
บทย่อ
หญิงงามเลื่องชื่อของหอโอชารสผู้ไม่เคยเปิดเผยใบหน้า ไม่มีผู้ใดได้เชยชม เพียงบรรเลงกู้เจิ้งปลอบประโลมผู้คนเพื่อหาเลี้ยงลูกน้อย กับฮ่องเต้ผู้มีเมืองขึ้นถึงห้าเมืองหกแคว้นที่ไร้หัวใจกับความทรงจำที่หายไป
เปิดตัว
"นั่งตัก มานั่งตักข้าเดี๋ยวนี้!"ไท่หลิงหง (สายลมที่ยิ่งใหญ่) น้ำเสียงดุดันไม่สมกับรูปหน้าหวานเหมือนอิสรี จมูกโด่งเป็นสันเชิดหยิ่งไม่มองสักนิดว่าบัญชาจะได้ผลหรือไม่
"ฝ่าบาท นางไม่นั่งอิวอันนั่งให้ก็ได้เพคะ" กระชากร่างบางของเฟิ่งเฟยจินหลุดติดมือกระแทกลงบนตักกว้าง
"ยโสยิ่ง แค่เพียงเชลยกล้าถือดีเพียงนี้ อยากมีชีวิตอยู่ต่อตามใจข้าจึงดี"
"ฆ่าข้าเสีย"ยิ้มหยัน
"ฆ่าหรือ? เจ้าก่อนจากมาจำไม่ได้หรือไรว่าต้องวางตัวเช่นไร"ดวงตากลมโต วาวโรจน์ด้วยความโกรธ ฟาดมือบางเล็กอย่างแรง มือใหญ่คว้าข้อมือเล็กกดให้ล้มลงกับพื้นเกี้ยว ไม่สนสายตาใครตาคมจ้องมองจาบจ้วงโลมเลีย
"หากเป็นบนแท่นนอน เจ้าคงเป็นคนของข้าไปแล้ว สตรีบอบบางเช่นเจ้าคิดหรือว่าจะต่อกรกับข้าได้"
"ไท่หลิ่งหง แม้จะต่อกรกับท่านไม่ได้ ด้วยหัวใจแค้นเคืองของข้า จะไม่มีทางอภัยให้ท่านแม้จะเหลือเพียงแค่วิญญาณก็ตามที"เอ่ยนามตรงๆ เพื่อยั่วโมโหของอีกฝ่าย ไท่หลิ่งหงดึงร่างบาง กอดรวบแนบชิดแม้จะดิ้นรนขัดขืนก็ไม่อาตหลุดพ้นจากอ้อมกอดรัดแน่นริมฝีปากบางถูกปากอุ่นประกบแนบแน่นบดเบียดรุกล้ำ อย่างเมามันไม่สนใจว่าอีกคนจะตื่นตกใจและหวาดกลัวเพียงใด
"จำใส่ใจไว้ ข้าคือฮ่องเต้และแคว้นเจียงเซ่อของเจ้าจะถูกข้ายกทัพผ่านมาสักครา"กดริมฝีปากที่ปากบางของเฟิ่งเฟยเจิน (หงส์ที่โบยบินสู่ทรัพย์สมบัติ) อีกครั้งแต่คราวนี้กลับกลายเป็นอ่อนหวานอ่อนโยน อิวอันเบือนหน้าหนีความรู้สึกเกลียดชังพวยพุ่ง ออกมาทางสายตา
สามปีผ่านไป
"ท่านแม่"ร่างอ้วนป้อมของเด็กชายวิ่งลงจากเนินเขาถลาเข้าใส่อ้อมแขนที่อ้าออกรอรับร่างกระจ้อย
"คิดถึงที่สุด"ซุกหน้าเกลือกกลิ้งกับอ้อมกอด
"วันนี้ มีต้มจับฉ่ายของโปรดเจ้า "
"ท่านแม่เหนื่อยไหม"ยิ้มสวย
"เห็นหน้าเจ้าก็หายเหนื่อยแล้ว"
"ท่านพ่อออกไปล่าสัตว์วันนี้ได้ไก่ป่ากับกระต่ายมาท่านแม่เราสองคน ไปดูกัน"ดวงตารื่นเริงสดใส ดึงแขนหวาหวาไปหลังบ้าน
"ท่านพ่อท่านแม่กลับมาแล้ว"ร่างสูงในอาภรณ์สีทึม แหงนหน้าขึ้นมองยิ้มๆ
"วันนี้มีไก่ป่าย่าง กับต้มจับฉ่ายท่านแม่นำมาจากหอ.. โอชารส"
อู่เทียนห่าว สับขวานลงบนแท่นผ่าฟืน เดินไปล้างไม้ล้างมือ
"เหนื่อยไหม"ทอดเสียงอ่อนโยนหวาหวาเดินเข้าไปใกล้ยกผ้าเช็ดหน้าเช็ดเหงื่อให้อู่เทียนห่าว
"ไม่ค่ะ อย่างไรก็รับแขกแค่ เพียงครั้งละคนคนละคืน"
"พอหรือยัง เบื่อหรือยังอยู่บ้านเฉยๆ ก็ได้ไม่จำเป็นต้องทำให้ลำบาก”
“เทียนห่าว ท่านก็รู้ว่าที่ข้าทำไปทั้งหมดก็เพื่ออาตู”
“ท่านแม่ ข้ารักท่านแม่ที่สุด” กอดรอบเอวบางยิ้มกว้างสดใส หวาหวายกมือขึ้น ลูบศีรษะร่างกระจ้อยเบาๆ
“แม่ห่วงเจ้า อย่างน้อยเวลาแม่ไปทำงานที่หอโอชารสเจ้าก็มีของดีดีกิน ท่านป้าเฉวียนใจดียิ่งนัก เพียงแค่ข้าไม่เกี่ยงงอนทำงานหนักหน่อยนางก็เมตตา”
“ดูมือเจ้าสิดีดกู้เจิ้งจนจะไม่ไหว ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องทน”
“แขกที่มาล้วนแต่คนสำคัญ ขุนนางในราชสำนักแม่ทัพนายกอง วันนี้ท่านเสนาฟงก็มาฟังข้าบรรเลงกู้เจิ้ง ยังให้เงินทองมาเป็นของรางวัลมีเงินมากมายจึงดี” อู่เทียนห่าวถอนหายใจ
“เจ้าเป็นหญิงงาม การหลีกเลี่ยงเรื่องเหล่านั้นล้วนลำบากยิ่งนัก ข้ากลัวเหลือเกินหากวันใด ที่มีคนตั้งใจข่มเหงเจ้าขึ้นมา บรรเลงเพลงกู้เจิ้งเพียงลำพังกับแขกยามค่ำคืนเจ้าจะเอาตัวรอดได้อย่างไร”
“ข้าบอกท่านป้าเฉวียนไปแล้วว่าข้าเพียงแค่บรรเลงกู้เจิ้งปลอบประโลมผู้คนหาได้ขายร่างกายไม่ นางเองก็ไม่ได้กดดันข้าดีใจเสียอีกที่ตอนนี้มีคนมาที่หอโอชารสเพื่อฟังข้าบรรเลงเพลงกู้เจิ้ง”
"ข้ายังห่วงเจ้าอยู่ดี"
"ท่านดูแลอาตูแทนข้าในยามค่ำคืนข้าซาบซึ้งใจยิ่งนัก เรื่องห่วงใยข้าท่านไม่ต้องกังวลหวาหวาไม่มีทางให้ตัวเองเข้าไปสู่วังวนเช่นนั้นอีกแล้ว"
"ท่านแม่กับท่านพ่อข้าหิวแล้ว"อาตูน้อยเขย่าแขนเทียนห่าวกับหวาหวา
เทียนห่าวอุ้มร่างกระจ้อยจูงมือ หวาหวาเข้าไปในบ้านหลังน้อยห่างไกล ที่แสนจะเงียบสงบ
หอโอชารส
"แม่นางหวาหวา ข้าอยากฟังนางบรรเลงเพลงกู้เจิ้ง จะต้องหมดเงินทองไปเท่าไหร่ก็ยอม ไปตามนางมาเดี๋ยวนี้"
"คุณชายเจ้าขา นางกลับไปพักผ่อนเจ้าค่ะ นางบรรเลงเฉพาะกลางคืนหากคุณชายอยากเป็นแขกของนางต้องจ่ายเงินมัดจำล่วงหน้า เฉวียนเยว่จะจองตัวนางไว้ให้ในคืนนี้"
