หลงเสน่ห์นางหรือไร
น้ำตาของนางไหลรินเป็นสาย เสียงกู้เจิ้งเศร้าสร้อยกับคนที่เคยทำให้เจ็บช้ำทั้งร่างกายและจิตใจย่อมทำให้น้ำตาไหลได้ไม่ยากไท่หลิ่งหง มองแสงวิบวับของหยาดน้ำตา ภายใต้แสงไฟสลัว
“เจ้าร้องไห้หรือว่าเพลงบรรเลงกู้เจิ้งเศร้าสร้อยเกินไป” มองเห็นรอยน้ำตาระยิบระยับใต้แสงไฟ
“คุณชายไม่ต้องใส่ใจ”
"คุณชายขาคุณชายเป่ยชุน เข้าไปไม่ได้เจ้าค่ะ ตอนนี้มีแขกของหวาหวาอยู่ในนั้นเกรงว่าหากคุณชายเข้าไปตอนนี้ หวาหวาจะพาลไม่พอใจคุณชายได้”
เฉวียนเยว่ออกไปเตือน ทั้งดึงชายเสื้อไว้ไม่ให้เป่ยชุนที่กำลังอารมณ์ขุ่นมัวและเมามายเข้าไปข้างในห้องของหวาหวา
“ข้าคิดถึงนางกว่าจะออกมาได้ นางเหตุใดวันนี้ไม่รอข้าเหตุใดต้องรับแขกอื่นทั้งๆ ที่ข้าบอกไว้ก่อนแล้วว่า ข้ายินดีจ่ายเงิน จองตัวนางทุกวัน” น้ำเสียงอ้อแอ้เมามาย
“คุณชายท่านวันนี้มาเกือบสว่าง หวาหวาจึงถูกจองตัว” ไท่หลิ่งหงยิ้มหยัน
“เจ้าจะไม่ออกไปพบเขาหน่อยหรือ” ถามเบาๆ
“ข้ารับท่านเป็นแขกในคืนนี้ ย่อมต้องให้เกียรติกับแขก ไม่ควรทำตามใจแม้จะอยากออกไปแค่ไหนก็ตาม”
“เพลงกู้เจิ้งเพิ่งจะผ่านไปไม่ถึงครึ่งเพลง ข้าขาดทุนที่มายามดึกตอนนี้อีกไม่เกินสองชั่วยามฟ้าก็จะเริ่มสาง ข้าเองอยากกลับแล้ว เจ้าไปปลอบใจเขาเสียเกรงว่าหากเจ้าไม่ยอมออกไปจะเสียลูกค้าคนสำคัญ แต่มีข้อแม้พรุ่งนี้ข้ามาทวงบทเพลงกู้เจิ้งของเจ้าอีกหลายชั่วยามจนกว่าจะคุ้มกับที่ข้าจ่ายเงินจองตัวเจ้าคืนนี้”
“คุณชายแน่ใจหรือว่ามาได้ในทุกค่ำคืน”
“ไม่มีใครห้ามข้าได้ หากข้าอยากจะมาคนอย่างข้าอยากก็คือต้องได้ ไม่อยากอย่าหวังว่าข้าจะพาตัวเข้าไปเกี่ยวข้อง” หวาหวานิ่งงันคำพูดเช่นนี้ ได้ยิน บ่อยครั้ง
“ข้าเห็นเจ้ามี บุตรชายตัวน้อยป่านนี้คงรอแม่ ที่บ้านหากเจ้าเสร็จธุระข้าว่าเจ้ารีบกลับไปหาเขาดีกว่า”
“ไม่ต้องห่วง เขามีพ่อคอยดูแล”
"อืมสามีแสนดีเขาคงรักเจ้าไม่น้อยแต่.. มีใครบ้างที่ยอมให้ภรรยาออกมาทำงานยามค่ำคืนในหอคณิกา”
“หวาหวา หวาหวา เจ้าออกมาหาข้าหน่อย ออกมาพูดกับข้า ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน วันนี้ไม่พบหน้าเจ้าข้าไม่ยอมกลับ” เป่ยชุนหวังอ๋องโวยวายอยู่ด้านนอก หวาหวาย่อกายช้าๆ เดินไปเปิดประตูออกไปข้างนอก เป่ยชุนถลาเข้ากอดรวบร่างบางไว้ หวาหวาผลักร่างโงนเงนของเป่ยชุนลงไปกองกับพื้น ไท่หลิ่งหง กอดอกมาท่าทีของหวาหวายิ้มๆ
“ขะ ขะขอโทษข้าดีใจที่เจ้ายอมออกมาพบข้า หวาหวารู้ไหมใจข้าแทบขาดเมื่อไม่พบหน้าเจ้า เมื่อรู้ว่าเจ้าอยู่กับคนอื่น ไท่หลิงหงกัดฟันจนเป็นสันนูนอยากจะ ซัดฝ่ามือเข้าใส่เป่ยชุนให้ล้มกลิ้งลงตรงนั้น เช่นไรจึงกล้ามาพูดแบบนี้ทั้งๆ ที่อ้ายอวี้นอนรออยู่ที่ตำหนัก
“คุณชายท่านเมามากแล้วกลับไปเสียเถอะ หวาหวายังอยู่ที่นี่ไม่ได้ไปไหน หากวันไหนคุณชายมาจองตัวหวาหวาได้ เราก็จะได้พบกัน แต่หากวันไหนคุณชายมาไม่ทันก็ยอมรับข้อกำหนดหากยังทำให้หวาหวาหนักใจเราอาจไม่ได้พบกันอีก”
“ได้ได้ได้ หวาหวาพรุ่งนี้ข้าจะรีบมา เจ้าอย่าให้ใครจองตัวไปก่อน” ยอมหันหลังจากไปโดยดี อย่างว่าง่ายไท่หลิงหงปรบมือช้าๆ สายตายิ้มหยัน
“ใช้เวทมนตร์หรือว่าพิษชนิดใดจึงผูกใจบุรุษได้เพียงนี้”
“หากคุณชายคิดจะมาจับผิดหรือถากถางข้า หวาหวาขอไม่รับ ไหน บอกให้ข้ารีบกลับตอนนี้ ข้าอยากจะกลับแล้ว” ไท่หลิ่งหงคว้าข้อมือด้วยความลืมตัว
“อย่าลืมพรุ่งนี้เจ้าต้อง มาบรรเลงเพลงชดใช้ หนี้ที่ติดค้างข้า” หวาหวายิ้ม
“คุณชายมาได้.. หวาหวาก็จะปฏิเสธบุรุษอื่นเสียสิ้น” ไท่หลิ่งหงยิ้มยียวน
“พรุ่งนี้พบกันอีกครั้ง” ก้มลงจุมพิตที่ปากที่กางกั้นด้วยผ้าแพรสีชมพูหวาหวาสะบัดตัวด้วยความตกใจ แต่ไท่หลิงหงกลับยิ้มอย่างคนที่อารมณ์ดีที่สุด
“คุณชาย”
“อยู่ในหอคณิกาอย่าบอกนะว่าไม่ได้เตรียมใจสำหรับเรื่องนี้”
“ปกติไม่มีใครหยาบช้าเช่นคุณชาย ทุกคนล้วนให้เกียรติหวาหวา”
“นั่นเพราะคิดว่าเจ้าสูงส่งแต่ข้าไม่ ในเมื่อเห็นๆ ว่าเจ้ามีลูกมีสามีเหตุใดจึงมาทำงานเช่นนี้ได้อีก”
“ป้าเฉวียน เอาเงินของคุณชายท่านนี้มาคืนเขาเสียที ข้าไม่ยินดีที่จะพบเขาอีกต่อไป” เฉวียนเยว่เข้ามาข้างใน พยุงหวาหวาไว้
“หวาหวาใจเย็นๆ คุณชายเจ้าขา อย่าทำแบบนี้เลย หวาหวานาง ….นางมิได้ขายร่างกาย” คิดไปเองว่า ไท่หลิ่งหง กำลังจะทำเรื่องที่หวาหวาไม่สู้ชอบใจ
“น้อยไปหรือไร ถึงไม่ยอมขายร่างกาย” ดึงร่างบางมากอดแน่บแน่นยื่นหน้าเข้าไปใกล้สุดใกล้
"หากยังคิดว่า ไม่พร้อมที่จะขายร่างกายก็ไปเสียงานนี้ไม่เหมาะกับเจ้าไม่อย่างนั้นข้าไม่มีทางรามือ” หวาหวาสะบัดมือฟาดลงบนใบหน้าของไท่หลิ่งหงอย่างแรงใบหน้า สั่นตามแรงมือ
