
บทย่อ
เพราะไม่อยากเสียพรหมจรรย์ให้กับอาตี๋ตัวกลม เธอจึงต้องหาหนุ่มหล่อ (น่าลาก) มาพรากพรหมจรรย์ งานเลยเข้า 'เขา' อย่างจัง เมื่อถูกขอร้องแกมบังคับให้มาพรากพรหมจรรย์ “ว้าว สุดหล่อ พ่อเทพบุตรในฝันของฉัน” ลลิตาอุทานเสียงยานคาง เพราะฤทธิ์ยากระตุ้นความต้องการที่ผสมลงไปในน้ำส้ม ดวงตากลมเล็กปรือน้อยๆ ภาพของพ่อเทพบุตรเบื้องหน้านั่นเลือนรางขึ้นเรื่อยๆ “เธอก็นางฟ้าของฉันเหมือนกัน ลลิตา” เขาครางด้วยเสียงทุ้มพร่า จัดการกับปราการบนกายออกแล้วโยนทิ้งอย่างไม่แยแส รู้สึกร่างกายมันร้อนเร่ากว่าครั้งไหนๆ ทั้งที่เขาเองก็ไม่เคยห่างหายจากเรื่องพวกนี้เลยสักนิด “แหม...ปากหวานจัง พ่อเทพบุตร” เสียงหวานพร่าของคุณหนูลลิตานั้นยั่วเย้าอารมณ์ของคนที่จิตใจกำลังเตลิดเปิดเปิงเพราะหุ่นบอบบางของหญิงสาว ยิ่งแม่สาวใจกล้าปลดปมผ้าผืนน้อยออกยิ่งทำให้เขาแทบไม่อยากกะพริบตา ทว่าก่อนที่ผ้าผืนน้อยจะหลุดลง ปัณณธรตวัดอ้อมแขนแข็งแกร่งไปคว้าร่างกลมกลึงน่าปรารถนาเข้ามา พร้อมกันนั้นริมฝีปากได้รูปก็ประกบลงบนเรียวปากนุ่มหวาน ผลงานเรื่องนี้เคยตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์แสนรัก ในชื่อเรื่อง ลวงรักซ่อนใจ เมื่อปี 2556 ส่วนฉบับ ebook ในชื่อใหม่ เนื้อหายังคงเหมือนเดิมค่ะ
บทนำ
บทนำ
ติ๊ด...ติ๊ด...ติ๊ด...
ร่างเล็กสมส่วนวิ่งออกมาจากห้องน้ำอย่างเร่งรีบ เมื่อเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์สุดหรูส่งเสียงน่ารำคาญไม่หยุดหย่อนอยู่บนหัวเตียงขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้อง ภายในห้องพักโรงแรมสุดหรูหราของกรุงโรม ประเทศอิตาลี เนื่องจากหญิงสาวร่างเล็กขออนุญาตคุณป๊าเพื่ออยู่พักผ่อนและขอเที่ยวให้ชุ่มปอดหลังจากที่ต้องเรียนหนักมาตลอด และกว่าเธอจะจบปริญญาโทสาขาแฟชั่นดีไซน์ ซึ่งเป็นสิ่งที่หญิงสาวโปรดปรานเป็นที่สุด แม้จะต้องอ้อนวอนคุณป๊าแทบเป็นแทบตายเพื่อจะได้เรียนโทสาขานี้เพราะคุณป๊าไม่ยอมท่าเดียว ทว่าเพราะรักบุตรสาวเพียงคนทำให้เจ้าสัวทรงชัยที่อายุอานามใกล้เจ็ดสิบเข้าไปทุกทีก็ยอมตามใจ เพราะอยากให้บุตรสาวเรียนจบแล้วกลับมาสานต่อธุรกิจของตระกูล ที่สำคัญต้องการให้บุตรสาวแต่งงานและรีบมีทายาทมาสืบสกุลให้เร็ววัน
“โอ๊ย….อะไรกันนี่ ร้องเข้าไป ใครกันโทรมาอยู่ได้ กวนใจจริงๆ เชียว กะจะพักผ่อนให้สบายใจเสียหน่อย” เสียงเจ้าของห้องบ่นกระปอดกระแปด คว้าผ้าผืนเล็กมาเช็ดผมแล้วเดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู
“คุณป๊านี่เอง คุณป๊าขา ต้าร์ขอโทษนะคะ ที่เผลอบ่น”
“สวัสดีค่ะคุณป๊า วันนี้คุณป๊ามีอะไรเอ่ย โทรมาแต่เช้าเลย” เสียงของบุตรสาวอ้อนไปตามสาย ทว่าผู้เป็นบิดาก็กำลังนั่งหน้าเครียด เพราะมีเรื่องในบริษัทรับเหมาและธุรกิจนำเข้ายานยนต์ที่ถูกคนภายในบริษัทฉ้อโกงไปหลายล้านแต่จนป่านนี้ก็ยังจับมือใครดมไม่ได้ แม้จะสั่งให้ทนายคู่ใจไปสืบสาวราวเรื่องให้แต่ก็ยังเงียบกริบ
“ต้าร์ หนูรีบกลับเมืองไทยให้เร็วที่สุดนะ ป๊าอยากให้หนูแต่งงาน” ผู้เป็นพ่อบอกด้วยน้ำเสียงจริงจังซึ่งทุกครั้งที่พูดเรื่องนี้บุตรสาวมักจะบ่ายเบี่ยงบอกยังไม่พร้อมและที่สำคัญเธอยังไม่มีใคร ก็ในเมื่อชายในฝันของเธอนั้นต้องหล่อล่ำ หุ่นต้องทรมานใจเธอ ที่สำคัญต้องออกแนวพ่อเลี้ยงจอมโหดหน่อยๆ ด้วยนี่สิ ทำให้สาวสวยอย่างลลิตา เพราพินิตศักดิ์ วัยยี่สิบห้าปีครองตัวเป็นโสดจนมาถึงทุกวันนี้
“คุณป๊าขา เราเคยคุยเรื่องนี้กันหลายครั้งแล้วนะคะ อีกอย่างต้าร์ยังไม่เจอคนถูกใจด้วยค่ะ” เสียงของบุตรสาวอ้อนอีกครั้ง ทว่าเธอกลับรู้สึกว่าครั้งนี้คุณป๊าของเธอคงไม่ยอมแน่
“ป๊าหาให้หนูได้แล้ว อาปราโมทย์ ลูกชายของเพื่อนป๊าไง แถมทางนั้นก็เข้ามาคุยแล้วด้วยว่าอยากได้หนูไปเป็นลูกสะใภ้ แล้วป๊าก็ตอบตกลงแล้วด้วย”
“อะไรนะคะป๊า” คนเป็นลูกร้องเสียงหลง จะให้เธอแต่งงานกับอาตี๋อ้วน ตัวกลมเป็นลูกบอลเนี่ยนะ โอ๊ย! ตายแน่ๆ แค่คิดคนอย่างคุณหนูต้าร์ สาวสวยและมั่นอย่างเธอคงต้องไปผูกคอตายแน่ๆ หากต้องมาเสียความสาวให้กับอาตี๋ปราโมทย์ตัวกลมนั่น
ไม่! เธอไม่ยอมทอดกายให้อาตี๋นั่นแน่
“ไม่ต้องมาทำเสียงดังใส่ป๊า” ฟากบิดาก็พูดแทรกขึ้น เมื่อเจอเสียงบุตรสาวตะโกนกลับมาเสียงดังเพราะตนนั้นใจเย็นมากแล้ว แล้วอีกอย่างงานธุรกิจที่มีอยู่ก็มากมาย เจ้าสัวทรงชัยก็หวังจะให้ลูกชายของเพื่อนได้ช่วยสืบสานธุรกิจต่อไหนๆ ก็เป็นเพื่อนและรู้จักกันมานมนาน
“ต้าร์ไม่แต่งนะคะ คุณป๊าก็รู้ว่าต้าร์ไม่ชอบผู้ชายแบบนั้น” คนยังไม่พร้อมแต่งงานก็พยายามขอร้องบิดา ทว่าเธอก็เจอคำสั่งเด็ดขาดจากคุณป๊าและที่สำคัญคุณป๊าของเธอยังย้ำว่ารับปากทางนั้นไปแล้วว่าจะยกลูกสาวให้เป็นสะใภ้บ้านนั้น
“คุณป๊าคะ คุณป๊า โอ๊ย! …ไม่นะ คุณป๊า” เสียงของลลิตายังคงร้องเรียกบิดาผู้ให้กำเนิดเสียงดัง ทว่าเจ้าสัวทรงชัยก็ตัดสายทิ้งไป แถมยังขู่บังคับให้อีกว่าหากไม่กลับภายในอาทิตย์นี้จะยึดบัตรเครดิตให้หมด
“คุณป๊านะคุณป๊า ทำไมไม่เข้าใจกันบ้าง โอ๊ย! จะทำยังไงดีล่ะ” เสียงพึมพำของเจ้าของห้องคนสวยที่หมดอารมณ์จะเที่ยวพักผ่อนก็นอนเกลือกกลิ้งอยู่บนเตียงไปมา พยายามคิดหาแผนการที่จะไม่ให้ตัวเองต้องแต่งงานกับอาตี๋ปราโมทย์ ทว่าเธอคิดยังไงก็คิดไม่ออก
“นี่ฉันต้องมาเสียพรหมจรรย์ให้กับอาตี๋ใส่แว่น ตัวกลมจริงๆ หรือนี่” คนที่กำลังจะถูกจับคลุมถุงชนก็ได้แต่พร่ำพรรณนานึกสภาพตัวเองไปนอนอยู่ใต้ร่างของอาตี๋ ที่ดูยังไงก็ไม่ใช่สเปกของเธอแล้วก็แทบจะอาเจียน
‘ใครก็ได้ช่วยที’
“ยายปริม” ชื่อของเพื่อนรักเปรียบเสมือนระฆังช่วยชีวิตคนคิดไม่ตกในทันที
