การพลัดพรากและการพบเจออีกครั้ง chapter 2
บริษัทวิทยา
วิทยาเดินมาหาเฌอเอมที่ห้องทำงานเพราะสังเกตเห็นว่าสองสามวันวันมานี้เฌอเอมดูเงียบขรึมผิดปกติ บางครั้งเขาก็เห็นว่าเฌอเอมแอบร้องไห้ตามลำพัง
“เอมสองสามวันนี้มีอะไรหรือเปล่าพี่เห็นเอมเครียด ๆ แถมยังแต่ชุดดำทุกวันเลยมีใครเป็นอะไรหรือเปล่า” วิทยาเข้ามาสอบถามลูกน้องที่ช่วงนี้เอาแต่นั่งเงียบไม่ร่าเริงดังแต่ก่อน
“ไม่มีอะไรหรอกพี่วิทย์พรุ่งนี้เอมขอลางานวันหนึ่งนะคะพอดีเอมมีปัญหาส่วนตัวนิดหน่อย” เสียงเครือ ๆ กับดวงตาที่แดงช้ำเพราะการร้องไห้แม้จะแต่งหน้าปิดอย่างไรวิทยาก็สังเกตเห็นอยู่ดี จึงไม่อยากซักไซ้อนุญาตตามที่หญิงสาวต้องการ
“พี่อนุญาตให้เอมพักสองสามวันแล้วกันเรื่องงานไม่ต้องห่วง” วิทยาบอกพลางแตะไหล่ให้กำลังใจ
“ขอบคุณพี่วิทย์มากนะคะที่เข้าใจเอมเอาไว้เอมโอเคกว่านี้เอมจะกลับมาทำงานให้เต็มที่เลยชดเชยที่เอมอู้”เฌอเอมฝืนยิ้มเสียว ๆ ให้เจ้านายเพื่อให้เขาสบายใจว่าเธอไม่เป็นอะไร
วิทยาพยักหน้า “พี่รู้นะว่าเอมเก่ง แต่บางเรื่องมันก็ไม่ง่ายสำหรับเราที่จะก้าวผ่านมันไป เอมไม่จำเป็นต้องเข้มแข็งตลอดเวลาหรอกนะ เอมมีชีวิตมีจิตใจ ไม่ไหวก็อย่าฝืน พี่ไม่ได้เป็นแค่เจ้านายนะแต่พี่ยังเป็นพี่ชายเราด้วยมีอะไรก็บอกพี่ได้นะ ”
เฌอเอมยิ้มทั้งน้ำตา “ขอบคุณค่ะพี่วิทย์ ตอนนี้เอมยังไหว ถ้าไม่ไหวจริง ๆ เอมจะไปหาพี่วิทย์คนแรกเลยค่ะ ”
วิทยาตบไหล่ให้กำลังใจเฌอเอมเบา ๆ ก่อนจะเดินออกไปปล่อยให้เฌอเอมจัดการกับน้ำตาตัวเองเงียบ ๆ
วันนี้เป็นวันเผาศพของเฌอพลอยแขกเหรื่อมาร่วมงานค่อนข้างหนาตาเนื่องจากพี่สาวเธอเป็นหนึ่งในผู้บริหารของบริษัทภุชงค์และเป็นลูกสาวบุญธรรมครอบครัวเขาด้วย เธอจึงเป็นที่รู้จักของผู้คนในแวดวงสังคมไม่น้อย เฌอเอมตัดสินใจนั่งรอที่ใต้ร่มไม้ใหญ่แทนการเข้าไปนั่งในศาลาที่มีแต่แขกที่เธอไม่รู้จัก รอเวลาให้แขกทยอยกลับให้หมดเพื่อจะรออำลาพี่สาวเป็นคนสุดท้าย
“คุณจะไม่เข้าไปนั่งในศาลาหน่อยหรือ”เสียงหนุ่มใหญ่ท่าทางภูมิฐานเอ่ยกับเธอพร้อมกับยื่นแก้วน้ำในมือส่งให้อย่างมีไมตรี
“เอ่อ ขอบคุณค่ะว่าแต่คุณเป็นใครคะ”เฌอเอมรับน้ำจากมือเขาแต่ก็มี
สีหน้าลังเล จนหนุ่มใหญ่ต้องรีบแนะนำตัว
“ผมชื่อประพจน์ครับเป็นอาของนักรบ สามีหนูพลอย หนูชื่อเฌอเอม
ใช่ไหมเห็นนายรบบอกว่าเป็นน้องของหนูพลอยอาเลยออกมาชวนไปนั่งข้างในด้วยกัน”
" ให้เอมนั่งตรงนี้ดีกว่าค่ะ เอมอยากอยู่เงียบ ๆ " เฌอเอมตอบเสียงเศร้าเธอไม่อยากให้คนอื่นเห็นน้ำตาตัวเอง
" งั้นอาขอนั่งด้วยคนนะ ข้างในมันอึดอัดชอบกล " ประพจน์บอกก่อนจะนั่งลงข้างเฌอเอม
เฌอเอมยิ้มรับ " เชิญค่ะ "
หนุ่มใหญ่ที่เข้ามาแนะนำตัวชวนเธอพูดคุยอย่างเป็นกันเองทำให้เฌอเอมคลายใจได้บ้างไม่รู้สึกโดดเดี่ยวจนเกินไป อีกทั้งหนุ่มใหญ่ก็ดูเป็นคนที่มีอัชฌาสัยดีเล่าเรื่องราวสมัยเด็กของเฌอพลอยให้ฟังรวมถึงเรื่องราวความรักระหว่างพี่สาวเธอกับนักรบหลานชายเขา
“ขอบคุณ คุณอามากนะคะที่อยู่เป็นเพื่อนเอมแถมยังเล่าเรื่องพลอยให้ฟังอีก”
“อาเข้าใจพลอยเขาเป็นเด็กดีไม่น่าอายุสั้นเลย ตอนนี้ตารบเองก็เสียใจมากข้าวปลาไม่ยอมกิน ขนาดอาเองพอรู้ข่าวก็รีบจัดการธุระที่ต่างประเทศ เพื่อที่จะได้ทันมางานศพเขาวันนี้”
“พลอยเขาโชคดีค่ะที่ทุกคนที่อยู่ใกล้รักและเอ็นดูเขาแบบนี้ เอมเชื่อว่าพลอยเขาคงกำลังมองเราอยู่ที่ไหนสักแห่งแน่ ๆ ”สายลมวูบที่อยู่ ๆ ก็พัดมาปะทะ ทำให้ประพจน์รู้สึกเย็นวาบที่ต้นคออย่างบอกไม่ถูก
“อาก็เชื่อแบบนั้น นี่แขกก็เริ่มทยอยมากันเยอะแล้วอาขอตัวไปช่วยเด็ก ๆรับแขกก่อนแล้วกัน” ประพจน์ขอตัวไปทันทีเพราะรู้สึกขนลุกแปลกจนไม่อยากอยู่ตรงนี่ต่อไป
เฌอเอมรอจนกระทั่งแขกทยอยลงมาจากเมรุจนหมด เธอจึงค่อย ๆ สูดลมหายใจเข้าเดินถือกุหลาบขาวดอกใหญ่เพื่อไปอำลาพี่สาวของเธอ เมื่อเท้าของเฌอเอมสัมผัสบันไดเมรุจากที่ตั้งใจว่าจะไม่เสียใจ แต่เอาเข้าจริงกลับไม่เป็นอย่างที่คิดภาพโล่งศพสีขาวที่กำลังรอเข้าสู่เตาเผากับเปลวไฟสีแดงที่กำลังลุกโชติทำให้น้ำตาอุ่นใสไหลนองลงมาไม่ขาดสาย มือบางค่อย ๆวางกุหลาบดอกโตบนโล่งศพไม่นานโลงสีขาวก็ค่อย ๆ เคลื่อนเข้าสู่เตาที่เปลวไฟแดงกล่ำที่กำลังลุกโชนลามเลียโล่งสีขาวซึ่งร่างพี่สาวของเธอนอนนิ่งอยู่ในนั้น ช่างเป็นภาพที่บีบคั้นหัวใจของเธอจนไม่อาจหาคำใดมาเปรียบได้ ครั้นพอประตูเตาเผาปิดลงพร้อม ๆ กับโล่งสีขาวที่กำลังถูกเปลวไฟแผดเผาให้เป็นเถ้า ไม่ต่างจากหัวใจเธอที่กำลังจะขาดลงไปทุกนาที มือเรียวลูบไล้ภาพของพี่สาวด้วยความอาลัยนึกถึงวันเวลาแสนสั้นที่อยู่ด้วยกัน ความฝันที่เคยตั้งใจจะทำด้วยกันจากนี้ไปคงไม่มีอีกแล้ว เฌอเอมยืนสะอื้นกอดรูปพี่สาวราวกับหัวใจจะแตกสลายม่านน้ำตาบดบังจนภาพตรงหน้าพร่ามัว เฌอพลอยจะรู้ไหมว่าตอนนี้หัวใจเธอได้ตายตามพี่สาวไปแล้ว
“หยุดร้องไห้เถอะคุณเอม พลอยเขาจะไม่สบายใจที่คุณยังเอาแต่เสียใจอยู่แบบนี้”ภุชงค์จับไหล่บางที่ตอนนี้คู้ลงสั่นสะเทือนไปตามแรงสะอื้นอย่างน่าสงสาร
“ขอแค่วันนี้เถอะค่ะ ที่ฉันจะอ่อนแอ”เสียงสั่นเครือพยายามกลั้นสะอื้น แข็งใจฝืนเดินลงจากเมรุแต่ก็อดมองกลับไปที่ปล่องเมรุที่ตอนนี้ควันสีขาวกำลังพวยพุ่งขึ้นฟ้า พร้อมกับหัวใจดวงน้อยของเธอที่ได้หลุดลอยตามไปด้วย
“ถ้าคุณอยากร้องก็ร้องไห้พอเถอะ แล้วหลังจากนี้ผมอยากให้คุณเข้มแข็งเพื่อพลอยจะได้สบายใจ” ภุชงค์ที่เดินตามเธอมาเพราะความเป็นห่วงเอ่ยเตือนด้วยความหวังดีที่เห็นเฌอเอมแอบนั่งร้องไห้เพียงลำพัง
“ฉันรู้ว่าไม่ควรอ่อนแอ แต่คุณไม่มีวันเข้าใจหรอกว่าเราสองคนผูกพันกันแค่ไหนเราถูกพรากกันเป็น 10 ปีแต่พอเจอกันไม่เท่าไหร่ก็ถูกพรากไปอีก เราสองคนพี่น้องทำกรรมอะไรมา เคยจากเป็นมาแล้วเจอกันไม่ทันไรก็ต้องมาจากตายกันอีก ”น้ำเสียงตัดพ้อน้อยใจในโชคชะตากับดวงตาหม่นเศร้าของเฌอเอมทำให้ภุชงค์อยากจะยื่นมือไปช่วยซับน้ำตาให้เธอเหลือเกินแต่ก็ไม่อาจทำได้อย่างใจคิด
“พรุ่งนี้คุณจะมาเก็บอัฐิด้วยกันไหม”
เฌอเอมปาดน้ำตาพยักหน้า “มาค่ะถ้ายังไงขอให้คุณรอฉันหน่อยแล้วกัน”พูดจบเฌอเอมก็ลุกขึ้น ขับรถกลับคอนโดไปทันทีเพราะไม่อยากแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็นอีกแล้ว เมื่อมาถึงคอนโดเฌอเอมรีบจัดการธุระส่วนตัวเพื่อที่จะได้มานั่งอ่านไดอารี่ของพี่สาวต่อเผื่อจะได้ข้อมูลเพิ่มเติม เธอใช้เวลาอ่านไดอารี่อย่างละเอียดอีกครั้งจนเวลาเลยมาถึงเที่ยงคืน
“ทำไมวันนี้มันหนาวแปลก ๆ นะแอร์ก็เปิดอุณหภูมิปกตินี่”เฌอเอมที่รู้สึกหนาวต้นคอแปลก ๆ ตั้งแต่กลับมาจากที่วัดจนกระทั่งตอนนี้เธอก็ยังรู้สึก เฌอเอมรู้สึกไม่สบายใจจึงหยุดอ่านไดอารี่กลับไปที่เตียงตั้งใจทำสมาธิสวดมนต์เพื่ออุทิศผลบุญให้พี่สาวของเธอ
“นั่นใครนะ”เฌอเอมร้องถามหลังจากที่เธอสวดมนต์เสร็จกำลังเดินออกมาเพื่อหยิบไดอารี่แต่กลับเห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งหันหลังอยู่ที่โซฟา เธอจึงร้องถามอีกครั้งว่าที่นั่งอยู่ตรงนั่นเป็นใครกันแน่
“ฉันถามว่าใคร ถ้าไม่ตอบฉันจะฟาดด้วยไม้กวาดแล้วนะ
”ไม่ขู่เปล่าเฌอเอมยังฟาดไม้กวาดไปเต็มแรง แต่ปรากฏว่าไม้กวาดที่ฟาดลงไปสัมผัสได้เพียงแค่ความว่างเปล่าเท่านั้น ร่างที่นั่งอยู่ยังคงนิ่งอยู่เช่นเดิม “ผะผีหลอกฉันแน่ ๆ เลย” เฌอเอมรำพึงเสียงตะกุกตะกะถอยหลังครูดไปยืนตัวสั่นอยู่มุมห้อง
“พลอยไงเอม เอมเห็นพลอยแล้วใช่ไหม” วิญญาณเฌอพลอยลอยวูบมาปรากฏตัวต่อหน้าน้องสาวด้วยความดีใจ ผิดกับน้องสาวที่แทบหยุดหายใจยืนหลับตาปี้ตัวสั่นงันงกจนผีสาวอดขำออกมาไม่ได้
“พะ พลอยเหรอ พลอยตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ”เฌอเอมกลั้นใจถามทั้ง ๆ ที่ยังหลับตาแน่น ในใจเอาตาสวดมนต์ผิด ๆ ถูก ๆ
“เอมเลิกสวดมนต์เถอะ สวดไปก็เปล่าประโยชน์สวดผิดแบบนี้พลอยไม่กลัวหรอก” เสียงเย็นกลั้วหัวเราะยิ่งทำให้เฌอเอมแทบหยุดหายใจ
“พลอยทำไมมาอยู่ทะที่นี่ล่ะ”
" พลอยคิดถึงเอม ขอพลอยมาอยู่ด้วยคนนะ" น้ำเสียงเย็นของเฌอพลอยขอร้อง
เฌอเอมกลืนน้ำลายใจหนึ่งก็กลัวผีแต่อีกใจก็ดีใจที่ได้พบพี่สาวอีกครั้งถึงจะเป็นสถานะใหม่ก็ตาม " ดะได้ มาอยู่ด้วยกันนะพลอย"
