หนี้รักซาตาน

168.0K · จบแล้ว
วรนิษฐา
107
บท
4.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ความรักที่มาพร้อมกับความแค้นของอนวัฒน์ที่มีต่อธัญญาธร หญิงสาวผู้เปรียบเหมือนรักแรกของชายหนุ่ม แม้จะรักเธอมากแต่เขากลับเลือกที่จะเอาความแค้นทั้งหมดที่มีมาลงกับเธอเพียงคนเดียว และเพราะว่ารักมากเช่นกัน นั่นจึงส่งผลให้ธัญญาธรยอมทำตามทุกอย่างที่ชายหนุ่มต้องการ เพียงเพื่อชดใช้ในสิ่งที่เธอไม่ได้ก่อ ความแค้นที่เดิมพันด้วยความรัก ย่อมเจ็บปวดเสมอ แต่ภายใต้ความเจ็บปวดกลับมีความสุขแผ่ซ่านอยู่รอบตัวคนทั้งคู่อย่างน่าประหลาดใจ

นิยายรักโรแมนติกประธานแก้แค้นมาเฟียพระเอกเก่งจีบเมียเก่าเลือดร้อนดราม่า

บทที่ 1

อนวัฒน์ ชายหนุ่มผู้ที่ยังจมอยู่กับความรู้สึกในอดีตกำลังมองรูปในมือด้วยสายตาว่างเปล่า รูปที่เขาถ่ายเก็บไว้เมื่อหลายปีก่อน และก็นานมากแล้วที่ไม่ได้หยิบมันออกมาดู วันนี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ ถึงได้รู้สึกอยากเห็นมันนักจนต้องรื้อห้องเก็บของหยิบกล่องที่ถูกปิดผนึกมานานจนฝุ่นเกาะเต็มไปหมดมาปัดฝุ่น รำลึกความหลังที่แสนเจ็บปวด แม้จะผ่านมานานหลายปีแต่เขากลับจำได้แม่นว่าในกล่องมันมีอะไรบ้าง

“แนนนี่” ชายหนุ่มเอ่ยชื่อหญิงสาวในรูปถ่าย สีหน้าแสดงออกถึงความไม่พอใจเมื่อนึกถึงสิ่งที่พ่อเธอได้ทำกับพี่สาวเขาเมื่อหลายปีก่อน และที่สำคัญหลังจากที่เกิดเรื่องเขาก็ไม่ได้พบเธออีกเลยจนถึงตอนนี้

“ไอ้คลื่น ทำอะไรอยู่วะเอ็ง” เสียงของตะวัน ผู้เป็นเพื่อนรักและมีฐานะพี่เขยเอ่ยทักขึ้นทางด้านหลัง เขาเข้ามาในห้องนานแล้วแต่อนวัฒน์กลับนั่งนิ่งไม่รู้สึกตัวสักนิดว่าไม่ได้อยู่คนเดียว

“เปล่า” อนวัฒน์รีบหันหลังกลับไปมองยังต้นเสียง ก่อนจะรีบเก็บของลงกล่องและปิดมันไว้อย่างเดิม

“มารับข้าหรือไง”

“เออน่ะสิ” ตะวันยักคิ้วให้ ก่อนจะเอ่ยต่อ

“งานวันเกิดลูกข้าปีนี้เป็นปีแรกนะเอ็ง รีบๆ หน่อย ป่านนี้ฟ้ากับทุกคนรอแล้ว” น้ำเสียงนั้นแฝงไว้ด้วยความตื่นเต้น ถ้าไม่ติดว่าเขามาเสนองานให้ลูกค้าแถวนี้ รับรองไม่มีทางเข้ามารับอนวัฒน์ถึงที่บ้านอย่างแน่นอน

“ยังไม่เลิกเห่อลูกๆ กันอีกหรือครับคุณพี่เขย” คนพูดออกแนวดูจะค่อนขอดในความบ้าเห่อลูกแฝดของเพื่อนรัก แต่จะว่าไปเขาก็เห่อและรักหลานทั้งสองคนไม่แพ้ใครเหมือนกัน ตะวันไม่พูดอะไรเขาได้แต่ยิ้มให้อนวัฒน์ ก่อนจะลงไปยังรถที่จอดอยู่หน้าบ้าน

ระยะทางจากบ้านอนวัฒน์ไปบ้านของตะวันไม่ไกลมากนัก ขณะที่อยู่ในรถตะวันที่ทำหน้าที่เป็นคนขับก็เอ่ยถามคำถามที่อนวัฒน์มักจะได้ยินบ่อยๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา

“เอ็ง…ได้ข่าวน้องแนนนี่บ้างหรือเปล่า”

“ไม่…เลิกถามถึงผู้หญิงคนนี้ซะทีได้ไหมเอ็งน่ะ จะไปสนใจเขาทำไมนักหนาวะ” อนวัฒน์ทำเสียงเหมือนหงุดหงิดเต็มประดา แต่ตะวันนั้นรู้จักเพื่อนคนนี้ดีว่าภายในใจกำลังคิดอะไรอยู่

“สนสิ…ในเมื่อเขาเป็นคนที่เอ็งรัก” ตะวันหันมามองหน้าเพื่อนผ่านๆ เขานั้นอยากช่วยให้อนวัฒน์สมหวังในเรื่องความรัก เพราะการที่เขามีวันนี้ มีครอบครัวที่อบอุ่น ก็เพราะอนวัฒน์ช่วยเช่นกัน

“ก็แค่ความรู้สึกในอดีต ที่สำคัญข้ายังไม่เคยบอกเอ็งสักคำว่ารักผู้หญิงคนนั้น”

“ไม่รักแล้วจะรอเขาทำไม” คำพูดของตะวันทำให้อนวัฒน์ถึงกับสะอึก ก่อนที่เพื่อนสนิทจะพูดอีกประโยคที่แทงใจดำเข้าอย่างจัง

“ข้ารู้ว่าที่เอ็งทำตัวเจ้าชู้ประตูดินควงสาวไม่ซ้ำหน้าแบบนี้ก็เพราะใคร”

“หึหึ…ใช่ ข้ายังรอผู้หญิงคนนั้นอยู่ แต่รอเพื่อเอาคืนกับสิ่งที่ครอบครัวนั้นได้ทำกับพี่สาวข้า ทำกับเมียเอ็ง” อนวัฒน์กำหมัดแน่น ตะวันได้แต่ส่ายหน้าให้กับความเจ้าคิดเจ้าแค้นนี้ เพราะเขากับพัทธนันท์ไม่คิดติดใจกับเรื่องนั้นแล้วโดยเฉพาะกับธัญญาธร เพราะมันคืออดีตที่กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ และที่สำคัญธัญญาธรเองก็ไม่ได้รู้เรื่องที่พ่อเธอได้ก่อไว้ แต่อนวัฒน์กลับโทษว่าเป็นความผิดของเธอไปด้วย

“ปล่อยวางเถอะว่ะไอ้คลื่น เล่นกับหัวใจมันเจ็บเอ็งก็รู้” ตะวันได้แต่พูดเตือนเท่านั้น เพราะถ้าอนวัฒน์ยังทำแบบนี้มันมีแต่ความเจ็บเท่านั้น แค่นี้เขาก็รู้ว่าอนวัฒน์เฝ้ารอธัญญาธร รอให้เธอกลับมายังสถานที่ที่ได้พบกันครั้งแรก เพราะถ้าไม่รอยังจะไปทำงานพิเศษเป็นไลฟ์การ์ดที่โรงแรมนั่นตอนว่างๆ อย่างนั้นน่ะเหรอ

อนวัฒน์ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขานั่งนิ่งไปตลอดทาง ในใจชายหนุ่มตอนนี้อาจจะเป็นอย่างที่ตะวันพูดก็เป็นได้ ความรู้สึกที่มีต่อธัญญาธรคือทั้งรักทั้งแค้นปะปนกันจนแยกไม่ออก ถ้าวันหนึ่งเกิดมีเหตุการณ์ทำให้เขาได้พบหน้ากับเธออีกครั้ง อนวัฒน์เองก็ยังไม่รู้ว่าเขานั้นจะทำตัวยังไง แต่เหมือนความคิดในใจตอนนี้จะกลายเป็นจริงเสียแล้ว เมื่อสายตาของอนวัฒน์มองเห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังนั่งอยู่ในรถคันที่กำลังขับสวนทางกับรถของเขาบนถนน ความที่ซอยค่อนข้างแคบ ทำให้ความเร็วรถนั้นมีไม่มากนัก

“แนนนี่” ชายหนุ่มเผลอเรียกชื่อหญิงสาวคนนั้นออกมาอย่างแผ่วเบา อยู่ๆ หัวใจก็เต้นแรงรัวอย่างตื่นเต้น แต่ใบหน้ากลับยังคงเรียบเฉย เพราะคิดว่าตัวเองตาฝาดไป นั่นทำให้อนวัฒน์เพ่งสายตามองออกไปนอกรถ และเพื่อความแน่ใจจึงลดกระจกรถลง แต่ก็สายไปเสียแล้ว เมื่อรถคันดังกล่าวขับสวนไปเสียก่อนที่เขาจะแน่ใจว่าคนที่มองเห็นคือธัญญาธร

“เป็นอะไร” ตะวันที่ขับรถอยู่เห็นท่าทางแปลกๆ ของเพื่อนก็อดที่จะเอ่ยถามขึ้นไม่ได้

“เปล่า…สงสัยจะตาฝาด” อนวัฒน์คิ้วขมวด แต่ในใจนั้นกำลังคิดว่าผู้หญิงที่เขาเห็นเมื่อครู่จะใช่ธัญญาธรหรือเปล่า แม้จะดีใจแต่ลึกๆ ชายหนุ่มกลับตอบตัวเองอย่างหนักแน่นและเด็ดเดี่ยว ว่าต่อให้ใช่ ธัญญาธรหรือไม่ใช่ มันก็ไม่สำคัญสำหรับเขาทั้งนั้น

ธัญญาธร วีระพันษ์ติโชติ หรือแนนนี่ ก้าวเท้าลงจากรถยนต์ส่วนบุคคล เหม่อมองโรงแรมเลยไปถึงชายหาดขาวสะอาด สถานที่ที่เธอเคยมีแต่ความทรงจำดีๆ แต่ตอนนี้เธอกลับไม่มีมันอีกแล้ว โรงแรมที่เคยเป็นของพ่อตอนนี้ได้เปลี่ยนมือไปเป็นของคนอื่น รวมทั้งบ้านหลังใหญ่ที่เคยอยู่อาศัยเป็นหน้าเป็นตาก็หลุดลอยไปเช่นกัน

หลังจากเหตุการณ์ที่พ่อเธอลอบวางเพลิงทำร้ายคนที่เธอรักไปครังนั้นดูทุกอย่างจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยก็ว่าได้ แม่จากคนที่เข้าสังคมกลับเก็บตัวเงียบเพราะทนต่อสายตาคนรอบข้างไม่ได้ แต่ก็แค่ช่วงเวลาสั้นๆ พอคิดว่าคนอื่นลืมเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว แม่ก็กลับไปเป็นแม่ผู้หลงวัตถุนิยมและดูจะมากขึ้นไปอีก แม้จะอยู่บ้านหลังเล็กลงจากเมื่อก่อน แต่ของตกแต่งกลับหรูหราผิดกับสภาพภายนอกลิบลับ

เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เธอสูญเสียหลายอย่างมาก หนึ่งในนั้นคือความรักที่เธอเพิ่งเคยสัมผัสมันครั้งแรก และครอบครัวที่ดูจะแยกกันไปคนละทิศคนละทางจนต่อกันไม่ติด คำว่าครอบครัวค่อยๆ เลือนหายไปกับหน้าที่การงานของแต่ละคน พ่อแม่ไปทาง ส่วนเธอก็ไปอีกทาง

“คิดถึงจัง” หญิงสาวรำพึงกับตัวเอง มองไปยังโรงแรมที่แสนคิดถึงและอยากเอามันคืนมา หลายปีแล้วที่ไม่ได้มาเหยียบที่นี่ แต่หลังจากร่ำเรียนบริหารจนจบด้วยความยากลำบากทางการเงินเนื่องจากค่าใช้จ่ายทุกอย่างมันมาจากน้ำพักน้ำแรงของเธอทั้งนั้น ธัญญาธรตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่าจะกลับมา เธอเลือกโรงแรมแห่งนี้เป็นที่แรกในการสมัครงานและก็ได้มันจริงๆ แม้จะเป็นแค่พนักงานต้อนรับธรรมดาเมื่อเทียบกับวุฒิปริญญาตรี แต่เธอก็ไม่เกี่ยงงอน