ตอนที่ 3
ตอนที่ 3
“ไม่รู้ละ แกรับปากแล้วนี่ว่าจะช่วยฉัน ถ้าไม่ช่วยนะ เราก็ไม่ต้องมาเป็นเพื่อนกันอีกเลย ฉันจะหนีแกไปไกลๆ แล้วฉันก็จะลาตายจริงด้วย หากแกไม่สนใจจะดูดำดูดีฉัน” น้ำเสียงตัดพ้อของลลิตาก็ทำเอาปริมได้แต่นึกสงสารเพื่อนรัก ย้อนให้คิดว่าหากพ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่จะบังคับให้เธอแต่งงานแบบนี้ไหมนะ ในเมื่ออายุก็ใกล้เลขสามเข้าไปทุกที แต่ไม่สิ! ยังมีพี่ชายเธออีกคนที่ยังไม่แต่งงาน ฉะนั้นเรื่องนี้คงไม่มีทางเกิดขึ้นกับครอบครัวของเธอแน่
“ยายปริม” เสียงยานคางของเพื่อนรักครวญมาตามสาย เมื่ออีกคนเงียบ
“ก็ได้ แกนี่ชอบขู่ฉันเสียจริง เอาเถอะยังไงฉันก็ต้องช่วยแกให้ได้อยู่แล้วละ ว่าแต่แกจะกลับจากอิตาลีเมื่อไหร่ล่ะ ฉันจะได้กะเวลาถูกเผื่อมีคนตกลงทำภารกิจกับแกหลายคน แล้วฉันก็ต้องเสียเวลามานั่งสอบประวัติอีก” เสียงครวญของปริมดังขึ้น เมื่อเจอเพื่อนรักขู่ แถมยังมีการตัดพ้อให้คนขี้สงสารอย่างเธอได้ฟังและมักจะเป็นเช่นนี้ทุกครั้งที่เพื่อนรักใช้มาออดอ้อน
“อาทิตย์หน้า แล้วก็หาคนทำภารกิจที่น่าไว้ใจให้ได้ด้วย ฉันจะขอคุณป๊าอยู่ต่ออีกสักสองอาทิตย์ แต่ฉันจะแอบกลับเมืองไทยก่อน อ้อ แล้วฉันก็ขอไปอยู่บ้านพักตากอากาศของแกที่หัวหินนะ อยากหลบคนของคุณป๊านะ” คนที่คิดแผนการได้อย่างรวดเร็วก็เอ่ยปากแกมขอร้องเพราะไม่รู้จะไปหลบคุณป๊าที่ไหน นอกจากบ้านพักต่างอากาศของเพื่อนที่เธอมั่นใจว่าคนของคุณป๊าไม่มีทางหาเจอแน่ๆ
“โอเคจ้า คุณเพื่อนรัก แล้วฉันจะรีบไปควานหาผู้ชายที่โชคร้ายคนนั้นมาให้แกก็แล้วกัน แล้วถ้าแกบินกลับมาเมื่อไหร่ก็ไปเอากุญแจเข้าบ้านพักที่แม่บ้านแล้วกัน ฉันจะฝากเรื่องไว้ให้ แล้วก็ขอให้พักผ่อนให้สบาย เตรียมตัวเตรียมใจทำภารกิจของแกด้วยนะ แล้วหลังจากนั้นฉันจะพาแกไปอาบน้ำแร่แช่น้ำนม เตรียมเป็นเจ้าสาวให้คุณปราโมทย์ สามีในอนาคตของแก” ปริมตอบรับพร้อมกันนั้นก็มิวายที่จะเย้าแหย่เพื่อนรัก ให้ได้หัวเราะแต่ทว่าคงมีแต่เธอเท่านั้นที่หัวเราะได้ เมื่อว่าที่เจ้าสาวเอาแต่นั่งหน้าตูมหัวเราะไม่ออก
*********************
ติ๊ด...ติ๊ด...ติ๊ด...
เสียงของเจ้าเครื่องมือสื่อสารรุ่นใหม่เอี่ยมดังต่อเนื่องไม่หยุด เมื่อเจ้าของเอาแต่ลังเลกับการตัดสินใจที่ถูกน้องสาวเร่งเร้าจะเอาคำตอบให้ได้ แต่ทว่าผู้เป็นพี่ชายกลับบ่ายเบี่ยงเพราะยังทำใจยอมรับปากน้องสาวไม่ได้และงานที่ไร่ก็ยุ่งพอควร ทำให้ชายหนุ่มปล่อยให้โทรศัพท์คู่ใจส่งเสียงร้องไม่หยุด
“พี่ปัณ นะ พี่ปัณ จะเอายังไงก็ไม่บอกน้องสักที โทรไปก็ไม่รับ จะอะไรกันนักหนาก็ไม่รู้ แค่ช่วยเพื่อนน้องหน่อยก็ไม่ได้” เสียงหวานของปริม ธรานนท์ น้องสาวเพียงคนเดียวของปัณณธร ธรานนท์ เจ้าของไร่ธนานนท์ ฟาร์มเลี้ยงแกะ และรีสอร์ทขนาดใหญ่ที่จังหวัดราชบุรี บ่นงึมงำหลังจากเธอโทรไปขอร้องให้พี่ชายช่วยเป็นผู้พรากพรหมจรรย์ให้กับเพื่อนสาวคนสนิท แม้จะรู้ว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีใครเขาทำกันแต่เธอก็ไม่อาจปฏิเสธคำร้องขอของเพื่อนรักได้ และมันก็เป็นปัญหาหนักใจมากเมื่อเธอยังหาใครมาทำภารกิจนี้ไม่ได้เลย จึงต้องบากหน้ามาขอร้องพี่ชายสุดที่รักเป็นครั้งที่ร้อยแล้วละมั้ง แต่พี่ชายตัวดีก็ไม่ยอมตกลงเสียที
“ยายปริม ถ้าแกไม่ช่วยฉันนะ แกไม่ต้องมาเป็นเพื่อนกับฉันอีก แล้วฉันก็จะหนีหายไปเลยหรือไม่ก็ฆ่าตัวซะเลย ฮือๆๆ แกก็รู้นี่ ว่าฉันไม่ได้อยากแต่งงานและเสียความสาวของฉันให้กับอาตี๋อ้วน ลงพุง ที่คุณป๊าฉันหามาให้นี่ คอยดูนะ ถ้าไม่มีใครช่วยฉัน ฉันจะหนีไปตายเลย”
เสียงคร่ำครวญของเพื่อนรักยังคงกึกก้องตอกย้ำให้ปริม ต้องบากหน้าไปขอร้องพี่ชายเพื่อให้ช่วยทำภารกิจพรากพรหมจรรย์ แต่เธอกลับถูกพี่ชายปฏิเสธมาตลอด แถมไล่ให้เธอไปหาคนอื่นมาทำอีกต่างหาก แต่เมื่อเธอหาใครที่จะมาทำเรื่องนี้ไม่ได้ ปริมจึงจำใจต้องกลับไปอ้อนวอนพี่ชายอีกครั้ง ทว่าเธอก็ได้รับคำตอบจากพี่ชายว่าไม่มาตลอด และครั้งนี้ก็คงเหมือนกันเมื่อพี่ชายไม่ยอมรับโทรศัพท์จากเธอเสียที
