บทที่ 2
ซึ่งทันทีที่รู้ว่าสามารถเปิดเครดิตได้ตามที่ขอ อาคมก็ลิงโลดและไม่รีรอที่จะเข้าไปเสี่ยงดวงต่อทันที แต่ทว่าเครดิตเงินแสนที่ได้มากลับค่อยๆ ปลิวหายไปกับดวงที่ยังไม่เข้าข้าง ถึงอย่างนั้นอาคมก็ไม่หยุดที่จะเสี่ยงดวง กระทั่งเหลือเงินเครดิตเพียงไม่กี่หมื่นจึงนึกอะไรขึ้นมาได้
“ฉันขอพบคุณอินทัชได้ไหม”
“ขอพบธุระอะไร” ยุทธนาเอ่ยถามเสียงห้วน
“ธุระสำคัญ ขอฉันพบเถอะ แค่ห้านาทีก็ยังดี” อาคมวิงวอน แม้อยากจะปฏิเสธไม่ให้พบ แต่สุดท้ายยุทธนาก็จำต้องเข้าไปบอกเจ้านายตามที่อาคมขอ เพราะอินทัชเคยบอกให้ตนนั้นคอยดูแลอาคมให้ดีๆ มีอะไรให้รีบบอก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาเพิกเฉยไม่ได้
“นายครับ คุณอาคมอยากขอพบ”
“บอกไหมธุระอะไร” อินทัชเอ่ยถาม ในขณะที่สายตายังคงจดจ่ออยู่กับการตรวจบัญชีที่ค่อนข้างจะมีรายละเอียดยิบย่อย ซึ่งเขายอมรับว่าไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่อาจปล่อยให้ลูกน้องทำแทนตัวเองได้เช่นเดียวกัน
“บอกแค่ธุระสำคัญครับ” คำตอบของยุทธนาทำให้ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นจากงานที่กำลังทำ สีหน้าของอินทัชดูครุ่นคิด ในขณะที่มือข้างขวาซึ่งกำปากกาอยู่ก็ใช้เคาะกับโต๊ะทำงานเป็นจังหวะเบาๆ
“เครดิตที่ให้ไปหมดแล้วหรือ”
“ยังครับ”
“รออีกสิบนาทีค่อยให้เข้ามา”
“ครับ” ยุทธนาเอ่ยรับแล้วเดินกลับออกไปจากห้องทำงานของเจ้านายหนุ่มเพื่อบอกอาคม แต่ทว่าสิบนาทีของอาคมช่างยาวนาน ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องบอกให้ตัวเองรออย่างใจเย็น
กระทั่งได้รับอนุญาตให้เข้าพบ อาคมก็ไม่รีรอที่จะเดินตามยุทธนาไปทันที เขาเดินตามคนสนิทของอินทัชไปยังชั้นสอง ซึ่งคือพื้นที่ทำงานของชายหนุ่ม และเมื่อเข้าไปในห้องได้ก็โค้งคำนับเพื่อจะได้เอ่ยทักทาย แต่ทว่าอาคมกลับได้ยินประโยคทักทายดังมาจากอินทัชเสียก่อน
“สวัสดีครับคุณอาคม”
“สวัสดีครับคุณอินทัช” อาคมเอ่ยทักเสียงสั่นเล็กๆ ซึ่งเกิดจากความประหม่านั่นเอง
“ยุทธแจ้งมาว่าคุณอาคมอยากพบผม”
“ครับ”
“มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ” คำถามของอินทัชดังขึ้น นั่นเพราะตั้งแต่เป็นลูกค้าที่บ่อน อาคมไม่เคยขอพบเขามาก่อนนั่นเอง
“คือว่า...คุณอินทัชพอจะช่วยได้ไหม ถ้าหากผมอยากขอเปลี่ยนเงินเครดิตที่ใช้ในบ่อนเป็นเงินสดติดตัว”
“เปลี่ยนเงินเครดิตที่ใช้ในบ่อนเป็นเงินสดเหรอครับ”
“ใช่ครับ เพราะผมมีความจำเป็นต้องใช้เงินสดจริงๆ”
“ถามว่าเปลี่ยนได้ไหมจริงๆ ก็เปลี่ยนได้นะครับ”
“จริงหรือครับ” คำตอบของอินทัชทำให้อาคมนั้นยิ่งมีความหวัง ยังไงวันนี้เขาก็ต้องเอาเงินค่าเทอมไปคืนพริมาให้จงได้
“แต่ดอกเบี้ยของเงินสดมันก็จะสูงมากเช่นเดียวกัน”
“สูงแค่ไหนผมก็รับไหวครับ เพราะมันจำเป็นจริงๆ”
“คุณอาคมอยากได้เงินสดสักเท่าไหร่ครับ”
“สามหมื่นครับ” ยอดเงินที่ได้รู้ทำให้อินทัชแปลกใจนิดหน่อย เพราะมันน้อยกว่าที่เขาคิดไว้หลายเท่า
“แค่สามหมื่นเองหรือครับ”
“ครับ...แค่สามหมื่นก็พอ”
“ยุทธ...นายช่วยไปเอาเงินสดสามหมื่นมาให้คุณอาคม”
“ครับนาย” ยุทธนาเอ่ยรับคำแล้วออกไปจัดการตามคำสั่งของผู้เป็นนายทันที
“ขอบคุณมากครับคุณอินทัช ขอบคุณมาก” อาคมเอ่ยขอบคุณ และรอเงินอย่างใจชื้นเพราะไม่คิดว่าอินทัชนั้นจะทำตามที่ตนของ่ายๆ แบบนี้ รู้อย่างนี้เขาขอพบตั้งแต่ได้เครดิตหนึ่งแสนนั่นก็ดี จะได้มีเงินสดติดตัวเยอะๆ เพราะสามหมื่นที่ได้มานำไปคืนให้พริมาก็คงหมด
ระหว่างรอเงินอินทัชก็มองอาคมด้วยแววตานิ่งๆ แต่ทว่ากลับเป็นแววตาที่ทำให้อาคมนั้นนึกเกรงอยู่ไม่น้อย เท่าที่ได้สัมผัสจึงรู้ว่าอินทัชเป็นคนพูดน้อยแต่เรื่องคุมลูกน้องหรือลูกค้าในบ่อนก็ไม่ปราณีเหมือนกัน ใครมากร่างที่นี่มักจะถูกสั่งสอนจนต้องหามออกไปทิ้งข้างถนนมานักต่อนักแล้ว
แม้จะมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นแต่กลับไม่เคยมีตำรวจบุกมารวบตัวหรือเข้ามาค้นบ่อน อาจเพราะตัวชายหนุ่มรวมถึงครอบครัวเป็นผู้มีอิทธิพล ที่สำคัญอินทัชค่อนข้างปกปิดเรื่องส่วนตัว เพราะขนาดเขานั้นเข้าๆ ออกๆ บ่อนแห่งนี้มาหลายปี แต่กลับรู้เรื่องส่วนตัวของชายหนุ่มน้อยมาก
“มีอะไรหรือเปล่าครับคุณอาคม” เพราะเห็นว่าอาคมนั้นมองเขาสลับหลบสายตาเป็นระยะๆ อินทัชจึงเอ่ยถามขึ้น
“เปล่าครับเปล่า” อาคมรีบปฏิเสธ แต่ก่อนจะได้เอ่ยถามอะไรกัน ยุทธนาก็กลับเข้ามาพร้อมเงินสดในมือ จากนั้นจึงยื่นมันให้อาคมไป
“ขอบคุณอีกครั้งนะครับคุณอินทัช” เมื่อได้เงินมาอยู่ในมืออาคมก็เอ่ยขอบคุณอินทัชอีกครั้ง
“อย่าขอบคุณผมเลย เพราะผมไม่ได้ให้คุณอาคมฟรีๆ ดอกเบี้ยมันเริ่มวิ่งตั้งแต่คุณถือเงินอยู่ในมือแล้ว”
“ผมรู้ครับ ผมรู้ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
“เชิญครับ” อินทัชเอ่ยบอกเสียงเรียบ อาคมพยักหน้ารับแล้วรีบกลับออกไปจากห้องทำงานของชายหนุ่มทันที รวมถึงออกไปจากบ่อนด้วยเช่นกัน
อินทัชมองอาคมจากกล้องวงจรปิด แม้จะสงสัยว่าเพราะเหตุใดอาคมถึงขอเปลี่ยนเครดิตเป็นเงินสด แล้วรีบร้อนออกไปแบบนั้น
“ให้ผมตามไปดูไหมครับ”
“ก็ดี” เสียงทุ้มเอ่ยรับ ยุทธนาจึงตามอาคมไป ระหว่างนั้นอินทัชก็แค่นั่งทำงานรออย่างใจเย็น แม้ความคิดหนึ่งจะนึกห่วงไปถึงใครบางคน แต่มันยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะยื่นมือเข้าช่วย
“พ่อไปเอาเงินมาจากไหน” เมื่อพ่อยื่นเงินสดมาให้ พริมาที่วันนี้ไม่ได้ออกไปไหนเลยทั้งวันเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย แต่ก็พอจะเดาได้เพราะหนทางที่พ่อเธอจะหาเงินมาได้นั้น คงหนีไม่พ้นเงินจากบ่อนหรือหยิบยืมคนรู้จักมาเป็นแน่
“จากเพื่อนพ่อ พอดีเขาให้ยืม รับไปสิ ลูกจะได้เอาไปจ่ายค่าเทอม” หากเป็นสถานการณ์ปกติพริมาไม่มีทางรับเงินก้อนนี้จากพ่ออย่างแน่นอน เพราะมั่นใจว่าเงินที่ได้มามันไม่สะอาด
แต่ตอนนี้เธอคงต้องเลือกเก็บทิฐิส่วนนั้นไว้ก่อน สิ่งเดียวที่ทำได้คือเอาเงินที่ได้มาไปจ่ายค่าเทอมในวันพรุ่งนี้ แล้วตั้งใจเรียนให้จบเพราะเหลืออีกแค่ไม่กี่เดือน จบเมื่อไหร่เธอก็จะหางานทำ ค่อยๆ เก็บเงินสร้างเนื้อสร้างตัว
“พ่อต้องเอาเงินไปคืนเพื่อนเมื่อไหร่”
“มีเมื่อไหร่ก็คืนเมื่อนั้น เขาไม่ได้คิดดอกอะไร พ่อขอโทษที่คอยแต่สร้างเรื่องให้ลูกไม่สบายใจ”
“ค่ะ” พริมาเอ่ยรับด้วยความรู้สึกจุกอยู่ในอก เพราะยังไงพ่อก็ยังเป็นพ่อที่เธอตัดไม่ขาด หวังเพียงอย่างเดียวว่าหลังจากนี้จะมีอะไรที่สามารถเปลี่ยนแปลงนิสัยของพ่อเธอได้ เธอไม่ได้ขอให้พ่อเป็นคนดีไปมากกว่านี้ ขอแค่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการพนันก็พอ
“อีกเทอมเดียวพริมก็จะเรียนจบแล้วนะคะ”
“เทอมเดียวแล้วเหรอ” อาคมอุทานออกมาอย่างแปลกใจ นั่นเพราะไม่คิดว่าจะเร็วแบบนี้นั่นเอง รู้สึกเหมือนพริมาพึ่งเข้าเรียนปีหนึ่งอยู่เลย
