่องสุขภาพไม่ได้ รวมทั้งอยากให้มีคนมาคอยดูแลเป็นเรื่องเป็นราวหรือเรียกอีกอย่างว่าภรรยา แต่ลุงเดชกับเมินเฉยเสียอย่างนั้น
“คลื่น เราเป็นยังไงบ้าง” พัทธนันท์ที่ถูกตะวันสะกิดที่ข้อศอกเป็นการให้สัญญาณ ตัดสินใจเอ่ยถามน้องชายขึ้น ในใจเธอนั้นอยากถามเรื่องธัญญาธรออกไปตรงๆ มากกว่า แต่ก็พูดไม่ออก ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี
“ก็ดีฮะ งานโอเค ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ออกพื้นที่สักเท่าไหร่” อนวัฒน์เป็นวิศวกร งานของเขาแทบไม่อยู่นิ่งต้องเดินทางไปนั่นนี่ตลอดเวลาเพื่อดูงานที่รับผิดชอบ แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีเวลาควงสาวจนพัทธนันท์จำไม่ได้แล้วว่าเพื่อนหญิงคนสนิทของน้องชายชื่ออะไรกันบ้าง
