
บทย่อ
ที่เขาว่ากันว่า ที่ใดมีรักที่นั่นย่อมมีทุกข์ ก็คงจะไม่ผิดเป็นแน่ ในเมื่อคนรักกันผลลัพธ์สุดท้ายที่ต้องการคงไม่มีทางอื่น นอกจาก การที่จะได้สมรักและแต่งงานใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันตราบจนชีวีนั้นจะหาไม่ และเท่าที่ผ่านมานั้นมนุษย์ล้วนแล้วแต่สืบทอดทายาท มานานนับพันปีก็ด้วย การแต่งงานนี้นั่นเอง แต่... อนิจจัง... ช่างน่าสงสารเหลือเกิน สำหรับเมือง เมืองหนึ่งที่คล้ายดังกับว่าต้อง “คำสาป” ให้ติดอยู่กับ ความทุกข์ระทม ในเมื่อคนที่มีความรักต่อกันก็ไม่สามารถ แต่งงานอยู่กินด้วยกันได้ เนื่องจากมีพระราชกฤษฎีกา ห้ามแต่งงาน ที่ออกโดยจักรพรรดิเทียนหวงผู้ช้ำรักมานาน นับ 5 ปีกว่า จักรพรรดิเทียนหวงผู้ซึ่งจงรักภักดีในรักต่อ พระชายาของตนยิ่ง ว่าแต่... ทำไม?... ถึงทรงออกกฏเช่นนี้ นั่นก็เป็นเพราะว่า....
ตอนที่ 1 [1/4]
ที่เขาว่ากันว่า ที่ใดมีรักที่นั่นย่อมมีทุกข์ ก็คงจะไม่ผิดเป็นแน่ ในเมื่อคนรักกันผลลัพธ์สุดท้ายที่ต้องการคงไม่มีทางอื่น นอกจาก การที่จะได้สมรักและแต่งงานใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันตราบจนชีวีนั้นจะหาไม่ และเท่าที่ผ่านมานั้นมนุษย์ล้วนแล้วแต่สืบทอดทายาท มานานนับพันปีก็ด้วย การแต่งงานนี้นั่นเอง
แต่... อนิจจัง... ช่างน่าสงสารเหลือเกิน สำหรับเมือง เมืองหนึ่งที่คล้ายดังกับว่าต้อง “คำสาป” ให้ติดอยู่กับ ความทุกข์ระทม ในเมื่อคนที่มีความรักต่อกันก็ไม่สามารถ แต่งงานอยู่กินด้วยกันได้ เนื่องจากมีพระราชกฤษฎีกา ห้ามแต่งงาน ที่ออกโดยจักรพรรดิเทียนหวงผู้ช้ำรักมานาน นับ 5 ปีกว่า จักรพรรดิเทียนหวงผู้ซึ่งจงรักภักดีในรักต่อ พระชายาของตนยิ่ง ว่าแต่... ทำไม?... ถึงทรงออกกฏเช่นนี้ นั่นก็เป็นเพราะว่า....
ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว
องค์รัชทายาทเทียนหวงได้เข้าพิธีสมรสพระราชทานกับพระชายาซิ่วอิง ผู้งดงามราวกับเทพธิดาในหน้าหนาว พระศิริโฉมงดงามคล้ายกับภาพวาดอันวิจิตรที่ยากจะหาใครเทียบได้ องค์รัชทายาทเทียนหวง ทรงหลงรักว่าที่พระชายา ตั้งแต่ยังไม่ได้ร่วมหอ เพียงนางยิ้มให้หัวใจอันแข็งกระด้าง ของพระองค์ก็เหลวเป็นเทียนเมื่อได้เห็นรอยยิ้มนั้น
องค์รัชทายาทไม่คัดค้านเรื่องการสมรสพระราชทาน เลยแม้แต่น้อย มีแต่จะยิ่งเร่งวันเร่งคืนเพื่อให้ได้เคียงข้างนาง ให้เร็วที่สุด และแล้ววันสมรสพระราชทานก็มาถึง ซิ่วอิง ในชุดสีแดงเดินเข้ามาในพิธีด้วยท่าทางที่สง่างามยิ่งกว่าหงส์บินถลาลงมาจากนภาภพ หัวใจของรัชทายาทสั่นไหวคล้าย จะเป็นลมเสียให้ได้
“นี่สินะ รักแท้”
เขาได้แต่เอ่ยคำนั้นย้ำๆ ซ้ำๆ อยู่เช่นนั้น เนื่องด้วยไม่เคย เผลอไผลรักใครได้มากเท่านางอีกเลย
“องค์รัชทายาท หม่อมฉันขอถวายชีวิตให้พระองค์เพคะ”
น้ำเสียงของซิ่วอิงก็ไม่ต่างจากพิณที่ล่องลอยอยู่เหนือศีรษะ เพราะมันช่างไพเราะเพราะพริ้งเสียเหลือเกิน
“ข้าจะดูแลเจ้าตราบจนลมหายใจสุดท้าย”
องค์รัชทายาทเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นราวกับหินผา
วันนั้นช่างเป็นวันที่เต็มไปด้วยความสุขและอบอวล ไปด้วยความรัก หลังจากเวลาเข้าหอในห้องนั้นก็เหลือเพียง สามีภรรยาที่เพิ่งร่วมหอกันเป็นคืนแรก ซิ่วอิง คล้ายกับ นางสวรรค์ที่นั่งอยู่บนก้อนเมฆ ใบหน้าแดงระเรื่อของนาง ยิ่งทำให้หัวใจขององค์รัชทายาทสั่นไหว เหมือนอยู่ในเหตุ แผ่นดินสะเทือนก็ไม่ปาน
“ซิ่วอิง เจ้าเป็นอะไรหรือไม่?”
เขาเข้าไปถามนางด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง
“ขออภัยเพคะองค์รัชทายาท เอ่อ... คือ... คงเป็นเพราะหม่อมฉันอาจจะตื่นเต้นมากไปเพคะ”
จักรพรรดิเทียนหวงยกยิ้ม ก่อนจะนั่งลงข้างๆ แล้วกุมมือนาง เอาไว้เบาๆ
“เจ้าคงไม่รู้ว่า ข้าต่างหากที่ประหม่ายิ่งกว่าเจ้าเสียอีก”
“...”หญิงสาวหันมองสบตาสามีด้วยท่าทีตกใจ
“เจ้างดงามราวกับนางฟ้าเช่นนี้ ซิ่วอิง ดังนั้นควรเป็นข้า มากกว่าที่ตื่นเต้นเมื่อได้อยู่ใกล้เจ้าเช่นนี้”
องค์รัชทายาทเทียนหวงเอ่ยจบก็จับมือนางไปแตะที่หน้าอกด้านซ้ายของตนเอง หน้าอกแกร่งแข็งแรงเช่นนี้กลับ สัมผัสได้ถึงแรงเต้นของหัวใจที่แจ่มชัดเสียจนซิ่วอิงต้องแย้มยิ้มออกมา
“พระองค์...”
“นับจากนี้ เจ้าคือ พระชายาของข้า”
“เพคะ”
นางยิ้มเอียงอาย
“เรียกเสด็จพี่สิ”
เขาเอ่ยก่อนจะยิ้มให้นางอย่างมีความสุข
นับแต่ค่ำคืนนั้น ทั้งสองก็กลมเกลียวเป็นอันหนึ่ง อันเดียวกันอย่างลึกซึ้ง เมื่อเห็นองค์รัชทายาทเทียนหวง ที่ไหน พระชายาซิ่วอิงก็ต้องมีอยู่ที่นั่นด้วยเสมอ องค์รัชทายาทเทียนหวงไม่ใช่แค่รักพระชายาจนหมดหัวใจ แต่ทุกๆ เรื่องที่ร่วมทำด้วยกันตั้งแต่การกิน การงานหรือ แม้แต่เรื่องบนเตียง พระชายาตอบสนองพระองค์ได้ เป็นอย่างดี จนทำให้องค์รัชทายาทเทียนหวงหลงรัก นางอย่างหัวปักหัวปำ และพระชายาซิ่วอิงเองก็รักและภักดี ในตัวสามีไม่ต่างกัน คงนิยามได้ว่า ทั้งสองต่างรักกันและกัน อย่างลึกซึ้งนั่นเอง
ทว่า...วันคืนแห่งความรักนั้นก็ไม่ได้คงอยู่ตลอดไป เฉกเช่นกับมนุษย์ทุกคนที่ไม่อาจคงอยู่ได้เป็นนิจนิรันดร์
วันนั้นองค์รัชทายาทเทียนหวง นัดหมายกับ พระชายาซิ่วอิง ว่าจะออกไปเดินเล่นในสวนชมจันทร์ ด้วยกัน เนื่องจากพระองค์ทรงงานหนักคั่งค้างมาหลายวัน จึงอยากหาเวลาพักผ่อนอย่างเพลิดเพลินกับภรรยาเสียบ้าง
“เสด็จพี่ ท่านแน่ใจหรือเพคะ ว่าพระองค์จะมีเวลาว่าง”
พระชายาซิ่วอิงเอ่ยถาม
“แน่สิ!! ข้าเป็นคนบอกเจ้าเอง ข้าต้องพักเสียบ้าง ถึงข้าจะ เป็นองค์รัชทายาทต้องทำงานเพื่อประชาชน แต่หากข้าไม่มี ความสุข เพราะไม่ได้เห็นหน้าเจ้าหลายวัน งานก็คงไม่อาจ สำเร็จได้เช่นกัน เจ้าว่าเช่นนั้นหรือไม่ซิ่วอิง”
“เสด็จพี่ พระองค์ทรงมีอารมณ์ขันอีกแล้วนะเพคะ” ซิ่วอิงหัวเราะเบาๆ อย่างมีมารยาท
“เจ้าคงไม่รู้ว่า ข้าคิดถึงเจ้ามากเพียงใด” องค์รัชทายาทเทียนหวงเอ่ยพร้อมขยับใบหน้าเข้าหาก่อนจะหอมแก้มนางเบาๆ กลิ่นกายของนางหอมเหมือนพฤกษา ในป่าลึกทำให้พระองค์ทรงหลงใหลเสียเหลือเกิน
