ลมหายใจสุดท้าย chapter 2
เก้าโมงเช้าวันถัดมาเฌอเอมและวิทยานั่งรอนัดหมายลูกค้าคนสำคัญที่ห้องประชุม โดยที่เฌอเอมรู้สึกตื่นเต้นกับงานแรกมากจนต้องระบายให้เจ้านายหนุ่มฟัง
“พี่วิทย์เอมตื่นเต้นจังเลยค่ะ เมื่อคืนเอมปั่นงานทั้งคืนเพิ่งได้นอนไปสามชั่วโมงเองไม่รู้จะถูกใจลูกค้าหรือเปล่า” น้ำเสียงและสีหน้าที่วิตกกังวลของลูกน้องสาวทำให้วิทยาต้องช่วยพูดให้กำลังใจ
“ไม่ต้องเครียดไปหรอกเอม คุณภูมิเค้าก็ไม่ได้จะดุอะไรนักหนาออกจะสุภาพด้วยซ้ำไปอีกอย่างพี่ก็อยู่ด้วยทั้งคนคงไม่มีปัญหาอะไรหรอกน่าแล้วงานเอมพี่ดูแล้วยังชอบมากเลย เอมใจเย็นใจหายใจเข้าลึก ๆ พอคุณภูมิมาถึงเอมจะได้แสดงฝีมือเต็มที่”
กำลังใจจากเจ้านายทำให้เฌอเอมลดความกังวลใจไปได้บ้าง พอดีกับรถยนต์หรูสีดำมันปลาบขับมาจอดหน้าออฟฟิตพร้อมด้วยชายชุดดำท่าทางเคร่งขรึมสองคนที่เปิดประตูให้ชายในชุดสูทสีเข้มท่าทางน้อมน้อมเรียกสายตาเฌอเอมที่มองลงไปอย่างสนใจ
“พี่วิทย์นั่นใครคะ ท่าทางอย่างกับมาเฟียต้องมีบอดีการ์ดด้วยนี่ถ้ามีเพลงเจ้าพ่อเซี้ยงไฮ้ เอมว่าใช่เลยนะเนี่ย” เสียงวิจารณ์เปรียบเทียบทำให้วิทยาถึงกับหลุดขำมาพรืดใหญ่กับจินตนาการอันล้นเหลือของลูกน้องสาว
“จะบ้าหรือเอม นั่นนะคุณภุชงค์ลูกค้าที่เอมต้องพบไงล่ะ แล้วอย่าพูดเสียงดังนะคุณภูมิค่อนข้างมีศัตรูทางธุรกิจเยอะเลยต้องมีบอดีการ์ดเป็นธรรมดา”วิทยาทำท่ากระซิบกระซาบหญิงสาว
"เอมว่าเขาต้องมีเบื้องหลังแปลก ๆ แน่เลยไม่งั้นคงไม่มีศัตรูมากถึงขนาดต้องมีบอดีการ์ดหรอก"เฌอเอมสงสัย
พอดีกับที่ภุชงค์เดินมาถึงหน้าห้องพอดีเสียงเคาะประตูที่ไม่ดังจนเกินไปทำให้ลูกน้องเจ้านายต้องรีบตีหน้านิ่งยิ้มรับลูกค้า
“สวัสดีครับคุณภูมิยังตรงเวลาเหมือนเดิมเลยนะครับ”วิทยาลุกขึ้นยืนต้อนรับเขาด้วยท่าทีสุภาพเช่นเดียวกับเฌอเอมที่ส่งยิ้มหวานไปให้เช่นกัน
ภุชงค์สะดุดตากับหญิงสาวที่ยืนข้างวิทยาแต่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าใด ๆ“แน่นอนครับการตรงต่อเวลาถือเป็นมารยาทที่ดีสำหรับผม”รอยยิ้มน้อย ๆที่มุมปากกับน้ำเสียงนิ่งเรียบไม่บ่งบอกอารมณ์ใด ๆ ของภุชงค์ชายหนุ่มที่มีหน้าตาคมสันหล่อเหลาไม่แพ้ดาราหลายคนแต่มีดวงตาที่คมดุราวกับพญาอินทรีย์ทำให้เฌอเอมอดรู้สึกเกร็งขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“นะนั่นสิครับ” วิทยารู้สึกเก้อขึ้นมาทันที กับท่าทางที่ภุชงค์แสดงแม้จะเคยพบกันมาบ่อยครั้งแต่เขาก็ยังไม่ชินเสียที จึงหันไปแนะนำหญิงสาวหนึ่งเดียวในห้องที่ยืนยิ้มแหย ๆ ให้เขา
“เอ่อคุณภูมิครับนี่เฌอเอมโปรแกรมเมอร์คนใหม่ที่จะมาดูแล
โพรเจค นี้ให้คุณ เอมเพิ่งจบปริญญาโทด้านนี้มาโดยเฉพาะจากอังกฤษเลยนะครับ”ท้ายประโยควิทยาเอ่ยด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจจนภุชงค์ต้องมองหญิงสาวหน้าออกลูกครึ่งที่มีรอยยิ้มและดวงตาสะดุดใจเขายิ่งนัก
คำแนะนำของวิทยาทำให้ภุชงค์มั่นใจว่าหญิงสาวตรงหน้ากับหญิงสาวที่เคยช่วยเขาไว้เป็นคนเดียวกันแต่ดูเหมือนว่าเธอจะจำเขาไม่ได้เลย
“ก็ดีครับ ผมหวังว่าผลงานของคุณเฌอเอมจะคุ้มกับเงินที่ผมต้องลงทุนไปก็แล้วกัน” สีหน้านิ่งกับน้ำเสียงทุ้ม ๆ แต่แฝงไปด้วยความสบประมาทของภุชงค์ทำให้เฌอเอมรู้สึกหน้าตึงขึ้นมาฉับพลันที่เขาบังอาจมาดูถูกเธอทั้ง ๆ ที่ยังไม่เห็นผลงาน
“รับรองค่ะงานที่ดิฉันทำคุ้มค่ากับเงินลงทุนของคุณ ทุกบาททุกสตางค์แน่นอน”เฌอเอมเค้นรอยยิ้มให้เขาด้วยน้ำเสียงลอดไรฟัน ประสานสายตาท้าทายอย่างไม่เกรงกลัว จนวิทยาที่ยืนคั่นกลางมองยิ้มกระตุกของภุชงค์ที่มองมายังลูกน้องเขา ก็นึกกลัวรีบชวนเข้าเรื่องงานเป็นการด่วน
“เอาล่ะครับเราเสียเวลากันมามากแล้ว ผมว่าคุณภูมิลองมาดูผลงานที่เอมจะอธิบายดีกว่า เผื่อมีอะไรเพิ่มเติมเราจะได้ไม่เสียเวลา” วิทยาแนะนำลูกค้าหนุ่มที่เอาแต่มองลูกน้องเขาด้วยสายตายากจะคาดเดา เช่นเดียวกับหญิงสาวที่ดูก็รู้ว่าตอนนี้อารมณ์เริ่มกรุ่นขึ้นทุกที
“เอมก็พร้อมแล้วค่ะอยากจะพรีเซนต์เต็มแก่แล้วลูกค้าจะได้รู้ว่าบริษัทเรางานทุกชิ้นมีคุณภาพเสมอ”
“งั้นก็เชิญครับ” ภุชงค์ผายมือยักคิ้วใส่เฌอเอมอย่างท้าทายไม่สนใจอาการประชดของหญิงสาวท่าทางแก่นเสี้ยวสักนิด
ในที่สุดการพรีเซนต์งานของเฌอเอมก็เสร็จสิ้นลงอย่างงดงามวิทยาลุกขึ้นปรบมือให้ลูกน้องอย่างออกหน้าออกตา ผิดกับภุชงค์ที่ตลอดการฟังไม่ถามอะไรทั้งสิ้น พอจบการพรีเซนต์ก็ทำเพียงแค่ยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปากตามสไตส์ก่อนจะลุกขึ้นยืนทันทีที่วิทยาหยุดปรบมือ
ภุชงค์พอใจกับผลงานที่เฌอเอมพรีเซนต์แต่เขาจะไม่แสดงออกว่าพอใจแต่กลับพูดตรงข้าม
“ก็พอใช้นะ เอาเป็นว่าคุณวิทยาดำเนินการต่อเลยแล้วกันยังไงผมขอตัวก่อนพอดีมีนัดอีกที่" ภุชงค์กล่าวลาห้วน ๆ แล้วรีบเดินจากไปท่าทางเร่งรีบสร้างความแปลกใจระคนไม่พอใจแก่เฌอเอม
ยิ่งนัก
“สั้น ๆ ง่าย ๆ แค่เนี้ย พี่วิทย์ตกลงคุณภูมิอะไรเนี่ยเค้าชอบงานของเราหรือเปล่า มาถึงก็เอาแต่นั่งนิ่งตีหน้ายักษ์กวนประสาทเสร็จแล้วก็ไป แล้วจะเอายังไงก็ไม่บอกสักคำ ” ท่าทางกระฟัดกระเฟียดกับคำพูดที่เจ้าหล่อนประชดประชันทำให้วิทยาต้องรีบเบรกลูกน้องอธิบายให้เข้าใจเป็นการด่วน
“ฮือเอมไม่ใช่อย่างที่เอมเข้าใจ คุณภูมิพอใจงานของเอมมากเลยนะไม่งั้นคงไม่แค่นั่งฟังนิ่ง ๆ แน่พี่แกฉะแหลกตั้งแต่เอมอ้าปากแล้ว นี่นอกจากจะไม่ติสักคำยังไฟเขียวให้เราดำเนินการต่อได้ทันทีแบบนี้เรียกว่าพอใจ เอ๊ะไม่สิต้องเรียกว่าพอใจมากต่างหาก” อาการยิ้มจนหน้าบานกับน้ำเสียงที่ดูร่าเริงเกินปกติของเจ้านายทำให้เธอต้องเชื่ออย่างนั้น
“เอมก็ไม่เข้าใจอยู่ดีแหละพี่วิทย์อย่างน้อยเขาน่าจะแสดงออกทางอารมณ์มากกว่านี้สักหน่อยก็ยังดี นี่อะไรหน้านิ่งยังกับเพิ่งไปฉีดโบท็อกซ์มาขยับหน้าไม่ได้”
“บะเอมก็ว่าไปนั่น คุณภูมิเขาก็เป็นอย่างนี้เองแหละ ที่เขานั่งฟังเฉย ๆ นี่ก็เพราะว่างานของเอมถูกใจเขามากไม่เหมือนคราวที่แล้วเล่นเอาพี่กับนายเจตเหงื่อตกเลยนะกว่าคุณภูมิจะบอกว่าใช้ได้ แต่เอม เอมทำให้ประวัติศาสตร์หน้าใหม่เกิดขึ้นในบริษัทของเรา” วิทยาจับบ่าเฌอเอมอย่างชื่นชมและอดหวนนึกถึงงานคราวก่อนที่เขากับลูกน้องอีกคนต้องแก้งานไม่ต่ำกว่าสิบรอบกว่าเขาจะพอใจ
“อ๋อ เข้าใจแล้วสไตส์แบบนี้เอง” เฌอเอมพยักหน้าเข้าใจ
“น่างานนี้เอมทำดีมากเลยนะพี่พอใจมากกกกกก” วิทยาลากเสียงยาวแสดงถึงความพอใจ
“ เพราะฉะนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเอมจะเป็นพนักงานประจำของพี่โดยไม่ต้องรอครบกำหนดสามเดือน”
คำพูดของเจ้านายทำให้อารมณ์กรุ่น ๆ เมื่อครู่ดีขึ้นมาทันตา
“ขอบคุณพี่วิทย์มากเลยนะคะ เจ้านายใจดีแบบนี้รับรองเอมทำงานถวายหัวแน่นอน”เฌอเอมยักคิ้วหน้าทะเล้นใส่วิทยาจนชายหนุ่มขำกับความสดใสของเธอไปด้วย
