หวาหวาหายไป
ใบหน้าหล่อเหลา เชิดหน้าขึ้นก่อนจะดึงร่างบางมาแนบชิดลำตัวของเขา จ้องตากลมด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่น
“เจ้า ทำให้ข้าคิดถึงใครบางคน ก่อนหน้านั้นนางเคยทำแบบนี้ แล้วรู้ไหมว่าต่อจากนั้น ข้าทำอย่างไรกับนาง” หวาหวาใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
“ข้าไม่ใช่คนผู้นั้น ต่อจากนั้นเกิดอะไรขึ้นมันก็ไม่มีทางเกิดขึ้นกับข้า”
“ฝากไว้ก่อน”
“ยินดี” หวาหวา พูดขึ้นดังๆ
“คุณชายเจ้าขา อย่าอารมณ์เสียไปเลยเจ้าค่ะหวาหวา นางมีสามีแล้ว สิ่งที่นางทำนับว่าเป็นการถนอมตัว ไม่ยอมให้ผู้อื่นแตะต้องเนื้อตัวเป็นคุณสมบัติของหญิงที่ดีคนหนึ่งหวาหวานางขายแค่ความสามารถ คุณชายได้โปรดเห็นใจนางและหอโอชารสด้วยอย่าได้โมโหมากไปกว่านี้ พรุ่งนี้ข้าน้อยสัญญาจะดูแลคุณชาย อย่างดีอีกทั้งไม่ต้องจ่ายเงินจองตัวหวาหวาเพิ่มอีก”
“ดี พูดได้ดี มีสามีจึงหวงตัว แต่หากคิดว่าจะต้องคอยป้องกันตัวเองแบบนี้ มิสู้เลิกทำงานแบบนี้ไปเลยดีกว่า”
“ข้าไม่ได้มีเงินทองมากมายมากกองไว้เช่นคุณชายจึงจะต้องเลือกว่าจะทำหรือไม่ทำอะไร”
“หวาหวา เจ้ารีบกลับบ้านเสียเถอะป่านนี้อาตูน้อย คงคิดถึงเจ้าแย่แล้ว" เฉวียนเยว่พูดตัดบท รู้สึกว่าทั้งหวาหวาและคุณชายผู้มาใหม่ไม่ได้มีการอ่อนข้อให้กันแม้แต่น้อยขิงก็ราข่าก็แรง หวาหวาหันหลังเดินออกจาก ห้อง
“คุณชายเจ้าขาที่นี่ยังมีหญิงงามให้เลือกสรรอีกมาก เชิญคุณชายไปเลือกเอาตามใจ วันนี้ถือว่าเฉวียนเยว่ดูแลคุณชาย”
“ดีข้าจะได้ดูว่าคนอื่นเขาจะหวงตัวเช่นหญิงงามนามหวาหวาหรือไม่” เฉวียนเยว่เดินนำออกไปข้างนอก
หวาหวา เดินไปที่เกี้ยวเพื่อกลับบ้านตามที่ ตั้งใจไว้แต่แรก
“หวาหวา” ใบหน้างามหันกลับไปทันทีพลันก็ถูกร่างสูงของใครบางคนกอดรวบไว้ ใช้ผ้าเช็ดหน้าโปะเข้าที่จมูก สิ้นสติไปในทันที
วังหลวง
“องค์หญิง ข้าน้อยจับนาง มาแล้วตอนนี้นางอยู่ที่ห้องลับ” องครักษ์ร่างสูง ประสานมืออ้ายอวี้ยิ้ม
“ขังนางไว้ที่นั่น อย่าให้นางเล็ดลอดออกมาได้ จนกว่า ท่านพี่จะลืมเลือนนางไป”
“แต่ องค์หญิง นางมีครอบครัวอีกทั้งยังมีลูกชาย ตัวน้อย”
“ช่างนางนางบังอาจมายั่วยวนทำให้เป่ยชุนหวังอ๋องหลงใหลนางหัวปักหัวปำมิใช่แค่ท่านพี่แต่ขุนนางน้อยใหญ่ในวังหลวงล้วนหลงใหลในเสน่ห์ยั่วยวนของนาง หากนางจะหายไปเสียคนเกรงว่าจะไม่มีใครรู้ว่า เมียบ้านไหนที่เป็นคนสั่งให้จัดการกับนาง ข้าไม่ฆ่าก็ถือว่าข้าใจดีมากแล้วรอแค่ให้ท่านพี่ลืมเลือนนางไปเสีย” องครักษ์ประสานมือ
ห้องลับในหลังตำหนักเมฆาของอ้ายอวี้
หวาหวาสะดุ้งตื่นลืมตา แสงเทียนสลัวที่ผนังห้องปิดทึบไร้หน้าต่างประตู
ยกมือขึ้นบีบที่ที่ขมับเบาๆ
ลุกขึ้นเดินสำรวจหาทางหนีทีไล่ แม้จะตื่นตระหนกแต่ก็พยายามสังเกตสิ่งรอบกาย ป่านนี้เฉวียนเยว่คงรู้แล้วว่าหวาหวาหายไป จริงดังคาด
“คุณชายคืนนี้อย่าลืมแวะเวียนข้ารับรองจะจองตัว หวาหวาไว้ให้ท่าน"ไท่หลิงหงก้าวขาขึ้นไปบนเกี้ยว
“นายหญิงขอรับข้า หยุดเกี้ยวรอแม่นางหวาหวา นางออกมาหรือยัง” เฉวียนเยว่ขมวดคิ้ว
“หวาหวายังไม่ได้กลับบ้านอีกหรือ”ไท่หลิ่งหงขมวดคิ้ว เงี้ยหูฟังบทสนทนาเขาดื่มหมดไปหลายจอกเห็นได้ชัดว่านางออกมาพร้อมเขา
"ขอรับนายหญิง"
"ตายแล้วทำไมป่านนี้เพิ่งจะมาบอกข้า ส่งคนไปที่บ้านของหวาหวานางอยู่ที่นั่นหรือยัง"เฉวียนเยว่สีหน้าเป็นกังวลยิ่งนัก
"เคลื่อนเกี้ยว"ไท่หลิ่งหงสั่งดังๆ
ในขณะที่เทียนห่าวนั่งรออยู่ด้านนอกตัวบ้านรู้สึกว่าผิดเวลาเช่นกันเมื่อเห็นเกี้ยวรู้สึกโล่งอกแต่
"แม่นางหวาหวาอยู่ที่นี่หรือไม่"เทียนห่าวขมวดคิ้ว
หวาหวาเดินสำรวจรอบๆ อีกครั้ง
ไม่ทางออกแต่อย่างใด
"ช่วยด้วย ช่วยด้วย ช่วยข้าด้วย"ลูบคลำไปทั่วบริเวณ หาช่องที่ทีจะออกไปจากตรงนี้ให้ได้
โคมไฟส่องสว่างคิดเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากมีช่องทางระบายอากาศ ใครสักคนที่จับตัวหวาหวามาจะเพื่ออะไรก็ช่างตอนนี้ทำได้อย่างเดียวคือหาทางหนี
