เจอ
"ข้าได้ยินว่านางขัดสนถึงเพียงนั้น ถึงกับต้องไปบรรเลงเพลงกู้เจิ้งแลกเงิน อู่เทียนหาวดูแลนางไม่ดีพอหรือไร"
"เพคะไทเฮา เทียนห่าวคงอับจนหนทางด้วยนิสัยดื้อรั้นไม่ยอมคนของนาง"
"หลานข้าจะต้องลำบากอีกสักเท่าไหร่ เมื่อมีแม่อย่างนางแม่ที่แสนจะดื้อดึง"
"แต่ไทเฮาจะแน่ใจได้อย่างไรเล่าเพคะ ว่าลูกในท้องของนางในตอนนั้นเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของฝ่าบาท"
"
"เจ้าเชื่อเรื่องสายสัมพันธ์หรือไม่ข้ารู้สึกว่าเด็กน้อยอาตูนั่นเป็นหลานข้า"
ท้องพระโรงในบ่ายวันนั้น
"ฝ่าบาททรงตัดสิน ใต้เท้าหลัวอาศัยอำนาจพูดจาถากถางดูถูก"ฟางหลินประสานมือ
ไท่หลิ่งหงขมวดคิ้ว
"ดูถูกเจ้าหรือไรแม่ทัพฟางหลิน"
"ฝ่าบาทเป็นช่างตีดาบจึงได้ดาบดีคนขายอาหารจึงอิ่มหนำ ใต้เท้าหลัวเป็นเสนาบดีกรมคลังอ้างว่ามีเงินจับจ่ายมากมายเลี้ยงดูอนุได้สองสามคนมิใช่ยักยอกเงินทองในคลังเช่นนั้นนำเงินทองมาจากไหน"ลามมาถึงเรื่องการเมืองการปกครอง
"ต้นเหตุมาจากเรื่องใดกัน"
"ฝ่าบาท แม่ทัพหนุ่มผู้นี้โอหังยิ่งนักไม่รู้ก่อนหลัง ข้าน้อยหลัวเชี่ยชิน เป็นขุนนางมาตั้งแต่เขายังไม่ลืมตาดูโลกด้วยซ้ำ เช่นไรจึงไม่ไว้หน้ากันบ้าง เท่านั้นยังไม่พอยังใส่ความข้าน้อยให้เสียหาย"
"ท่าน แก่ปูนนี้ไม่ทำตัวให้น่าเคารพ หวาหวา แม้จะแค่เพียงหญิงงามในหอโอชารส ด้วยความเป็นขุนนางควรเป็นแบบอย่างที่ดีมิใช่ดูถูกเหยียดหยามนาง"ไท่หลิงหงส่ายหน้าไปม่
"จะมาเอาความดีอะไรกับข้า ในเมื่อตัวเจ้าเองวันๆ ก็แวะเวียนหอโอชารสรอโอกาสที่จะจองตัวนางให้บรรเลงเพลงกู้เจิ้งให้ฟังเพียงคนเดียวเช่นกัน หากไม่เป็นเพราะเป่ยชุนหวังอ๋องจองตัวนางติดๆ กันหลายวันมานี้เจ้าก็คงหว่านโปรยเงินจองตัวนางเช่นกัน"
ไท่หลิงหงถอนหายใจยาว
"กงกง บัญชาออกไปต่อไปห้ามขุนนางในวังหลวงไม่ว่าจะใครก็ตาม
ไปหาความสำราญในหอโอชารส"
การตัดสินที่แสนจะง่ายดาย คือห้ามๆ และห้าม
หลัวเชียชินกับฟางหลินหันมองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย
หอโอชารสค่ำคืนรื่นรมย์ทั้งสุราและอาหารแต่ที่แปลกคือไร้เหล่าขุนนางและบรรดาคนที่สูงศักดิ์ที่เคยแย่งชิงการจองตัวหวาหวา
"วันนี้เหล่าผู้คนที่ต่างยอมเสียเงินเข้ามาฟังหวาหวาบรรเลงเพลงไฉนวันนี้จึงไม่มีใครแวะเวียนมา"เฉวียนเยว่ตั้งขอสังเกต
"มาม่า ข้าได้ยินคนในวังหลวงพูดกันเป็นเรื่องขบขันว่า ฝ่าบาททรงมีพระบัญชาห้ามไม่ให้ใครมาหาความสำราญที่หอโอชารส"หวาหวาขมวดคิ้ว
"เพราะเหตุใดกันจึงสั่งห้ามเช่นนั้น"
เฉวียนเยว่ ถามขึ้นด้วยความหวั่นใจใจ
"ก็ด้วยเรื่องเบาะแว้งกันเมื่อวาน อย่างไรเล่าเรื่องนี้ลามไปถึงเรื่องอื่นๆ ถูกงัดถูกดึงเอามาทะเลาะกันฝ่าบาทคงยากตัดสินใจจึงห้ามเสียทีเดียว"
หวาหวา ถอนหายใจนี่เท่ากับหวาหวาเป็นสาเหตุทำให้หอโอชารสซบเซา
เฉวียนเยว่นั่งตบยุงอยู่หน้าทางเข้า
ร่างสูงชะลูดของใครบางคนก้าวขาลงจากเกี้ยวมองเพียงแวบแรกก็รู้ได้ทันทีว่าไม่ใช่คนธรรมดา
"คุณชาย เพิ่งมาครั้งแรกใช่ไหมเชิญด้านในเลยค่ะหอโอชารสของเรามีทุกสิ่งที่สร้างความสำราญ หรือจะจองตัวหญิงงามอันดับหนึ่งของหอโอชารส ร่ำสุราฟังนางบรรเลงเพลงกู้เจิ้ง"
"หวาหวานางอยู่ที่ไหนต้องจ่ายเท่าไหร่" เฉวียนเยว่ยิ้ม อีกคนทำน้ำเสียงเรียบเฉย
"นี่ก็ดึกแล้ว อีกอย่างวันนี้ยังไม่มีใครจองตัวนาง เอาเป็นว่าแค่พันตำลึงก็คงพอจะได้แล้ว"
"พันตำลึง แค่เพียงฟังนางบรรเลงเพลงกู้เจิ้งให้ความสำราญทางใจหาใช่ทางกายทำไมถึงต้องคิดราคาสูงเพียงนั้น"ขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ
"คุณชายมาที่นี่ในครั้งแรกคงยังไม่รู้ปกติมีคนมารอจองตัวหวาหวาของเรานับสิบ จึงต้องเลือกคนที่มีกำลังทรัพย์มากพอ แต่วันนี้ถือว่าคุณชายโชคดีไม่ได้แย่งชิงกับใคร เงินแค่พันตำลึงถือว่าน้อยนิด"ยอมล้วงเงินมาจ่ายโดยดี
