บทที่ 3
“ค่ะ...พริมจะคว้าเกียรตินิยมให้ได้เหมือนแม่”
“ดีลูกดี”
“ถ้าพริมทำได้ พริมอยากขอพ่ออะไรสักอย่างได้ไหม”
“อะไรหรือลูก” อาคมพอจะเดาได้ว่าพริมานั้นจะเอ่ยขออะไร
“พริมอยากให้พ่อเลิกเข้าบ่อน หยุดเล่นการพนันได้ไหมคะ แล้วหลังจากนี้พริมจะหาเงินเลี้ยงพ่อเอง”
“พ่อ” คำขอของพริมาทำให้อาคมอึกอักทันที นั่นเพราะไม่มั่นใจจริงๆ ว่าจะทำได้มากแค่ไหน
“ได้ไหมคะพ่อ ถือว่าพริมขอ”
“พ่อจะพยายามนะพริม”
“แค่พ่อบอกว่าจะพยายาม พริมก็ดีใจมากแล้วค่ะ” พริมาน้ำตาเอ่อ เพราะเธอไม่เคยขอเรื่องทำนองนี้กับพ่อเลย หวังลึกๆ ว่าสักวันพ่อจะคิดได้ แต่ดูเหมือนสิ่งที่เธอคิดมันจะไม่เป็นแบบนั้น
ในขณะที่ยุทธนาซึ่งแอบสะกดรอยตามอาคมมาตั้งแต่ออกจากบ่อน ก็รีบกลับไปรายงานข่าวให้ผู้เป็นนายรู้ทันที ว่าอาคมเอาเงินที่ได้ไปใช้ทำอะไร
“ให้ลูกสาวอย่างนั้นเหรอ” อินทัชยิ้มมุมปากออกมานิดหน่อย เพราะไม่คิดว่าคนอย่างอาคมจะนึกห่วงความรู้สึกของลูกสาวตัวเองด้วย
“ขอบใจมากยุทธ นายไปพักเถอะ”
“ครับนาย”
พริมารีบไปมหาวิทยาลัยในวันรุ่งขึ้น เมื่อจัดการจ่ายเงินค่าเทอมเทอมสุดท้ายเสร็จก็เหมือนยกภูเขาลูกใหญ่ออกจากอก แม้จะกังวลเรื่องที่มาของเงินที่พ่อไปหยิบยืม แต่ก็ให้คำมั่นกับตัวเองว่าเธอจะช่วยหาเงินเพื่อให้พ่อนำไปใช้หนี้อีกแรง
แต่ทว่าเมื่อเดินกลับมาที่ตึกเรียน เธอก็เห็นณดลแฟนหนุ่มที่เวลานี้นั่งอยู่ที่โต๊ะกับอารยาเพื่อนสนิทของเธอนั่นเอง ทั้งคู่หยอกล้อกันอย่างสนุก หากเป็นคนอื่นคงมองว่าพวกเขาเป็นคู่รักกัน
“พริม...มาตั้งแต่เมื่อไหร่” อารยาเอ่ยถามด้วยความตกใจ เมื่อหันมาแล้วเจอเข้ากับพริมาพอดี
“พึ่งมานะ แล้วหมวยกับณดลล่ะ มาถึงกันนานแล้วหรือยัง” พริมาเอ่ยถามกลับไปบ้าง ซึ่งอารยาก็รีบตอบแต่ทว่าณดลกลับเลือกที่จะถามเธอกลับมาแทน
“เราก็พึ่งมาเหมือนกัน”
“พริมกินข้าวมาหรือยังครับ”
“กินแล้วจ้ะ” พริมาเอ่ยตอบพร้อมส่งยิ้มให้แฟนหนุ่ม ที่เธอคบหากันมาได้เกือบสองปีแล้ว ณดลเป็นผู้ชายอบอุ่นและเขาก็เข้าใจเธอในทุกๆ เรื่อง
“งั้นเราขึ้นเรียนกันเถอะ เดี๋ยวเช็คชื่อไม่ทัน” ณดลเอ่ยชวน ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวที่นั่งอยู่ ชายหนุ่มที่สูงเกือบร้อยแปดสิบเซ็นติเมตรเดินอ้อมมาหาพริมาแล้วยื่นมือมาขอช่วยถือหนังสือเรียนให้เธอ
“ขอบใจนะ”
“ด้วยความยินดีครับ” เสียงทุ้มของณดลเอ่ยตอบ จากนั้นทั้งสามก็ขึ้นเรียนพร้อมกัน พริมาจำครั้งแรกที่เธอพบกับณดลได้ดี เพราะเจอเขาในลิฟต์ และไปเจออีกครั้งตอนที่ชายหนุ่มเดินหาห้องเรียน วันนั้นเขาเข้ามาถามทาง ซึ่งเธอก็ตอบไปตามมารยาท แต่พอเลิกเรียนก็โคจรมาเจอกันอีก
จากการรู้จักแบบบังเอิญวันนั้นก็ค่อยๆ ขยับมาสนิทสนม และเมื่อปีก่อนณดลก็ขอเธอเป็นแฟน ซึ่งพริมาก็ตอบตกลง แต่ทำสัญญาว่าจะไม่มีอะไรกันจนกว่าทั้งคู่จะเรียนจบ ซึ่งณดลก็รับปาก
ในสายตาของเพื่อนๆ พริมาและณดลคือคู่รักที่น่าอิจฉา โดยเฉพาะณดลที่ยิ่งใกล้จะเรียนจบความฮอตของชายหนุ่มก็ยิ่งมีมากขึ้น เพราะรุ่นน้องหลายคนต่างปลื้มรุ่นพี่หนุ่ม ยิ่งเขาหล่อ สูง โปรไฟล์ดี ก็ยิ่งตรงสเปคของสาวๆ ทั้งในและต่างคณะ
“มาอีกแล้ว”
“อะไรมาอีกแล้วเหรอหมวย” เพราะไม่เข้าใจประโยคที่ได้ยินทำให้พริมาเอ่ยถามขึ้น
“เด็กปีหนึ่งคนนั้นไง มาโผล่หน้าห้องเรียนอีกแล้ว”
“น้องคงมีธุระแถวนี้มั้ง”
“เธอนี่ก็มองโลกในแง่ดีเกินไปนะพริม มองไม่ออกหรือยังไงว่าเด็กนั่นจงใจมาเพื่ออ่อยแฟนตัวเอง” อารยายืนกอดอกมองพริมาอย่างอ่อนใจ ที่มองโลกใบนี้ในแง่ดีไปเสียทุกอย่าง แฟนตัวเองจะถูกแย่งไปแท้ๆ ยังใจเย็นอยู่ได้ ถ้าเป็นเธอล่ะก็ ตบเป็นตบ
“อ่อยดลเนี่ยเหรอ”
“ใช่...อ่อยด้วยนมตู้มๆ สามร้อยห้าสิบซีซีคู่นั้น”
“แต่ของแบบนี้ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอก อีกอย่างเราก็ไว้ใจดลด้วย” พริมาเลือกที่จะวางความไว้ใจไว้กับณดล เพราะที่ผ่านมาชายหนุ่มไม่เคยทำอะไรให้เธอเสียใจเลย
“ไว้ใจน่ะมันดีแต่อย่างไว้ใจจนไม่เอะใจนะจ๊ะเพื่อน” อารยาเอ่ยบอก และในเมื่อพริมาไม่จัดการเรื่องนี้ เธอก็คงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย ในเมื่อพริมาอยากสวมบทเป็นแม่พระเธอก็จะไปมีสิทธิ์อะไรได้ มีเขางอกบนหัวเมื่อไหร่เธอค่อยสะกิดบอกแล้วกัน
“น้องคนเมื่อกี้ ใครหรือดล” เมื่อเห็นณดลเดินกลับมาสมทบ อารยาก็ชิงถามขึ้น
“รุ่นน้อง มาชวนไปปาร์ตี้วันเกิดคืนนี้ แต่เราปฏิเสธไปแล้วนะว่าไม่สะดวก” ขณะเอ่ยตอบณดลก็มองหน้า พริมาตลอดเวลา เพื่อให้เธอมั่นใจว่าเขานั้นไม่มีนอกในกับผู้หญิงคนอื่นจริงๆ
“ดลไปได้นะ เราไม่ว่า”
“รู้ว่าพริมไม่ว่า แต่เราเลือกความสบายใจที่จะไม่ไปเองมากกว่า”
“พ่อคนดีศรีสังคม หาแบบนี้ได้ที่ไหนอีกนะ” ไม่วายที่อารยาจะแขวะณดล แต่เพราะสนิทกันจึงพูดหยอกล้อในทำนองนี้เป็นประจำ
“คงยากแล้วล่ะหมวย” ณดลหันไปตอบอารยา ก่อนที่เธอจะแยกเขี้ยวใส่ชายหนุ่ม และสุดท้ายพริมาก็เข้ามาห้ามศึกครั้งนี้อีกจนได้
เมื่อวานเธอเครียดจนนอนไม่หลับ แต่วันนี้กลับหัวเราะได้เพราะณดลและอารยา หนึ่งคือแฟนที่เธอรักในขณะที่อีกหนึ่งคือเพื่อนสนิทที่คุยกันได้เกือบทุกเรื่อง ซึ่งทั้งสองคือคนที่เธอนั้นไว้ใจ
แต่ชีวิตของพริมา ก็มักจะมีบททดสอบใหม่ๆ เข้ามาอยู่เสมอ แม้จะเคลียร์เรื่องค่าเทอมไปได้ แต่เรื่องหนี้สินที่เกิดจากการพนันของผู้เป็นพ่อนั้นก็ยังพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่ได้มีเพียงบ่อนของอินทัชเท่านั้นที่อาคมเข้าไปเป็นลูกค้า
อย่างเช่นวันนี้ วันที่มีเจ้าหนี้บุกเข้ามาถึงในบ้าน แล้วจัดการขนข้าวขนของที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้ไปจนเกือบหมด พริมาได้แต่ยืนมองเพราะห้ามเท่าไหร่ชายชุดดำเหล่านั้นก็คงไม่หยุด ในขณะที่พ่อของเธอก็ทำอะไรไม่ได้เช่นเดียวกัน ก่อนจะยื่นกุญแจรถยนต์คันเดียวที่มีอยู่ให้เจ้าหนี้ไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ขอไว้สักวันสองวันไม่ได้หรือ”
“ไม่ได้” ชายชุดดำเอ่ยตอบเสียงห้วน ก่อนจะเหล่มองมายังพริมาอย่างสนอกสนใจ แต่ก็กลับไปโดยไม่ได้พูดอะไร แต่ท่าทางรวมถึงแววตาจากชายคนมื่อครู่กลับทำให้พริมานึกกลัวขึ้นมาจับหัวใจ ว่าหากวันหนึ่งพ่อไม่มีเงินไปจ่ายหนี้ขึ้นมา ชีวิตเธอจะเป็นยังไงต่อ
