บท
ตั้งค่า

บทที่ 4

“บ้าเอ๊ย” อาคมสบถออกมาอีกครั้ง ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้อย่างหมดเรี่ยวแรง เขารู้ว่าวันนี้จะต้องมาถึง แต่ไม่คิดว่าจะมาถึงเร็วกว่าที่คิด แถมเหตุการณ์ยังเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาพริมาอีกด้วย

“พ่อขอโทษนะพริม” คำขอโทษดังมาจากอาคม แต่พริมากลับไม่ได้เอ่ยตอบอะไรกลับไปแม้แต่น้อย เธอมองพ่อด้วยแววตาผิดหวังที่อาคมเองก็สัมผัสได้ นั่นยิ่งทำให้อาคมรู้สึกผิด แต่หนี้ที่พอกไว้มันก็หนาเกินจะแก้ไขได้ในครั้งเดียว อย่างน้อยสมบัติที่มีในตอนนี้ก็พอจะจ่ายหนี้ของเสี่ยโกศลไปได้ แต่ก็จะเหลือหนี้อีกหลายก้อนที่ต้องสะสาง โดยเฉพาะของอินทัช

เมื่อมีการทวงหนี้ครั้งแรกเกิดขึ้น ครั้งที่สองสามสี่ก็ตามมา จนทำให้พริมาหวาดระแวงการอยู่บ้าน เพราะเธอไม่ชอบสายตาเจ้าหนี้ของพ่อมากนัก และเมื่อไม่มีเงินใช้หนี้การใช้กำลังบังคบขู่เข็ญจึงเกิดขึ้น และนั่นก็ทำให้อาคมนอนหยอดน้ำข้าวต้มอยู่หลายวัน

ในขณะที่เจ้าหนี้รายใหญ่อย่างอินทัชเองก็ยังคงใจเย็นเป็นน้ำแข็ง เพราะชายหนุ่มไม่ได้เอ่ยทวงเงินจากอาคมเลยแม้แต่ครั้งเดียว หรือแม้แต่ส่งคนไปทวงด้วยซ้ำ แถมยังบอกให้เข้ามาเล่นที่บ่อนได้ทุกเมื่อตามต้องการ จนยุทธนาเกิดความสงสัย

“ทำไมเจ้านายถึงยังปล่อยคุณอาคมไว้ครับ เพราะหากเป็นคนอื่นที่ติดหนี้มากมายขนาดนี้ ป่านนี้คงหายสาบสูญไปแล้ว”

“เพราะฉันมีเหตุผลนะสิ” อินทัชเอ่ยยิ้มๆ

“บอกผมได้ไหมครับว่าคืออะไร”

“ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ แต่อีกสองสามเดือนต่อจากนี้เดี๋ยวนายก็รู้เอง”

“ครับ” ยุทธนาเอ่ยรับทันที เพราะขืนยังอยากรู้ไปมากกว่านี้ เขาอาจตกงานเอาได้

“แล้ววันนี้คุณอาคมมาที่บ่อนหรือยัง”

“ยังไม่เห็นครับ”

“ถ้ามาแล้วบอกฉันด้วย หรือไม่ก็เชิญมาพบฉันหน่อย”

“ครับนาย” เอ่ยรับเสร็จยุทธนาก็กลับออกไปจากห้องทำงานของอินทัช และเมื่ออยู่ตามลำพังชายหนุ่มก็หัวเสียอย่างเห็นได้ชัด

“ไม่ชอบเลยงานตรวจบัญชีพวกนี้เลยให้ตาย...เฮ้อ” ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาหนักๆ ก่อนจะยกมือขึ้นกุมขมับตัวเอง เพราะไม่ว่าจะพยามยามยังไง งานที่เกี่ยวกับความละเอียดของตัวเลขที่เรียกว่าบัญชีก็เหมือนจะไปไม่รอด ให้เขานั่งนับเงินสดหรือนับเช็คยังจะดีเสียกว่า

แต่ถึงอย่างนั้นอินทัชก็ต้องทำด้วยตัวเอง เพราะเคยปล่อยให้ลูกน้องทำแล้วเกิดการโกงขึ้น กว่าจะจับได้เขาก็สูญเงินไปเป็นล้าน แต่เขาก็คิดดอกเบี้ยคนโกงด้วยวิญญาณของมันเหมือนกัน

วันนั้นอินทัชไม่ได้พบอาคม เพราะเขาออกไปทำธุระเสียก่อน บ่อนคือธุรกิจที่เขาไม่ได้ตั้งใจจะเข้ามาดูแลตั้งแต่แรก แต่เพราะรับช่วงต่อจากผู้มีพระคุณที่ขอวางมือ ทำให้เขากลายมาเป็นเจ้าของคนใหม่โดยปริยาย แต่พอจะวางมือก็เสียดายบรรดาลูกค้าและลูกหนี้ที่รายชื่อนั้นยาวเป็นหางว่าว จึงจำต้องเก็บไว้ทวงหนี้แก้เซ็ง

ธุระที่อินทัชมาจัดการคือการควบคุมดูแลโครงการอสังหาริมทรัพย์ของชายหนุ่มนั่นเอง อินทัชมีทั้งโครงการบ้านเดี่ยวแบบลักชัวรี่มูลค่าหลายพันล้าน คอนโดมิเนียมระดับพรีเมียมกลางกรุงอีกหลายแห่ง แต่ประวัติของเขายังคงถูกปกปิด ซึ่งน้อยคนจะได้รู้จักตัวตนของชายหนุ่มคนนี้

อินทัชมองว่าประวัติความเป็นมาของเขานั้นไม่ได้สำคัญหรือจำเป็นต่อใครจึงเลือกที่จะไม่เปิดเผย แม้สื่อในแวววงอสังหาริมทรัพย์จะให้ความสนใจโครงการของชายหนุ่มเป็นอย่างมาก รุมขอสัมภาษณ์ แต่ทว่าเขากลับไม่เคยให้สัมภาษณ์ที่ไหน รวมถึงออกงานที่ใดเลยแม้แต่งานเดียว

ชายหนุ่มตรวจงานกระทั่งเย็นมากแล้ว จึงกลับออกไป โดยระหว่างทางนั้นอินทัชก็นั่งทอดสายตามองออกไปนอกตัวรถอย่างใช้ความคิด กระทั่งถึงบ้านหลังใหญ่ที่ชายหนุ่มเป็นคนออกแบบและตกแต่งภายในด้วยตัวเองเกือบทั้งหมด ทุกมุมของบ้านล้วนแต่เป็นมุมโปรดของเขาทั้งนั้น แต่ทว่าบ้านหลังโอ่อ่ากลับดูเงียบเหงากว่าที่คิด

“คืนนี้นายรีบกลับหรือเปล่ายุทธ”

“ไม่ครับ”

“งั้นไปดื่มเป็นเพื่อนฉันหน่อย”

“ครับเจ้านาย” ยุทธนาเอ่ยรับ แม้จะสงสัยว่าเจ้านายหนุ่มมีเรื่องกังวลอะไรถึงได้ชวนเขาดื่มเหล้า แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ลูกน้องอย่างเขาต้องถามเพื่อเอาคำตอบเช่นเดียวกัน

เสียงกดออดจากบ้านหลังข้างๆ เสียงบีบแตรรถ เสียงฝีเท้าที่ดังขึ้น ล้วนแต่ทำให้พริมาสะดุ้งโหยง เพราะเธอเกิดอาการหวาดกลัวจนหลอนไปเสียแล้ว เนื่องจากหลายวันมานี้เจ้าหนี้ของพ่อต่างบุกมาที่นี่เพื่อทวงหนี้ไม่ได้หยุด เมื่อไม่ได้เงินคนพวกนั้นจึงหยิบยกข้าวของภายในบ้านไปจนเกือบหมด ภายในบ้านตอนนี้จึงมีแต่ความว่างเปล่า

เธอคาดคั้นกับพ่อว่าเหลือหนี้อีกเท่าไหร่ แต่ทว่าอาคมกลับไม่ตอบอะไรกลับมา นั่นยิ่งทำให้พริมาโมโหจนเผลอตะคอกถามพ่อกลับไปทั้งน้ำตา ว่าเธอต้องเอาตัวเองไปใช้หนี้แทนพ่อด้วยหรือไม่

เพี๊ยะ

เสียงตบฉาดใหญ่ดังขึ้นภายในบ้าน มันดังกึกก้องอยู่ในโสตประสาทของพริมา ใบหน้าเล็กๆ ที่ผิวแก้มขาวละเอียดขึ้นรอยแดงเป็นรูปนิ้วมือทันที ความเจ็บที่แก้มนั้นไม่สู้เจ็บที่ใจเลยแม้แต่น้อย

“พริม...พ่อขอโทษ” อาคมเอ่ยบอกด้วยเสียงสั่นเครือ เขาก้มมองฝ่ามือข้างขวาของตัวเองที่เมื่อครู่ใช้ตบใบหน้าของลูกสาวเต็มแรง เพราะโกรธกับคำพูดที่พริมาได้เอ่ยออกมา

“ตั้งแต่เกิดมาแม่หรือพ่อไม่เคยตบหรือทำร้ายพริมเลย แต่วันนี้พ่อ...” น้ำเสียงของพริมาสะอื้น เพราะรู้สึกจุกในอกเธอจึงพูดได้แค่นี้

“พ่อขอโทษนะพริม”

“เอาพ่อคนเดิมของพริมกลับมาได้ไหม พ่อคนเดิมคนดีของแม่กับพริม” พริมาเอ่ยบอกทั้งน้ำตา เพราะตั้งแต่แม่เสียชีวิตไป พ่อก็ไม่ทำงานจนถูกไล่ออกจากบริษัท แถมยังเอาเวลาไปเข้าบ่อนจนเป็นหนี้ท่วมหัวอย่างตอนนี้อีก

“พ่อคนนั้นได้ตายไปกับแม่แล้วพริม ตายไปพร้อมแม่แล้ว” จุดหักเหของชีวิตอาคมเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ภรรยาเสียชีวิตไปก็ว่าได้

“พ่อ”

“แต่พ่อคนนี้ก็จะพยายามดูแลลูกเท่าที่พ่อจะทำได้ พ่อไม่อยากทำให้ลูกผิดหวังจริงๆ นะพริม” นั่นเพราะตั้งแต่ถูกซ้อมจนลุกไปไหนไม่ได้ อาคมก็ไม่พาตัวเองเข้าบ่อนอีกเลย แม้จะยังไม่รู้ว่าต่อจากนี้จะไปหาเงินมาใช้หนี้จากไหน แต่การไม่ก่อหนี้เพิ่มก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีในตอนนี้

“งั้นพ่อก็ต้องบอกพริมาให้หมดว่าตอนนี้เหลือหนี้กับใครบ้างแต่ละคนพ่อไปเป็นหนี้เขาเท่าไหร่ นะคะพ่อ เราจะได้ช่วยกันหาทางออก”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel