บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 [3/4]

องค์รัชทายาทเทียนหวงกลับมายังตำหนักพระชายาซิ่วอิง เนื่องจากคืนนี้เป็นคืนไร้แสงจันทร์ บรรยากาศรอบด้านช่างดูเวิ้งว้าง อืมครึม และ น่ากลัว โดยไม่ต้องแต่งเรื่องผี ขึ้นมาหลอกกันแม้แต่น้อย พระองค์ยังรู้สึกขนลุกทั่วทั้งตัว ตั้งแต่เท้าแตะที่พื้น

“หนาวเสียจริง”

เขาเอ่ย

“ว่าอย่างไรนะพะย่ะค่ะ”

องครักษ์กู้ถิงเอ่ย

“ไม่รู้สินะ วันนี้ข้ารู้สึกว่า บรรยากาศช่างวังเวงพิกล”

องค์รัชทายาทเอ่ย

“ทูลฝ่าบาท ในคืนเดือนมืดมักเป็นเช่นนี้เสมอพะย่ะค่ะ ”

“อืม เจ้าเองก็คอยเฝ้าอยู่ข้างนอกก็พอ คืนนี้ข้าอยากใช้เวลาอยู่กับซิ่วอิง เพียงลำพัง”

พระองค์กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“พะย่ะค่ะฝ่าบาท”

องครักษ์กู้ถิงโค้งคำนับก่อนจะเดินตรวจตราไปอีกด้านหนึ่ง ฝ่ายองค์รัชทายาทเทียนหวงเองก็หันหน้าเดินเข้าตำหนัก อมยิ้มนิดๆ คิดว่าเดี๋ยวจะได้ใช้เวลาอันแสนโรแมนติกนี้ กับภรรยาที่รักของตน สองเท้าเยื้องย่างเข้าด้านใน สองตามองหา ภรรยาผู้เลอโฉม วันนี้ดูเงียบสนิท อาจเป็น เพราะไม่มีนางกำนัลคอยรับใช้พระชายาตามรับสั่งของตนกระมัง ตำหนักนี้จึงดูเงียบสงัดนักในคืนนี้

แต่เพราะเขาเองต้องการให้วันนี้เป็นวันพิเศษ วันที่ จะไม่ต้องมีใครคอยแอบมอง คอยเดินเคียงคู่เพื่อดูแลกัน วันที่ทั้งสองคนจะได้ใช้ชีวิตเหมือนคู่รักปกติ ได้พลอดรัก กันอย่างตามใจ ได้เสพสุขสมในทุกที่ที่อยากทำ เพียงแค่คิด รอยยิ้มที่ริมฝีปากขององค์รัชทายาทหนุ่มก็แย้มออกมา อย่างเด่นชัด เขาเปิดประตูเข้าไปด้านในที่มีแสงสว่าง จากเทียนจุดไว้ตามทาง จนกระทั่งไปถึงห้องน้ำชาที่ พระชายาซิ่วอิงมักจะนั่งรอองค์รัชทายาทอยู่ที่นั่น แต่ทว่า วันนี้บรรยากาศภายในก็ยังวังเวงคล้ายกับไม่มีใครอยู่ ปกติ ในยามนี้จะต้องได้กลิ่นหอมของชาลอยมาเตะปลายจมูกเมื่อเขาเดินมาถึงตำหนัก

“เอ...หรือว่า นางกำนัลไม่ได้อยู่ชงชาให้ซิ่วอิงก่อนออกไป งั้นหรือ”

เขาได้แต่สงสัยแล้วก็เดินต่อไป จนกระทั่งเข้าไปถึงห้อง น้ำชา ปลายหางตาเห็นเงาดำๆ ลอยอยู่บนขื่อ ทำให้ ขนลุกชูชันโดยไม่อาจห้ามใจไว้ได้ องค์รัชทายาทหนุ่ม สะบัดหน้าหันไป หัวใจเขาคล้ายดังจะหยุดเต้นโดยฉับพลัน ลมหายใจติดขัด ราวกับปอดทะลุไม่สามารถโอบเอา อากาศเข้าได้อย่างเป็นปกติ

“ซะ ซิ่วอิง”

เขาเอ่ยเรียกชื่อภรรยาที่ห้อยอยู่บนขื่อด้วยเสียงที่แทบฟังไม่ออก มือไม้สั่นเหมือนกับวิญญาณกำลังจะออกจากร่าง องค์รัชทายาทเทียนหวงแทบไม่สามารถจะก้าวไปด้านหน้า ได้เลยแม้แต่ก้าวเดียว

ภาพของพระชายาซิ่วอิงที่ถูกแขวนคออยู่บนขื่อด้านใน ใบหน้าม่วงคล้ำไร้ชีวิตชีวานั้น ตอกย้ำว่า นางได้จากโลกนี้ ไปแล้ว

“ซิ่วอิง”

เขาตะโกนสุดเสียงก่อนจะรีบไปประคองร่างไร้วิญญาณของภรรยา เพียงหวังว่าจะช่วยชีวิตนางไว้ได้ทัน ร่างกายกำยำ ประคองร่างบางไร้เรี่ยวแรง เสียงร่ำไห้ดังออกมาระงมไป ทั่วตำหนัก ก่อนที่สติสตังค์จะกลับมา เหล่าทหารและ องครักษ์ที่ยืนเฝ้าอยู่นอกประตูตำหนักก็วิ่งกรูกันเข้ามาใน ห้อง ด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนกกันทั้งหมด

“ตามหมอมา ข้าบอกให้ตามหมอมาเดี๋ยวนี้!!!”

องค์รัชทายาทเทียนหวงออกคำสั่งเสียงดัง

“พะย่ะค่ะ”

องครักษ์คนหนึ่งหลังจากตั้งสติต่อภาพที่เห็นตรงหน้าได้ จึง รีบน้อมรับคำสั่งแล้ววิ่งออกจากตำหนักไปในทันที

“กระหม่อมขออนุญาต นำร่างพระชายาลงมาก่อนพะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”

เสียงขององครักษ์กู้ถิงเอ่ยบอกกับองค์รัชทายาทเทียนหวงที่ยังคงกอดร่างเมียไว้แน่น

“เอาลงมา เอาลงมา”

เขาพูดซ้ำๆ เหมือนคนขาดสติ

“พะย่ะค่ะ”

องครักษ์กู้ถิงรีบปีนขึ้นด้านบน พร้อมกับใช้มีดเล็กตัดเชือกที่ ผูกแน่น จนร่างของพระชายาร่วงหล่นลงในอ้อมอกขององค์ รัชทายาท เขากอดเธอแล้วร่ำไห้ออกมา ร่างไร้วิญญาณนั้น เย็นชืดและซีดเผือดกว่าที่มองจากด้านบนยิ่งนัก ลำแขน แกร่งกอดประคองพลางโยกไปมา คล้ายจะคืนชีพที่ไม่มีอีก แล้วให้กลับคืนมา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel