11.หัวใจไม่ยอมหยุดสั่น
เดนนีสนั่งลงก่อนที่จะกางขาออก เขามองสบตากับนาเวียอย่างไม่ละสายตาออกไปเลย แน่นอนว่านี่คือเรื่องที่น่าอายแต่ทว่าเราทั้งคู่ต่างไร้ทางเลือก เขาที่อยากหายและเธอที่มีใจช่วยเหลือ..
เมื่อนาเวียคุกเข่าลงใบหน้าก็เสมอกับส่วนที่แข็งตึงราวกับท่อนไม้..ไม่ใช่ราวกับสิ แต่ว่ามันคือท่อนไม้จริงๆ ..
เรื่องการทำรักนั้นเธอพอจะรู้ว่ามันควรทำอย่างไรเพราะเธอเองก็มีแฟนมาแล้วหลายคนทีเดียว ฉะนั้นแค่ใช้ปากมันไม่มีอะไรยากแต่มันยากตรงที่เพราะของเขาคือท่อนไม้นี่แหละ..
ลมหายใจร้อนรุ่มเป่ารดลงมาบนส่วนนั้นพร้อมกับท่าทีลังเลของนาเวีย เขาเองก็กำลังประหม่าเช่นเดียวกัน หากว่าเธอไม่ชอบหรือว่าเธอลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีไปเขาควรจะทำอย่างไรดีนะ..เธอลอบกลืนน้ำลายเล็กน้อยก่อนที่จะขยับใบหน้าเข้ามาหา กระดูกต้นคอนูนขึ้นมาเล็กน้อยขณะที่ศีรษะกดลงต่ำ
นาเวียเปิดปากออกก่อนที่จะรับท่อนไม้ของเดนนีสเข้าไปในปาก มันยังคงแข็งในแบบที่น่าตกใจมากทีเดียว ท่อนไม้ที่เธอกำลังใช้ปากโอบรัดมันนั้นไม่มีรสชาติใดๆ เลย..เขาเอื้อมมือมาประคองท้ายทอยของเธออย่างใส่ใจ พร้อมกับเสียงร้องครางต่ำลอดไรฟัน
นั่นทำให้นาเวียล่วงรู้ว่าถึงแม้ว่าส่วนนั้นของเขาจะแข็งเป็นท่อนไม้ แต่ทว่ามันก็สร้างความรู้สึกแก่เขามากทีเดียว หากเธอเดาไม่ผิดเขาน่าจะมีความรู้สึกในยามถูกสัมผัสหรือแม้กระทั่งถูกโลมเลียเหมือนกับบุรุษทั่วๆ ไป..เช่นนั้นต่อให้สิ่งที่เธอรับเข้ามาในริมฝีปากจะเป็นท่อนไม้เธอก็ควรจะอ่อนโยนกับมันให้มากอย่างนั้นสินะ
“อื้อ!!”
ในชีวิตของเดนนีสไม่เคยพบเจอเรื่องเช่นนี้มาก่อนเลย หากเขาเกิดมีความต้องการเขาก็มีเพียงมือทั้งสองเท่านั้นที่บรรเทาความรู้สึกอยากที่เด่นชัด..ริมฝีปากนั้นของเธอเล็มชิมจุดอ่อนไหวอย่างเชื่องช้า นาเวียค่อยๆ สอดริมฝีปากเข้าไปแล้วถอยร่นออกมา..หลังจากนั้นเธอจึงครอบริมฝีปากลงไป ความอุ่นนุ่มอันน่าพึงพอใจกำลังโอบรัดเขา ความรู้สึกเช่นนี้เขาไม่เคยได้รับมาก่อนเลยให้ตายสิ..มันดีมากกว่าจะเรียกมันว่าการรักษาด้วยซ้ำไป
นาเวียพรมจูบส่วนหัวอย่างช้าๆ ..ริมฝีปากน้อยๆของเธอหว่านพรมรอยจูบไปตามลำแท่งนั้นตลอดทั้งลำ คล้ายกับว่าเธอกำลังบีบนวดด้วยริมฝีปากนั้น
เสียงครางหลุดรอดออกมาทุกครั้งที่หายใจ เดนนีสรู้สึกอายมากเหลือเกิน แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเขาจึงไม่สามารถสกัดกั้นเสียงครางนั้นเอาไว้ได้เลย
นาเวียลากไล้ปลายลิ้นตามคอหยัก เธอปรับเปลี่ยนความเร็วก่อนจะเอ่ยถามความคิดเห็นของเขาว่าดีหรือไม่
“ชอบให้..ทำอย่างช้าๆหรือว่าทำเร็วๆ กันคะ”
เดนนีสหอบหายใจเสียงกระเส่า เมื่อเขาได้ยินคำถามนั้นเขาก็แทบคุมตัวเองไม่อยู่
“ช้าๆ ..ตอนนี้ขอช้าลงหน่อย..”
เธอเลียชิมอย่างละเมียดละไม หมุนวนปลายลิ้นรอบท่อนไม้นั้น
“จะทนไม่ไหวแล้วอย่างนั้นหรือคะ เช่นนั้น..ท่านก็ไม่ควรอดทน..”
บางทีหลังจากที่เขาเสร็จสมไปแล้ว เธออาจจะได้รู้ว่าการที่เรากำลังทำเรื่องเช่นนี้ มันช่วยในการรักษาจึงหรือไม่ หรือว่า..มันไม่ได้ช่วยเหลืออะไรเธอเลย
เมื่อคิดได้ดังนั้นนาเวียจึงหาทางกระตุ้นเดนนีสอีกหน่อย เธอละเลงปลายลิ้นลงไปก่อนจะเอียงใบหน้า ท่อนลำที่แข็งตึงนั้นดันแก้มของเธอให้นูนตามสัดส่วนที่ใหญ่โตที่โพรงปาก เธอสะกิดปลายลิ้นตรงส่วนปลาย ส่ายลิ้นโฉบตำแหน่งอ่อนไหวซ้ายขวา..
เสียงเบาๆ ที่เล็ดลอดออกมาจากลำคอแปรเปลี่ยนเป็นเสียงครวญครางราวกับประสาทสัมผัสของเขากำลังมอดไหม้ อารมณ์ต่างๆ กำลังพุ่งทะยานขึ้นไปยังจุดสูงสุด..ภาพเบื้องหน้าพลันพร่าเลือนพร้อมกับอารมณ์ที่ระเบิดออกมา..
เขาทนไม่ไหว..และไม่อาจทนกับลิ้นที่ร้ายกาจของเธอด้วย..เดนนีสแหงนใบหน้าขึ้นอย่างหมดแรง..
หยาดน้ำสีขาวขุ่นพุ่งเข้ามาในโพรงปาก น้ำรสชาติอ่อนชวนให้เธอดูดกลืนทุกหยดหยาด..
นาเวียใช้หลังมือเพื่อเช็ดคราบเหล่านั้นออกจากริมฝีปาก เธอจ้องมองไปยังเจ้าท่อนไม้ท่อนนั้น..ก่อนจะแย้มยิ้มออกมาด้วยความโล่งอก เพราะสิ่งที่เธอมองเห็นมันคือความเปลี่ยนแปลง..
จากท่อนไม้ที่ทั้งแข็งและสากมือ ตอนนี้มันอ่อนลงบ้างแล้ว..แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังดูเหมือนกับท่อนไม้อยู่ดี เพียงแต่เป็นท่อนไม้ที่ดูนุ่มนิ่ม..
“ดูเหมือนว่าทฤษฎีของเราจะได้ผลนะคะเพราะว่าเจ้าท่อนไม้ของท่านมัน..ไม่ได้แข็งเหมือนกับก่อนหน้านี้”
เดนนีสก้มหน้าลงเพื่อมองส่วนนั้นของเขา..จากที่แข็งโป๊กในทุกช่วงเวลา ยามนี้มันอ่อนนิ่มลงบ้างแล้ว..เขารู้สึกโล่งอกอย่างบอกไม่ถูกเมื่อค้นพบหนทางรักษาอาการแปลกประหลาดของตนเองแล้ว..แถมหนทางรักษาที่ว่านั้นมันยัง..ดีมากอีกด้วย
“น้ำชามาแล้ว..นี่ข้าพลาดอะไรไปรึเปล่า?”
ฮานีที่เดินออกมาทีหลังเห็นนาเวียกำลังนั่งอยู่ที่พื้นส่วนเดนนีส เขาดูหมดแรงแต่..เจ้าท่อนไม้ที่เขาเคยเห็นมันกลับดูอ่อนลงเล็กน้อยทั้งที่ปกติมันจะมีสภาพไม่แตกต่างจากท่อนไม้เลย..
“ดูเหมือนสิ่งที่เราคาดการณ์เอาไว้จะเป็นความจริงล่ะฮานี หากอยากให้คำสาปจางหายไปต้องใส่ส่วนที่ถูกสาปเข้าไปในร่างกายของ นาเวีย..”
คำกล่าวสองแง่สองง่ามนั้นทำให้ฮานีหน้าแดง เขาแทบไม่กล้ามองหน้าของนาเวียด้วยซ้ำ..
“ข้าดีใจที่มันได้ผลนะ นั่นหมายความว่า..เรามีโอกาสที่จะได้กลับไปใช้ชีวิตปกติอย่างนั้นสิ..”
ฮานีส่งยิ้มให้กับเดนนีสและนาเวีย..เขาดีใจจนแทบจะพูดไม่ออกเลยจริงๆ ก่อนจะเข้ามาประคองนาเวียเพื่อให้เธอลุกขึ้นมานั่งลงบนโต๊ะ
“หากหมดแรง..เช่นนั้นคืนนี้ค้างที่บ้านของข้าก่อนไหมครับนาเวีย..”
เธออายเล็กน้อยเมื่อเขาทักว่าเธอดูเหมือนคนที่หมดแรง..แต่เมื่อเหลือบไปมองนาฬิกาก็พบว่านี่มันดึกมากทีเดียว
“เช่นนั้นข้าขอรบกวนด้วยนะคะท่านฮานี”
“ไม่รบกวนอะไรเลยครับ ท่านนาเวียต่างหากที่ช่วยเหลือพวกเรา..ข้าและเดนนีสจะตอบแทนท่านอย่างแน่นอน”
เดนนีสพยักหน้า
“เช่นนั้นคืนนี้เจ้าพักที่นี่เถอะนาเวีย พรุ่งนี้เช้าข้าจะมารับเจ้าไปดูบ้านตั้งแต่เช้า เรื่องค่าเช่าข้าไม่สามารถเรียกเก็บกับผู้มีพระคุณได้หรอก..เจ้าชอบหลังไหนก็อยู่ที่นั่นได้เลย”
นาเวียรีบส่ายหน้าในทันที
“แบบนั้นไม่ได้นะคะ ข้าไม่อยากรบกวนท่านมากจนเกินไป..”
“รบกวนอะไรกัน เจ้าคือผู้มีพระคุณของเรานะ..ให้เราตอบแทนเจ้าบ้างเถิด เช่นนั้นข้ากลับก่อนก็แล้วกัน พรุ่งนี้เจอกันนะนาเวีย”
เดนนีสลุกขึ้นก่อนจะโบกมือลาให้นาเวีย เขาเดินออกจากร้านหนังสือแล้วยกมือขึ้นมากุมหัวใจของตัวเองเอาไว้..
ให้ตายสิหัวใจของเขายังไม่ยอมหยุดเต้นแรงเลย..ถึงแม้ว่าจะมาถึงบ้านของตัวเองแล้วก็ตาม นี่เขาเป็นอะไรไปกันนะ
