การพลัดพรากและการพบเจออีกครั้ง chapter 1
เพียงแค่ก้าวแรกที่เท้าเฌอเอมสัมผัสกับพื้นคอนกรีตของลานวัดขากับไร้เรี่ยวแรงพยุงตัวถึงกับเซจนภุชงค์ต้องเข้ามาประคอง จากตอนแรกที่เธอตั้งใจว่าจะไม่ร้องไห้อีกแต่บรรยากาศงานศพที่ค่อนข้างเศร้าโศกและภาพที่มีร่างหนึ่งนอนนิ่งอยู่กลางศาลาทำให้เธอยากที่จะทำใจยอมรับว่าพี่สาวที่แสนดีของเธอได้จากไปแล้วจริง ๆ เฌอเอมเดินเข้าไปหาร่างหญิงสาวที่นอนนิ่งดูเหมือนนอนหลับมากกว่าตาย แต่ร่างที่เย็นชืดกับลมหายใจที่ไม่อาจสัมผัสได้ทำให้เฌอเอมต้องยอมรับความจริงตรงหน้าว่าเฌอพลอยได้ตายไปแล้วจริง ๆ
“พลอยมันไม่จริงใช่ไหม พลอยแค่แกล้งเอมใช่ไหมเอมมานี่แล้วไงพลอยตื่นสิเอมไม่สนุกแล้วนะ เลิกแกล้งเอมเถอะเอมข้อร้องต่อไปนี้เอมจะไม่ทิ้งพลอยไปไหนไกล ๆ อีกแล้ว ขอร้องล่ะอย่าทำโทษเอมแบบนี้เลย”ภาพที่เฌอเอมโน้มตัวลงไปกอดศพพี่สาวแน่นร่ำไห้ปานใจจะขาดทำให้ผู้คนที่พบเห็นถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ รู้สึกเวทนาในชะตากรรมของคนตายยิ่งนัก
“คุณเอมพอเถอะอย่าทำแบบนี้เลย พลอยจะไม่สบายใจนะที่คุณเป็นแบบนี้”ภุชงค์ประคองตัวเฌอเอมออกมาจากศพของเฌอพลอยเพื่อที่จะได้นำร่างของเธอบรรจุลงโลงรอทำพิธีทางศาสนาต่อไป ซึ่งเขาเองก็คงทนดูภาพที่น้องสาวของพลอยร่ำไห้ต่อไปไม่ไหว จากที่เขาคิดว่าได้ร้องไห้มากพอแล้วกับการสูญเสียเฌอพลอยที่เป็นคนในครอบครัวเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ของเขา แต่เฌอเอมกลับทำให้น้ำตาที่คิดว่าคงหมดไปแล้วปริ่มออกมาอีกครั้ง
“คุณเอม”นักรบเอ่ยชื่อหญิงสาวที่ร้องไห้จนตาแดงกล่ำจนภุชงค์ต้องค่อยประคองด้วยเสียงที่เบาหวิวรู้สึกผิดยิ่งนักที่ทำให้พี่สาวเธอต้องจากไปก่อนวัยอันควร
“ตำรวจว่าไงบ้างไอ้รบ”ภุชงค์ถามเพื่อนรักที่หน้าตาอมทุกข์ไม่ต่างไปจากเขา ทันที่ที่เพื่อนก้าวมาถึงศาลา
“ตำรวจสรุปว่าทุกอย่างเป็นเพียงอุบัติเหตุ เพราะในที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยการต่อสู้หรือรอยนิ้วมือใครเลยส่วนพวกเครื่องเพชรก็อยู่ครบ ส่วนในห้องน้ำมีคราบสบู่อยู่ที่พื้นด้วยคาดว่าตอนพลอยล้มคงเหยียบเข้าพอดี” นักรบอธิบายน้ำเสียงสั่นเครือ
“ลุกาก็บอกแล้วว่าพี่รบไม่ผิดทุกอย่างมันเป็นแค่อุบัติเหตุยายพลอยดันซุ่มซ่ามเองจนตัวเองต้องตาย” วาลุกาสาวเปรี้ยวลูกพี่ลูกน้องของภุชงค์เอ่ยสนับสนุนนักรบอย่างออกหน้าออกตา จนพี่ชายต้องปราบด้วยสายตา
เฌอเอมรีบแย้งทันทีกับสาเหตุการตายของพี่สาว “พวกคุณแน่ใจนะว่านี่คืออุบัติเหตุไม่ใช่ฆาตกรรม”คำพูดลอย ๆ ของหญิงสาวแปลกหน้าอย่างเฌอเอมทำให้พวกเขามองไปที่เธอเป็นตาเดียว โดยเฉพาะวาลุกาที่ไม่พอใจอย่างมาก
“แล้วเธอเป็นใครมิทราบมีสิทธิมายุ่งวุ่นวายอะไรกับเรื่องนี้ ไหน ๆ คนก็ตายไปแล้วจะพื้นฝอยหาตะเข็บอีกทำไม” วาลุกามองหน้าเฌอเอมท่าทางเอาเรื่อง
ภุชงค์มองปรามน้องสาวก่อนจะแนะนำเฌอเอมกับทุกคน
“นี่เฌอเอมเป็นน้องสาวฝาแฝดของพลอย ส่วนนี่วาลุกาเป็นลูกพี่ลูกน้องของผมเอง ส่วนนายรบคุณคงรู้จักแล้ว”
“ฉันไม่เห็นว่าจะเหมือนกันตรงไหนเลย แอบอ้างหรือเปล่ายะร้อยวันพันปีไม่เคยจะได้ยินว่ายายพลอยมีน้องสาวฝาแฝด ที่มาแสดงตัวเนี่ยหวังมรดกหรือเปล่าก็ไม่รู้” วาลุกาโพล่งขึ้นมาทันทีเพราะหน้าตาที่ต่างกันของสองพี่น้อง
เฌอเอมมองวาลุกาสายตาไม่พอใจ " ถึงฉันจะไม่ได้ร่ำรวยเท่าพวกคุณแต่ฉันก็มีศักดิ์ศรีมากพอไม่ได้หวังมรดกคนตาย "
นักรบกลัวเรื่องจะบานปลายจึงแก้ตัวแทนเฌอเอม “ไม่ใช่แบบนั้นหรอก
ลุกา คุณเฌอเอมเขาเป็นแฝดต่างไข่เลยหน้าตาไม่เหมือนกันพี่รู้จักเอมตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัยแล้ว” นักรบแก้ข้อกังขาให้แกหญิงสาวอีกคนที่ไม่ยอมปักใจเชื่อ
“แล้วทำไมคุณถึงคิดว่ามันไม่ใช่อุบัติเหตุล่ะ” ภุชงค์ถามด้วยความสนใจ
“พลอยไม่ใช่คนซุ่มซ่ามขนาดที่จะทำให้ตัวเองต้องตาย และก่อนหน้านี้พลอยก็ทำอะไรบางอย่างที่เหมือนกับรู้ว่าตัวเองกำลังจะตายฉันเลยมั่นใจว่านี่คือการฆาตกรรมแน่นอน” เฌอเอมตอบน้ำเสียงมั่นใจ
“ฉันหวังว่าไอ้ข้อสันนิฐานของหล่อนจะไม่ทำให้พวกฉันต้องเดือดร้อนก็แล้วกัน”วาลุกามองเฌอเอมด้วยสายตาดูหมิ่นก่อนจะเดินเชิดหน้าปลีกตัวไปนั่งตามลำพัง
“คุณอย่าไปถือลุกาเลยนะเขาก็ปากเป็นอย่างนี่เอง แต่จริง ๆ แล้วไม่มีอะไรหรอกเขาค่อนข้างสนิทกับพลอยเลยไม่อยากรื้อฟื้นอะไรให้เสียใจไปมากกว่านี้” ภุชงค์แก้ต่างแทนน้องสาวเพราะเฌอเอมมองน้องสาวเขาราวกับเธอเป็นผู้ต้องสงสัย
“พลอยเขาคงดีใจนะครับที่คุณเอมกลับมาอยู่เมืองไทยเสียที แต่กลับเป็นเขาเองที่ต้องมาจากพวกเราไป”นักรบเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือมองรูปคนรักหน้าโลงศพด้วยดวงตาแดงกล่ำ
เฌอเอมปราดน้ำตาเธอไม่เชื่อสักนิดว่าการตายของพี่สาวเป็นเพียงอุบัติเหตุ เรื่องนี้มีอะไรน่าสงสัยอยู่มากไม่แน่หนึ่งในคนเหล่านี้อาจมีส่วนกับการตายของเฌอพลอย เรื่องนี้เธอจะสืบหาความจริงทวงความยุติธรรมให้พี่สาวคนเดียวของเธอให้ได้
หลังจากที่เสร็จการสวดศพเฌอพลอย เฌอเอมก็รีบตรงดิ่งกลับไปที่คอนโดเพื่ออ่านไดอารี่ของพี่สาวอย่างละเอียด ช่วงแรกของไดอารี่เธอไม่พบสิ่งผิดปกติใด ๆ จนกระทั่งไดอารี่ที่เขียนหลังจากที่พี่สาวของเธอประสบอุบัติเหตุเมื่อสองปีก่อนที่คุณวศินคุณพจนี และพี่สาวของเธอเดินทางไปต่างจังหวัดแต่ระหว่างทางรถประสบอุบัติเหตุตกเขาพ่อแม่
บุญธรรมของพี่สาวเธอเสียชีวิตทั้งคู่ส่วนเฌอพลอยรอดมาได้ราวกับปาฏิหาริย์แต่อาการช็อกทำให้เธอจำเหตุการณ์ตอนเกิดอุบัติเหตุไม่ได้ และต่อมาคือเหตุการณ์ในวันเปิดพินัยกรรมธุรกิจของครอบครัวที่คุณวศินถือหุ้นใหญ่ 60%อีก40% เป็นของคุณประพจน์อาแท้ๆของนักรบ โดยหุ้นของคุณวศินถูกแบ่งเป็นสองส่วนคือ ภุชงค์ได้รับ 40 %เฌอพลอยอีก20% ซึ่งจากทั้งสองเหตุการณ์ทำให้พี่สาวของเธอโดนก่อกวนไม่หยุด จนระยะหลังมานี้ยิ่งช่วงสองเดือนก่อนแต่งงานเหตุการณ์เหมือนจะรุนแรงขึ้นจนพี่สาวเธอหวาดกลัวจึงได้จัดการส่งไดอารี่ไปให้น้องสาวที่อังกฤษอีกทั้งยังโอนหุ้นในส่วนของเธอให้ด้วย ยิ่งเฌอเอมอ่านไดอารี่ระบายความอัดอั้นตันใจของพี่สาวเธอก็ยิ่งพบช่องโหว่มากขึ้นทุกที คนร้ายอาจจะเป็นคนใกล้ตัวเพราะรู้การเคลื่อนไหวของพี่สาวเธอเป็นอย่างดี
“พลอยเอมจะช่วยพลอยยังไงดี” เฌอเอมบ่นรำพันกับรูปถ่ายของพี่สาวด้วยหัวใจที่หนักอึ้งราวกับใครเอาหินมาถ่วงไว้ น้ำตาอุ่น ๆ เริ่มไหลนองอีกครั้งนาทีแล้วนาทีเล่าจนกระทั่งเธอหลับไปทั้งน้ำตา
“เอ๊ะที่นี่ที่ไหนนะทำไมหมอกถึงได้เยอะขนาดนี้” มือเรียวสวยโบกอากาศข้างหน้าที่ปิดบังหนทางข้างหน้าจนมองไม่เห็นอะไร เธอค่อย ๆ คลำทางเดินไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมายเส้นทางแห่งนี้ช่างดูเปล่าเปลี่ยวเดียวดายจนเธอรู้สึกหดหู่ใจ ยังดีที่มีแสงจันทร์ที่ส่องมาเป็นเครื่องนำทางได้บ้าง แต่ยิ่งเดินเส้นทางก็เหมือนกลับยิ่งยาวออกไปเรื่อย ๆ จนเธอท้อแท้นั่งลงข้างทางอย่างสิ้นหวัง ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง และทันใดนั้นเธอก็รู้สึกถึงการมาของใครบางคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอ เฌอเอมเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าเป็นเฌอพลอยพี่สาวของเธอนั่นเอง
“ร้องไห้ทำไมเอมไม่ต้องกลัวนะพลอยจะพาเอมกลับบ้านเอง”มือเรียวยื่นไปให้น้องสาวที่ส่งยิ้มดีใจมาให้เธอ
“พลอย พลอยจริง ๆ ด้วยพลอยยังไม่ตาย” เฌอเอมผวาเข้ากอดพี่สาวแน่นด้วยความดีใจ
“เอมคนเก่งลุกขึ้นเถอะกลับบ้านกันที่นี่ไม่ใช่ที่ของเอม”เฌอพลอยฉุดมือน้องสาวให้ลุกขึ้นสองพี่น้องเดินออกไปสู่ปลายอุโมงค์ด้วยกันไม่นานก็มาโผล่ที่ห้องของทั้งคู่ เฌอพลอยพาน้องสาวไปนอนที่เตียงจัดการห่มผ้าให้เหมือนตอนเป็นเด็ก
“พลอยเอมฝันร้าย ฝันว่าพลอยตายมันเหมือนจริงมากจนเอมกลัว กลัวว่าเราจะไม่ได้พบกันอีก” เฌอเอมพร่ำบอกเสียงสั่นเธอกำมือพี่สาวไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
เฌอพลอยกำมือน้องสาวเบา ๆ เพื่อปลอบ “เอมจำไว้นะว่าจะไม่มีอะไรมาพรากเราสองคนได้อีกแม้แต่ความตาย” น้ำเสียงของเฌอพลอยช่างเย็นยะเยือกจนขนลุกและน้ำตาสีแดงสดที่ไหลอาบแก้มพี่สาวทำให้เธอถึงกับตกใจสะดุ้งตื่นทันที
“พลอย” เฌอเอมร้องเรียกพี่สาวลั่นห้องเหงื่อเปียกชุ่มไปทั้งตัว มองผ้าห่มบนตัวอย่างประหลาดใจเพราะจำได้ว่าเธอเก็บเอาไว้ในตู้
“ขอบใจนะพลอย ขอบใจที่ยังไม่ทิ้งพลอยไปไหน”เฌอเอมหันไปมองรูปเฌอพลอยที่หัวเตียงก่อนจะรีบลุกไปอาบน้ำเนื่องจากเป็นเวลาเกือบหกโมงเช้าแล้ว เธอตั้งใจจะใส่บาตรให้พี่สาวก่อนไปทำงาน
“ตั้งใจกรวดน้ำนะโยม” เสียงพระชราเอ่ยกับหญิงสาวอย่างอ่อนโยน หลังจากกรวดน้ำเสร็จพระสงฆ์ชราก็มองเธอด้วยสายตาแปลกไปก่อนจะพูดทิ้งท้ายเป็นปริศนาว่า
“โยมหมั่นทำบุญให้เขามาก ๆ นะบุญกุศลจะช่วยให้โยมทั้งสองที่ผูกพันกันมาแต่ชาติก่อนได้มีโอกาสเกื้อกูลกันอีกครั้ง” แม้พระสงฆ์ชราจะเดินจากไปนานแล้วแต่เฌอเอมยังยืนนิ่งอยู่กับที่ครุ่นคิดกับสิ่งที่พระท่านบอกแต่ก็ยังไม่เข้าใจ
