ตอนที่4 ความจริง
ตอนที่4 ความจริง
ณ คอนโดของพายุ
“ลุกขึ้นมากินข้าว”ชายหนุ่มเดินตรงมาหาคนตัวเล็กที่นอนอยู่ก่อนจะปลุกให้เธอลุกขึ้น ทันทีที่ชะเอมลืมตาตื่นขึ้นมาใบหน้าสวยหวานก็เผยความเกลียดชังที่มีต่อผู้ชายคนนี้อย่างชัดเจน
“ลุกขึ้น!”
“ฉันจะไปจากที่นี่ นายไม่ควรมากักขังฉันเอาไว้แบบนี้”เธอร้องบอกความต้องการของตัวเอง พายุทำหูทวนลมไม่สนใจในคำพูดของคนตัวเล็ก เขาจัดการเทอาอาหารที่ซื้อมาใส่จานก่อนจะเดินไปหาหญิงสาวอีกครั้ง
“โอ๊ยยยย ทำบ้าอะไรของนาย!”ครั้งนี้เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรกระชากเธอให้ลุกขึ้นจากเตียงและด้วยการกระทำของเขาทำให้ชะเอมที่ไม่ได้สวมใส่อะไรเลยโป๊ต่อหน้าเขาอีกครั้ง คนตัวเล็กรีบปัดมือชายหนุ่มออกพร้อมกระชับผ้าที่ห่อหุ้มร่างกายเอาไว้ทันที
“สารเลว”
“หึ อายทำไมเห็นหมดแล้ว”
“หน้าหนาหน้าทน”ชะเอมต่อว่าชายหนุ่มออกไปด้วยความไม่พอใจ คนฟังยักไหล่ไม่สะท้าน
“กินข้าวจะได้กินยา หรือไม่กินก็แล้วแต่ แต่ถ้าท้องมาเดี๋ยวพาไปเอาออก”เพราะอคติที่มีต่อคนตัวเล็กมันทำให้เขาเลือกที่จะพูดจาแย่ๆ ออกไปและไม่คิดสนใจกับความรู้สึกของคนฟังเลยแม้แต่น้อย หญิงสาวเม้มริมฝีปากแน่นเธอไม่อยากตอบโต้อะไรผู้ชายคนนี้อีก หญิงสาวยอมทำตามที่บอกเขาเพราะเธอก็ไม่ต้องการที่จะมีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นอีก แค่ที่เกิดขึ้นมันก็มากพอเกินกว่าที่เธอจะรับไหวแล้ว
“หึ”พายุหัวเราะในลำคอออกมาเมื่อเห็นท่าทางของหญิงสาว
ชะเอมทานข้าวไปได้ไม่กี่คำเธอก็กลืนไม่ลง ร่างกายของเธอมันเจ็บปวดไปหมด เธอหยิบยาคุมฉุกเฉินมองดูคำแนะนำเล็กน้อยก่อนจะกินมัน ทุกอย่างอยู่ในสายตาของพายุทุกอย่าง เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกประจวบเหมาะที่เสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้นจึงเดินออกไปรับสายข้างนอก
“(เฮีย น้องวารินไปหาไอ้เตโชอีกแล้วครับ)”ศิลารายงานและแน่นอนพอพายุได้ยินเขาก็หงุดหงิดขึ้นมา บางทีก็เหนื่อยกับน้องสาวที่รู้ว่ามันไม่ดีทำไมต้องไปรักมันด้วย
“อืม เดี๋ยวกูโทร.หาเอง”พายุวางสายลูกน้องคนสนิทก่อนจะโทร.หาวาริน ไม่นานคนในสายก็รับ
“น้องอยู่ไหนวาริน”
“(วากำลังจะถึงบ้านค่ะ พี่พายุมีอะไรรึเปล่าคะ)”
“ออกไปหาไอ้เวรนั่นอีกแล้วเหรอ ทำไมไม่จำเสียทีวาริน!”เขาดุคนเป็นน้องออกไป เจอมันทีไรร้องไห้ทุกครั้ง ทำอะไรไม่เคยนึกถึงจิตใจของเขาเลย
“(พี่พายุ วาคืนดีกับพี่เตโชแล้ว)”
“อะไรนะ!”พายุงงตึ๊บหลังจากที่ได้ยินคำพูดของน้องสาว
“มันนอกใจวานะทำไมถึงหลงมันขนาดนี้”
“(วาเข้าใจผิดไปเองค่ะ มันไม่ใช่แบบนั้น)”
“พูดให้ชัดๆ วาริน”พายุเอ่ยเรียกชื่อน้องสาวด้วยน้ำเสียงดุดัน
“(คือผู้หญิงที่วาเห็นอยู่กับพี่เต แท้จริงแล้วเป็นน้องสาวต่างมารดาของพี่เตค่ะ วางี่เง่าวาไม่ฟังคำอธิบายอะไรก่อน คิดเองเออเองจนทะเลาะกัน)”คำตอบของน้องสาวไม่ต่างจากไม้หน้าสามที่ฟาดลงกบาลของพายุก็ไม่ปาน
“แน่ใจงั้นเหรอว่าน้องสาว”
“(ค่ะ พี่เตโชอธิบายทุกอย่างแล้ว ขอโทษที่ทำให้พี่พายุเป็นห่วงนะคะ ต่อไปนี้วาจะมีเหตุผลมากกว่านี้)”พายุไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก เขาวางสายพร้อมสบถในใจหลายต่อหลายครั้ง ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นน้องสาวของเตโชจริงๆ วารินคืนดีกับเตโชแล้วแต่เขาทำลายชีวิตของผู้หญิงคนนึงไป
พายุกลับเข้ามาในห้องเขาเห็นหญิงสาวที่ยังคงเอาผ้าห่มคลุมกายเอาไว้ทันทีที่เธอเห็นว่าเขาเดินเข้ามาก็เผยสีหน้าบึ้งตึงใส่ก่อนจะหันไปอีกทาง เสื้อผ้าของเธอมันขาดจนไม่ได้สามารถใส่ได้ คนที่ทำก็ไม่ใช่ใครคือเขานี่เอง พายุถอนหายใจออกมาก่อนจะเดินไปหาหญิงสาวที่นั่งอยู่มุมหนึ่งของเตียง
“จะทำอะไร”
“ไม่ได้จะทำอะไร”น่าแปลกใจที่ครั้งนี้น้ำเสียงของเขาดูแตกต่างจากในตอนแรก แต่ถึงอย่างนั้นชะเอมก็ไม่ได้รู้สึกดีอะไรกับผู้ชายคนนี้อยู่ดี
“เธอเป็นน้องสาวไอ้เตโชจริงๆ งั้นเหรอ”
“รู้ความจริงแล้วเหรอ รู้แล้วก็ควรจะปล่อยฉันไปซะ!”
“ตอบมาก่อน”
“ใช่!”พายุหน้าตึงอีกครั้งเขาถอนหายใจออกมา กับความผิดพลาดของตัวเองที่ทำลงไป
“มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด”
“เหอะ แล้วสิ่งที่นายทำลงไปล่ะ นายมันเลวที่สุดถึงแม้ว่าฉันจะไม่ใช่น้องสาวพี่เตโชแต่นายก็ไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้กับฉัน!”เถียงไม่ออกพายุจึงได้แต่เงียบ
“คนสารเลว!”
“เออๆ ยอมรับ มันเกิดขึ้นไปแล้วต้องการเท่าไหร่พูดมา”ชะเอมอ้าปากค้างไม่คิดว่าผู้ชายคนนี้จะเลวกว่าที่เธอจินตนาการไว้ เขาทำผิดแต่คำว่าขอโทษก็ยังไม่มีที่สำคัญแถมยังจะเอาเงินฟาดหัวเธออีกงั้นเหรอ
“ฉันไม่ได้ขายตัว และที่สำคัญฉันไม่ได้ต้องการเงินของนาย สิ่งที่ฉันต้องการคือการออกไปจากที่นี่”
“อืม จะไปส่ง”
ชะเอมชะงักหลังจากที่ได้ยินคำพูดของคนแปลกหน้าที่ยอมปล่อยเธอไป หญิงสาวไม่รอช้าเธอคว้าเสื้อผ้าของตัวเองขึ้นมาแต่ก็ต้องเม้มริมฝีปากแน่นอีกครั้ง ชั้นในเธอยังใส่ได้อยู่แต่ว่าเสื้อมันขาดหมดแล้ว พายุเหมือนรับรู้ในความคิดของคนตัวเล็ก เขาจึงเดินไปหยิบเสื้อของตัวเองมายืนให้ ชะเอมรับมาแต่ไม่คิดจะขอบใจเขาสักนิดเพราะที่เธอต้องเป็นแบบนี้ก็เป็นเพราะเขานั่นแหละ
เพียงไม่นานหญิงสาวก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยเธอตวัดสายตามองชายหนุ่มอีกครั้ง พายุเองก็มองเธอกลับก่อนจะยื่นกระเป๋าที่เขายึดเอาไว้ตั้งแต่วันแรกที่ลักพาตัวเธอมาก่อนพาเธอไปที่รถหรูของตนเอง เธอไม่ต้องการอะไรจากผู้ชายคนนี้สิ่งเดียวที่เธอต้องการก็คือการที่เขาเลิกยุ่งกับเธอ เธอจะคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นเพียงฝันร้าย หลังจากนี้เธอจะลืมมันจะลืมว่าพบเจออะไรมาบ้าง เพราะเคยตามดูอยู่นานทำให้พายุรู้ที่อยู่ของหญิงสาว เขามาส่งเธอที่คอนโดโดยที่เธอยังไม่ทันบอกทางเลยด้วยซ้ำ นั้นจึงทำให้ชะเอมไม่พอใจในตัวของผู้ชายคนนี้มากกว่าเดิม
“เดี๋ยว”พอหญิงสาวจะเปิดประตูลงจากรถเสียงเข้มก็เอ่ยดังขึ้นมาเสียก่อน
“ฉันชื่อพายุ”
“ไม่ได้อยากรู้!”พูดจบคนตัวเล็กก็เปิดประตูลงจากรถทันที ทำเอาชายหนุ่มอ้าปากค้างเล็กน้อย นึกแปลกใจที่คนตัวเล็กเย็นชาใส่เขาขนาดนี้ เธอไม่เรียกร้องอะไรจากเขาเลยแต่อีกใจก็กลัวว่าหญิงสาวจะไปแจ้งความจับเขาหรือเปล่าถึงจะไม่กลัวกฎหมายแต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่
ทันทีที่ชะเอมมาที่ห้องพักของตัวเอง ร่างบางอรชรก็ทรุดลงกับพื้น หยาดน้ำสีใสไหลออกมาทันที เธอรู้สึกแย่กับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ความสูญเสียมารดายังไม่เศร้าเธอก็ต้องมาพบเจอเรื่องร้ายๆ เหล่านี้อีก ทั้งๆ ที่เธอไม่ได้ผิดอะไรเลย หญิงสาวใช้เวลาร้องไห้อยู่พักใหญ่ก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำ เมื่อเห็นร่างกายที่เต็มไปด้วยร่องรอยการกระทำของผู้ชายคนนั้นมันก็ยิ่งตอกย้ำความเจ็บปวด นับว่าไม่ง่ายเลยที่เธอจะปลอบใจตัวเองไม่ให้เสียใจอีก เสียไปแล้วก็ไม่เป็นไร เธอย้อนกลับไปเอาคืนมาไม่ได้ ชะเอมได้แต่ด่าทอผู้ชายคนนั้นไม่หยุดหย่อน เธอภาวนาว่าชาตินี้อย่าได้เจอกันอีก
@วันจันทร์
“หายไปไหนมาทำไมพี่โทรหาไม่ติด”เตโชมาหาน้องสาวตั้งแต่เช้าตรู่พอเจอชะเอมอยู่ที่คอนโดเขาก็สบายใจ
“เอมไปพักผ่อนมาค่ะ ขอโทษที่ไม่ได้บอก”เตโชพยักหน้าพยายามเข้าใจน้องว่าคนสูญเสียอาจจะต้องใช้เวลา
“ทีหลังจะไปไหนมาไหนต้องบอกนะ เอมยังมีพี่ยังมีพ่อ”
“ค่ะ”เธอพยายามเก็บซ่อนน้ำตาเอาไว้ไม่ต้องการให้ผู้ชายตรงหน้าเป็นห่วงเธอ
“แล้วนี่ไม่ร้อนรึไง ดูแต่งตัวเข้า”
“อาการช่วงเช้ามันเย็น เอมเลยใส่เสื้อแขนยาว พี่เตมีอะไรอีกรึเปล่าคะ เอมว่าจะไปทำบุญให้แม่ที่วัด”
“พี่พาไป”ชะเอมพยักหน้า ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมทำให้เธอไม่ได้ไปเรียน เธอเองก็หวังว่าช่วงเวลาเหล่านี้จะทำให้เธอมีจิตใจที่ดีขึ้น
เตโชพาเธอมาทำบุญให้กับมารดาที่วัด หลังจากนั้นเขาก็พาเธอไปทานข้าวก่อนจะบอกว่านัดใครอีกคนเอาไว้อยากให้เธอรู้จัก ไม่นานหญิงสาวน่าตาดีก็เดินยิ้มเข้ามาทักทาย ดูจากท่าทีของพี่ชายของเธอแล้วมันก็ทำให้ชะเอมเดาได้ว่าผู้หญิงคนนี้ต้องเป็นคนพิเศษ
“เอมนี่วารินแฟนพี่ อายุเท่ากันเรียนที่เดียวกันถึงจะคนละคณะแต่ก็รู้จักกันเอาไว้นะ”
“สวัสดีนะเรียกเราว่าวาก็ได้”ใบหน้าของชะเอมชะงักไปเล็กน้อย เธอมองผู้หญิงตรงหน้าก่อนที่ภาพของใครอีกคนจะซ้อนเข้ามา
“เอ่อ...เป็นอะไรรึเปล่าเอม”
“หืม เปล่าค่ะ เอ่อยินดีที่ได้รู้จักนะ”เธอพยายามข่มอารมณ์เอาไว้ไม่อยากเกลียดชังผู้หญิงคนนี้แต่ทว่ามันกลับไม่ง่ายเลย จุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอต้องไปพบเจอความโชคร้ายผู้หญิงคนนี้ก็คงมีส่วนไม่มากก็น้อย แต่ท่าทีของผู้หญิงคนนี้เหมือนไม่รู้เรื่องที่พี่ชายของเธอทำเอาไว้
การรับประทานอาหารค่อนข้างที่จะอึดอัดแต่วารินก็พยายามเข้าใจเพราะแฟนหนุ่มบอกว่าเธอเพิ่งเสียมารดาไปอาจจะต้องปรับตัวสักนิด ชะเอมเป็นคนที่ไม่ค่อยอะไรกับใครอยู่แล้ว ปกติหญิงสาวก็เป็นคนเงียบๆ ยิ่งมาเจอสถานการณ์เหล่านี้ก็ยิ่งทำให้เธอไม่อยากยุ่งเกี่ยวอะไรกับใคร
“เป็นอะไรไป?”
“ดูเหมือนน้องสาวพี่จะไม่อยากคุยกับวาเลย”
“คิดมาก ปกติเอมก็เป็นแบบนี้”
“จริงเหรอคะ เฮ้อค่อยสบายใจหน่อยกลัวว่าน้องสาวพี่จะไม่ชอบวา”
“ไม่หรอก ว่าแต่ตอนนี้เราคืนดีกันแล้วใช่ไหม”
“ก็คืนดีกันแล้วสิค่ะ พี่เต วาขอโทษนะคะถ้าหากทำตัวไม่น่ารักไปบ้าง”
“เอาเถอะพี่เองก็ผิดเหมือนกัน”ทั้งสองยิ้มให้กับก่อนจะขับรถออกมาจากคอนโดของชะเอม
